ความลับที่อเมริกา "เพชร"แฉ ยอมให้พ่อกระทำ

ความลับที่อเมริกา "เพชร"แฉ ยอมให้พ่อกระทำ

ตอนอายุ12เริ่มโตรับรู้แล้ว ข้องใจเงินแม่ 50ล.ทำไมหมด "ไกรสร"โต้ลั่น-ผมไม่ใช่หมา




ไม่จบง่าย - "ทิดเพชร" ลูกชายพุ่มพวง ดวงจันทร์ ให้สัมภาษณ์รายการทีวี บอกไม่มีใครรู้ระหว่างที่ตนอยู่กับพ่อมีอะไรเกิดขึ้นในบ้าน ขณะที่ฝ่ายพ่อ "ไกรสร แสงอนันต์" โต้ตัวเองไม่ใช่หมาที่จะทำอะไรลูกได้ ตามข่าว




"เพชร"ลูกพุ่มพวงเปิดใจอีกรอบ น้ำตาคลอแฉความลับตอนอายุ 12ที่อเมริกา ตอนนี้ไม่ทนให้พ่อกระทำอีกแล้ว ขอจบเรื่องราวกับพ่อและญาติทางแม่ ข้องใจเงิน 50 ล้านของแม่หายไปไหน ไปเรียนอเมริกาก็เรียนฟรีไม่ได้ใช้เงินมากเหมือนที่พ่ออ้าง อาจฟ้องร้องเพื่อให้ความจริงปรากฏ สะอื้นขอใช้ชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องมีพ่อ ไม่อยากให้พ่อเข้าใกล้ แม้แต่จะกอด ที่ผ่านมายอมทุกอย่างที่พ่อมีความสุข "ไกรสร"โต้ลั่นแต่สัตว์เดรัจฉานเท่านั้นที่ทำอย่างนั้นได้ ยันไม่ใช่หมา ยังไม่ได้ยินว่าลูกพูดอะไร แต่ถึงยังไงก็เป็นลูกพร้อมเลี้ยงดูเสมอ

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. "ทิดเพชร"สรภพ ลีละเมฆินทร์ วัย 22 ปี ทายาทคนเดียวของราชินีลูกทุ่งผู้ล่วงลับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ ไกรสร แสงอนันต์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการสด "เน็ก สเตชั่น พรหมพร" ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ออกอากาศช่วงเวลา 08.10 น. ดำเนินรายการโดย "อั๋น"ภูวนาถ คุนผลิน และ "เอิ๊ก"พรหมพร ยูวะเวส ภายหลังสึกจากพระออกมาเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา

"ทิดเพชร" สรภพ กล่าวว่า กราบขอให้ยุติข่าวทุกๆ อย่าง ตนเองก็ไม่ได้อยากให้เหตุการณ์วันที่ 13 มิ.ย.ที่วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี เกิดขึ้น ภาพที่อยู่ในผ้าเหลืองดูไม่สำรวม ด้วยเพราะเพิ่งบวชพระได้ไม่กี่วัน ยังควบคุมสติได้ไม่ดี แต่ยอมรับว่ารับไม่ได้ในวันนั้นที่พ่อและน้าๆ ดูถูกดวงวิญญาณแม่ผึ้ง-พุ่มพวง และผู้ที่บวชให้ตนนั้นคือ คุณยายบุญ สุประการ และนางสุพรรณี แม่บุญธรรม

เลือดเนื้อเชื้อไขคนเดียวของราชินีลูกทุ่งผู้ล่วงลับ กล่าวอีกว่า ด้วยความตั้งใจตอนแรกอยากไปสึกที่วัดทับกระดาน ในวันที่ 15 มิ.ย. แต่วันที่ 13 มิ.ย.ไปร่วมงานแล้วเกิดเรื่องเลย ตนยังบวชอยู่เลยต้องหนีร้อนมาพึ่งเย็นขอจำวัดที่วัดภาษี ส่วนสาเหตุที่โต้เถียงกันวันนั้น เพราะทางญาติแม่ผึ้งห้ามปรามไม่ให้ทำหุ่นแม่ผึ้งขึ้นใหม่ ถึงแม้จะเป็นลูกเป็นสายเลือดก็ตาม ตนรู้สึกสงสัยและโต้เถียงกันอย่างที่หลายคนคงได้เห็นจากภาพวันนั้น

"หุ่นแม่ผึ้ง-พุ่มพวงที่มีอยู่หลายตัวแล้วนั้น รู้สึกว่ายังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เลยอยากทำหุ่นตัวที่ 7 ขึ้นมาด้วยความตั้งใจอยากจะสร้างให้เหมือนแม่ผึ้งจริงๆ ซึ่งยังคงยืนยันจะดำเนินการสร้างหุ่นใหม่แม่ผึ้ง-พุ่มพวงต่อไป เพราะได้แรงใจจากผลโหวตในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ครั้งนั้นมีผลโหวตที่เห็นด้วยสูงถึง 93.88%" ทิดเพชร กล่าว

ทิดเพชร กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าช่วงที่จำวัดอยู่วัดภาษี รู้ความเคลื่อนไหวของพ่อและน้าๆ ที่ออกมาแถลงข่าว แต่พยายามไม่รับรู้ ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ดูทีวี แต่มีแฟนเพลงห่วงใยมาเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อรับรู้เรื่องราวแล้วยอมรับว่าเสียสมาธิ จิตฟุ้งซ่าน แต่เมื่อคิดๆ แล้วก็พยายามรวบรวมสติ ไม่โกรธ ไม่เกลียด หรือคิดอาฆาตพยาบาททางพ่อและญาติๆ เลย แต่อยากจะบอกว่าเสียใจ แทนที่จะคุยกันตกลงกันดีๆ ไม่ต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือ วันนั้นยังโชคดีที่มีครอบครัวคุณยายบุญธรรม ลุงที่เคารพนับถือ สื่อมวลชนช่วยกันทำให้รอดตายมาได้

"สาเหตุที่ผมบวชเพราะผ่านมา 17 ปีแล้วที่แม่ผึ้งจากไป ไม่อยากให้แม่ผึ้งรอนาน เลยลองจุดธูประลึกถึง แม่ผึ้งก็มาเข้าฝันว่าไม่ค่อย มีใครไปทำบุญให้แม่ผึ้งบ้างเลยที่วัดใหญ่ฯ จ.พิษณุโลก เพราะจิตแม่ผึ้งออกไปจากร่างในบริเวณวิหารนั้น ผมเลยได้ไปปรึกษาคุณยาย คุณแม่บุญธรรมดู ท่านก็รับเป็นเจ้าภาพบวชให้ จากนั้นก็ไปคุยกับท่านเจ้าคุณ ที่วัดใหญ่ ท่านเจ้าคุณเอ่ยว่ารู้ไหมว่าแม่พุ่มพวงมากับผมด้วยนะ นั่งอยู่ข้างหลังนั่นแหละ ดีใจที่ลูกจะบวชให้" ทายาทพุ่มพวงกล่าว

ทิดเพชรไขข้อข้องใจที่หลายฝ่ายสงสัยว่าทำไมถึงรักครอบครัวของ "อ้อย" แฟนสาวมาก ว่า เป็นเพราะได้อยู่กับพ่อมา 18 ปี ไม่มีความสุขเท่าไหร่ ส่วนที่เคยออกรายการกับพ่อ ดูเป็นครอบครัวอบอุ่น ขอบอกว่าเป็นเพียงแค่ละครที่เล่นออกมา แต่เบื้องหลังใครที่ไม่ใช่ตนคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรในบ้านหลังนั้น ไม่มีใครรู้ว่าตนเจออะไรบ้าง

พิธีกรชายถามว่าแล้วเคยเจออะไรมาบ้าง ทิดเพชรออกตัวขอไม่พูดดีกว่า พูดได้เพียงว่าไม่ สบายใจที่จะอยู่กับพ่อและแฟนของพ่อ

ขณะที่พิธีกรสาวถามถึงช่วงที่ไปเรียนอยู่สหรัฐอเมริกา ทิดเพชรเล่าว่า ตอนนั้นพ่อส่งไปอยู่กับแฟนพ่ออีกคนที่อยู่ที่นั่น แฟนพ่อคนนี้ไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คนที่นั่นรู้กันหมด ไปทำร้านอาหาร บางช่วงที่พ่อกลับเมืองไทย ตนก็อยู่กับแฟนของพ่อและลูกๆ ของฝ่ายหญิง พ่อพูดว่าเอาเงิน 50 ล้านบาทของแม่ผึ้งไปใช้เลี้ยงดูตนที่เมืองนอก เรื่องนี้อยากชี้แจงว่า ตนเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาล เรียนฟรี ได้ตังค์ไปโรงเรียนวันละ 5-10 เหรียญเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่เงิน 50 ล้านบาทช่วงเวลา 6 ปีจะหมดไปกับตรงนั้น

"พูดตรงๆ ตอนที่ผมอยู่กับพ่อ พ่อจะให้ผมไม่ชอบฝ่ายแม่ พอผมหนีออกจากบ้านมา ฝ่ายน้าๆ ฝ่ายคุณแม่ก็ให้ผมไม่ชอบทางฝ่ายพ่อ และผมขอเคลียร์ประเด็นที่น้าไก่-จันทร์จวง ดวงจันทร์ บอกว่าตอนที่ผมหนีออกจากบ้านไปพึ่งน้า จริงๆ แล้วผมไปขอหลักฐานเทปลับเพื่อที่จะเอาไปฟ้องมรดกพ่อ ผมขอบอกเลยว่า วันนั้นที่ไปผมยังไม่เคยรู้เรื่องเทปลับของแม่ผึ้งที่พูดไว้เลย น้าไก่พูดเองว่า น้ารู้ว่าน้องเพชรต้องมาหาน้า และให้เพชรลองฟังเทปลับนั้นดูเพื่อให้รู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง แต่ ณ วันนี้ น้าไก่กลับบอกว่า ผมเป็นคนที่จะเอาเทปลับนั้นเพื่อไปฟ้องมรดกพ่อ" ทายาทพุ่มพวง กล่าวและว่า ขอเคลียร์ใจอีกเรื่องที่คุณโอ๊ต-สิริกร (แม่เลี้ยง) ออกข่าวพูดให้ร้ายทางครอบครัวบุญธรรมของตน เฉพาะเจาะจงพูดให้ร้ายคุณอ้อย-ธิดารัตน์ ตนอยากบอกว่าการพูดอะไรควรมีหลักฐาน ถ้ามีก็เอามาเปิดเผย แต่ถ้าไม่มีขอให้ออกมาขอโทษ ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากนั้น 2 พิธีกรถามถึงประเด็นฮอตที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ นั่นคือเรื่องข่าวถูกพ่อล่วงละเมิดทางเพศ แต่ทิดเพชรขอไม่พูดถึง เกรงว่าพูดออกไปจะยิ่งเกิดเรื่องขึ้นมาอีก จึงขอเงียบดีกว่า เพราะตอนนี้ถูกสังคมบางกลุ่มมองว่าลูกก้าวร้าวพ่อ เลยไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว ขอเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว และขอให้พ่อและญาติๆ ปล่อยตนไปเถอะ เพราะถ้าคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตช่วง 18 ปีที่อยู่กับพ่อจะเข้าใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พูดถึงตรงนี้ทิดเพชรนิ่งชั่วครู่ก่อนสะอื้น น้ำตาคลอเบ้า ก่อนกล่าวด้วยความอัดอั้น ว่า "ผมขอไม่อยู่กับพ่อ ส่วนอนาคตยังไม่ได้วางแผนอะไร เพราะตอนที่บวชก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะต้องมาสู้รบปรบมือกับมารที่ท่านเจ้าคุณบอกว่าจะต้องเจอภายใน 15 วันช่วงบวช และท่านเจ้าคุณยังบอกว่าการสร้างหุ่นเป็นเรื่องยากเพราะคนใกล้ตัว และผ้าเหลืองที่ครองจะถูกดึงออก ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่ท่านเจ้าคุณกล่าวไว้"

"ยอมรับว่าตอนที่ฟังซีดีเสียงแม่ผึ้งในตอนนั้นยังไม่ได้เชื่อสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่พออยู่ไปนานๆ พ่อเริ่มออกข่าวมาเรื่อยๆ ยิ่งพาน้าๆ มาทำอย่างนี้ ผมเลยนึกเชื่อสนิทใจเลยว่าที่แม่ผึ้งพูดในเทปนั้นเป็นความจริง ส่วนที่ทำ ให้รับไม่ได้กับพ่อมีหลายเรื่อง แต่ขอไม่พูดถึง"

ผู้สื่อข่าวถามว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้น เพชรออกตัวว่าขอไม่พูดเพราะไม่มีหลักฐาน พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนเปิดประเด็นนี้ออกมา

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเกิดมานานขนาดไหน เพชรตอบว่า "ตั้งแต่ตอนอยู่เมืองนอก ช่วงนั้นเริ่มโตเริ่มรับรู้อะไรหลายๆ อย่าง ผมไปเมืองนอกตอนอายุ 12 ปี เคยพูดกับพ่อหลายครั้ง แต่พ่อบอกเป็นเรื่องธรรมชาติ เคยบอกกับลุงอำนาจ ถือเป็นญาติทางแม่ที่ผมสนิทที่สุด ลุงฟังแล้วมีท่าทีโมโหพ่อที่ทำอย่างนั้น ผมขอให้ลุงช่วยคุยกับพ่อ ลุงรับว่าจะคุยให้ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นคุยกันหรือเปล่า"

เมื่อถามว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเคยรู้สึกหลอนบ้างหรือไม่ เพชรตอบว่า "ส่วนตัวยอมรับว่าเป็นเด็กมีปัญหามีปมด้อย หลายคนรู้ว่าตอนเด็ก ผมเป็นคนอารมณ์แปรปวน อยู่ๆ ก็หงุดหงิด ขึ้นมา อยู่ๆ ก็ร่าเริง จริงๆ แล้วผมมีปัญหาปรึกษาใครไม่ได้ รู้สึกอายที่จะปรึกษา เหมือนน้ำท่วมปาก เคยคุยกับพ่อ แต่พ่อไม่รับฟัง ไม่มีใครรับฟังผม"

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าถูกกระทำมาตลอด เพชรตอบว่า "พ่อเคยบอกว่าจะหยุด จะเลิก แต่ก็ไม่หยุด ส่วนตัวไม่คิดแก้ไขปัญหานี้แล้ว ไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง เพราะเชื่อว่าคนเดิมใจเดิม และไม่เคยคิดปรึกษาใครอีกเพราะกลัวเรื่องบานปลาย แผลในใจบรรเทาตั้งแต่ผมออกมาจากบ้าน ดีขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นแผลเป็นอยู่ ยังคงไม่ลืม"

ต่อข้อถามว่าพูดเหมือนเพชรไม่อยากให้พ่อมากอดอีก เพชรตอบว่า "ผมกลัวมากกว่า ยอม รับว่าผมรักพ่อนะ แต่ขอไม่เข้าใกล้ดีกว่า"

เพชรยอมรับด้วยว่า "ตอนที่อยู่บ้านพ่อ อะไรที่พ่อมีความสุข ผมยอมหมด พ่อให้ผมทำอะไรผมยอมทุกอย่าง เมื่อก่อนยอมรับว่าตัวเองเป็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีปัญหา ไม่อยากอยู่บ้านเลยต้องพึ่งหลายๆ อย่าง พึ่งเพื่อนไปเที่ยว ไปกินเหล้า สูบบุหรี่ จนสมองตื้อ มีสารพิษเข้าร่างกายเยอะมาก แต่ ณ วันนี้หลังจากออกมาจากบ้าน ผมงดอบายมุขทุกอย่าง สุขภาพดีขึ้น สมองดีขึ้น ฝ่ายนั้นหาว่าผมโดนของ ผมเปลี่ยนไป ผมอยากจะถามว่า ผมเปลี่ยนไปในทางที่ดี มันเป็นเรื่องไม่ดีเหรอครับ"

ทิดเพชรกล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมจะหยุด และขอให้ทุกคนหยุด อย่าโกหกกันอีกเลยเพราะความลับไม่มีในโลก เห็นแก่ดวงวิญญาณของแม่ผึ้ง-พุ่มพวง เหตุการณ์วันที่ 13 มิ.ย.นั้นอีกมุมถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้ผมได้บวชเพิ่มให้กับวิญญาณแม่ผึ้งอีก 5 วัน ทำให้วิญาณแม่ผึ้งได้บุญเพิ่มมาก ขึ้น ได้ไปอยู่ในสวรรค์ชั้นดาว ดึงส์"

วันเดียวกัน ไกรสร แสงอนันต์ บิดาของ "ทิดเพชร" สรภพ มาออกรายการ "โต๊ะข่าวบันเทิง" ที่ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ พระราม 4 จากนั้นเปิดใจอีกครั้งว่า ไม่รู้ว่าลูกพูดอย่างไร ถ้าพูดก็คงมีเหตุผลในการพูด เพราะต้องการให้คนเกลียดพ่อ จะได้ออกจากบ้านไปอยู่กับคนอื่น เพื่อให้คนสงสาร แต่ถ้าคนอื่นพูด ไอ้พวกไหนมันพูดหรือรวมหัวกันคิดเรื่องนี้ขึ้นมา มันขยะ แขยงมากเลย ตนยังไม่คิดว่าจะเอาเรื่องโกหกเรื่องไม่จริงมาพูดได้ขนาดนี้ ความคิดของมันสัตว์เดรัจฉาน ตนเป็นพ่อคนเป็นมนุษย์ คิดแบบนี้หมา หมามันเอาลูกมันได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมลูกชายถึงพูดเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเท่ากับทำลายตัวเอง ไกรสรเผยว่า "ถูกต้อง พูดแบบนี้เพชรเสียอยู่แล้ว ผมไม่ทราบเลยเพชรไม่ใช่คนอย่างนี้ พ่อเคยถูกคนเกลียดมาแล้ว 17 ปี คงย้ำประเด็นเดิมเพื่อเหตุผลบางอย่าง ผมก็ไม่ทราบ มันเป็นเรื่องที่ฟังไม่ได้"

เมื่อถามว่าแล้วทำไมเพชรอยากให้คนเกลียดพ่อ ไกรสรกล่าวว่า "เพื่อให้ทุกคนโจมตีผม ให้หลายคนคิดว่าเป็นเหตุผลที่หนีออกจากบ้าน พ่อเป็นแบบนี้เขาหนีออกจากบ้านเขาถูก ถ้าเป็นเรื่องจริงคนก็สงสารเขาทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ทุกคนไม่รู้ว่าจริงๆ คืออะไร แต่ผมไม่อยากพูดเพราะเขาก็คือลูกผม ทำอะไรก็ทำไปผมตายไปก็จบ"

อดีตสามีพุ่มพวง กล่าวต่อว่า "ผมปล่อยให้เขาใช้ชีวิตมา 3-4 ปีแล้ว ไม่เคยไปตอแยเขาเลย มีแต่โทร.ไปถามทุกข์สุข ถ้าอยู่คนเดียวก็พูดดี แต่ถ้าอยู่กับพวกนั้นไม่ค่อยกล้าพูด เหมือนมีอะไรบงการข้างหลัง เพชรอยู่กับผม 18 ปี แล้ว ไปอยู่กับพวกโน้น 3-4 ปี อย่าว่า 3-4 ปีเลย แค่ 10 วันแรกก็เปลี่ยนไปแล้ว และมาด่าลูกผมว่า ขี้เหล้าเมายา ติดผู้หญิงทำตัวเหลวแหลก ติดยา ลูกเขาไม่ได้รักลูกผม มีแต่ลูกผมไปรักลูกเขา มาด่าลูกผมได้อย่างไร ผมไม่ยอม แต่ให้เพชรคิดเอาเอง ป๋ายังไม่เคยว่าลูกเลยนะ แล้วทางนั้นมาพูดอย่างนี้ได้อย่างไร ไอ้บ้า"

เมื่อถามว่าจะเคลียร์กับลูกให้ชัดเจนเลยหรือไม่ ไกรสรกล่าวว่า "ตั้งแต่ลูกออกจากบ้านผมยังไม่ได้คุยเป็นจริงเป็นจังเลย ติดต่อไม่ได้ โทร. ไปคนอื่นรับ ปิดสาย เปลี่ยนเบอร์ไม่รู้กี่ครั้ง คือผมเลี้ยงลูกแบบฝรั่ง ตามใจเขามีสิทธิ์เถียงพ่อแม่ได้ แต่ว่าความถูกต้อง ต้องมี เป็นความผิดของผมเองเพราะเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน แต่ 17-18 ปีเป็นเด็กน่ารัก แต่พอออกไปปุ๊บก็กลายเป็นเด็กแบบนี้ ใครที่รู้จักผมและน้องเพชรตั้งแต่เด็ก ช่วยออกมายืนยันเรื่องนี้ที เพราะมันเป็นปัญหาสังคมที่ใหญ่มาก กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาว่าเวลาลูกแช็ตทางอินเตอร์เน็ตต้องระวังให้ดี เจอคนดีก็ดีไป เจอคนไม่ดีก็เป็นแบบนี้ น้องเพชรเป็นคนหัวอ่อน คิดดีก็ดี แต่คิดไม่ดีก็อย่างนั้น โดนของหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ มีคนบอก แต่ป๋าไม่อยากเชื่อว่ามันมีจริง ไม่รู้ดูกันเอาเอง"

ไกรสรกล่าวต่อว่า "คงแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง ผมไม่ได้ทำอะไรลูก ผมไม่ได้คิดอะไรกับลูก ผมสาบานไปแล้ว ต่างคนต่างสาบาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงแต่อย่าทำร้ายลูกผม ผมรู้ว่าเขาผิดพันเปอร์เซ็นต์ เขาโกหกมาเยอะ แต่ไม่ต้องไปลงโทษเขา เพราะเขาเป็นคนบริสุทธิ์มีคนไปใส่ข้อมูลให้ผิดๆ"

อดีตสามีพุ่มพวง กล่าวอีกว่า "เขาทำตัวแบบนี้แล้วนายทุนจะจ้างเขาไหม สังคมไทยลูกออกมาไม่เคารพพ่ออย่างนี้ เวรกรรมมันมีครับ เขาต้องคิดกันว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนไหม มีรายการดีๆ หลายรายการที่ไม่เอาไปออกรายการ เพราะทำตัวไม่เหมาะสม"

เมื่อถามว่าวันนี้เพชรบอกว่าอยากขอสมบัติของแม่จากพ่อ ไกรสรตอบทันทีว่า "ใครจะเอาก็มาเอา ช่วยใช้หนี้ให้ด้วยแล้วกัน คือจำนวนเงินหลังจากคุณผึ้งเสียไปมันไม่ได้มากขนาดนั้น เงินก็แบ่งกันคนละเล็กละน้อย ทางแม่ยายทาง พี่น้องพอใจกันหมดแล้ว เงินที่เหลือผมก็พาเขาไปเลี้ยงดูเมืองนอก แล้วก็มีเงินทุนเล็กๆ น้อยๆ เผื่อเขาพลาดขึ้นมา ผมก็จะเอาเงินตรงนี้มาเลี้ยงเขา ไม่มีใครรักเขาจริงหรอก ยังไงเขาก็เป็นลูกผม พลาดมาขาขาด หรือบ้ามาผมก็ยังเลี้ยงดูครับ"

ต่อข้อถามว่าถ้าลูกถึงขั้นฟ้องพ่อเรื่องสมบัติ ไกรสรกล่าวว่า "ไม่เป็นไรครับ เอาชีวิตพ่อยังได้ สำหรับผมกับลูกอาจสร้างเวรกรรมไว้แต่ชาติปางก่อน ความจริงผมก็ตัดเวรกรรมแล้ว ปล่อยให้กาลเวลาเป็นเครื่องตัดสิน อยู่กันไปเถอะแล้วมันจะตัดสินเอง ผมไม่อยากจะทายว่าจะอยู่กันกี่ปี"

ไกรสรกล่าวถึงมารดาบุญธรรมของเพชรว่า "ไปสืบประวัติ 3 คนนี้ให้ดี ที่เชียงราย ไปถามชาวบ้านแถวนั้นว่าทำอาชีพอะไร อย่าให้ผมพูด ไปถามเอาเองว่าทำอาชีพอะไร"

ไกรสรกล่าวถึงลูกว่า "ยังไงป๋าก็รักลูก มาเถอะ แต่อย่ามาหาป๋าเพื่อร้องเพลงให้ดังไม่เอานะ เพราะคงไม่มีใครเอาแล้ว ชีวิตลูกมันพังหมดแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาเรียนก็แล้วกัน ลูกโตแล้วอย่าให้ใครคนอื่นคิดแทน พูดมาหลายครั้งแล้วอย่าให้คนอื่นคิดแทน ป๋าไหว้อีกทีก็ได้"

หลังจากกล่าวจบ ไกรสรยกมือขึ้นไหว้ ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า "มีคนเคยบอกว่าเดี๋ยวนี้เพชรตกต่ำถึงขนาดไปของานคนโน้นคนนี้ ลูกเป็นลูกราชินีลูกทุ่งนะ ไปของานคนอื่นทำได้อย่างไร ใครใช้ให้ขอล่ะลูก"

ไกรสรยกมือขึ้นไหว้ ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า "มีคนเคยบอกว่าเดี๋ยวนี้เพชรตกต่ำถึงขนาดไปของานคนโน้นคนนี้ ลูกเป็นลูกราชินีลูกทุ่งนะ ไปของานคนอื่นทำได้อย่างไร ใครใช้ให้ขอล่ะลูก"

แหมเด็กมันคิดดีทำดีแล้วนิ
เป็นลูกราชินีลูกทุ่งแล้วไง
ทำงานทำการ ไม่อ่อนน้อมได้เหรอ
ถามหน่อย....
เวลาคุณพุ่มพวงขึ้นเวที ไม่เคยกล่าวพร้อมไหว้ผุ้ชมหรือคะ

  ไร้สาระ

ขอบคุณครับ!!!