หน้าแรก เว็บบอร์ด


สั่งพิมพ์

แฟน"เพชร"ขู่ ฟ้องแม่เลี้ยง

แฟน"เพชร"ขู่ ฟ้องแม่เลี้ยง

จำนวนคนอ่านล่าสุด 625 คน  วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6781 ข่าวสดรายวัน
http://www.matichon.co.th/khaoso ... 09TMHdOaTB5TXc9PQ==

แฟน"เพชร"ขู่ ฟ้องแม่เลี้ยง

หมิ่นถูกรุมโทรม "ไกรสร"โฮแถลง




ช้ำใจ - นายไกรสร แสงอนันต์ ร่ำไห้แถลงเรื่องที่ตัดสินใจฟ้องร้องนายสรภพ หรือน้องเพชร ลีละเมฆินทร์ ลูกชาย พร้อมทั้งโชว์รูปถ่ายตัวเองกับน้องเพชร พร้อมคำอวยพรที่ลูกเขียนให้ เมื่อ 22 มิ.ย.


"ไกรสร"แถลงร่ำไห้อีกรอบ ยืนยันฟ้องลูกเพชร โชว์หลักฐานแจ้งความแล้ว เผยเจ็บปวดที่สุดที่ต้องมาฟ้องลูกตัวเอง แต่จำเป็นเพื่อให้กฎหมายนำเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์เพื่อตรวจสมอง ขณะที่ "น้องเพชร" ยันตัวเองปกติ พร้อมให้ตรวจพิสูจน์ แต่พ่อต้องตรวจด้วยและขอหมอที่เป็นกลางเท่านั้น ขณะที่แฟนสาวเตรียมฟ้องแม่เลี้ยงโอ๊ต กล่าวหาว่าถูกรุมโทรม

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ จ.เชียงใหม่ นายไกรสร แสงอนันต์ พร้อมด้วยนางสิริกร อินทร์พรหม ภรรยา นายนที ธีระโรจน์พงษ์ เลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่อาริยะ แถลงข่าวหลังเข้าแจ้งความ โดยระบุว่า ในวันที่ 21 มิ.ย. เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับนายสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือ "น้องเพชร" บุตรชาย, น.ส.ฐิติรัชต์ รักปุณยะเกียรติ หรือ "น้ำอ้อย" แฟนสาว และนางสุพรรณี สุประการ แม่บุญธรรม ในข้อหาหมิ่นประมาท

ในการแถลงข่าวครั้งนี้นายไกรสรเตรียมเอกสารต่างๆ พร้อมรูปภาพตนเองกับลูกเพชรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งการแช็ตพูดคุยระหว่างน.ส.น้ำอ้อย กับลูกเพชร ทางอินเตอร์เน็ต โดยปรินซ์ออกมาอย่างละเอียด รวมทั้งเอกสารใบแจ้งความกับพนักงานสอบสวนด้วย

นอกจากนี้ในงานแถลงข่าวยังมีผู้นำดอกไม้มาให้กำลังใจนายไกรสร และกลุ่มวัยรุ่นที่เคยผ่านรักษาที่ ร.พ.สวนปรุง เนื่องจากเคยมีอาการทางสมอง นั่งฟังการแถลงข่าวและเล่าถึงประสบการณ์ให้นายไกรสรฟัง โดยนายไกรสรให้ความสนใจเป็นพิเศษด้วย รวมทั้งผู้ปกครองของเด็กที่มีปัญหาก็เข้ามาฟังและสอบถามปัญหาต่างๆ จากนายแพทย์ที่มาร่วมแถลงข่าวร่วมกับนายไกรสร อีกด้วย

นายไกรสร เปิดใจอีกครั้งว่า ตั้งแต่น้องเพชรเกิดมา เลี้ยงลูกมาด้วยความทะนุถนอมจนบางครั้งรู้สึกผิดที่ทำดีเกินไป ช่วงชีวิตที่ผ่านมาตนให้แต่สิ่งที่ดีที่สุด พาไปเรียนต่างประเทศ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น แต่หลังจากกลับมาเมื่อน้องเพชรอายุ 17 ปี และเข้าเรียนที่โรงเรียนนานาชาติเชียงใหม่ ทำให้น้องเพชรพบกับแฟนคลับคนหนึ่งที่ จ.เชียงราย แฟนคลับคนนี้บอกกับน้องเพชรว่าน้าสาวอยากรู้จักจึงเอาอีเมล์ของน้องเพชรให้น้าสาวคนนี้ไป มาทราบภายหลังว่าน้าสาวคนนี้ก็คือ น.ส.ฐิติรัชต์ หลังจากรู้จักกับ น.ส.ฐิติรัชต์ น้องเพชรเริ่มเปลี่ยนไปจนกระทั่งหนีออกจากบ้านไปอยู่ด้วยกัน

นายไกรสร กล่าวว่า รู้สึกโกรธที่น้องเพชรออกมาพูดว่าพ่อฆ่าแม่ แต่ก็คิดว่าไม่ถือสา คิดว่าคงจะพูดเอาใจแฟนและแม่ยาย แต่สุดท้ายที่ออกมาพูดว่าตนล่วงละเมิดทางเพศ มันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก คิดว่า แต่ลูกอาจต้องการให้ทุกคนเกลียดตนแล้วมารักลูก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีแพทย์ที่ ร.พ.รามาฯ และอีกหลายๆ คน มาบอกว่าน้องเพชรไม่ปกติ มีใครบางคนทำให้สมองเพชรไม่ได้คิดด้วยตัวเอง ต้องรีบเข้าไปช่วย หมอบอกว่าอันตราย 3-4 ปี ยังเป็นขนาดนี้ หากปล่อยให้นานกว่านี้ อาจถึงขั้นฆ่าตัวตายหรือฆ่าพ่อได้


โต้ออกทีวี- "น้องเพชร"สรภพ ลีละเมฆินทร์ กับน.ส.ธิดารัตน์ หรืออ้อย อรรถรัฐ แฟนสาว เปิดใจผ่านรายการตีสิบ ยืนยันพร้อมจะไปให้จิตแพทย์ตรวจตามความต้องการของของนายไกรสร แสงอนันต์ แต่ต้องเป็นจิตแพทย์ที่เป็นกลางเท่านั้น เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.


"เจ็บปวดที่สุดที่ต้องมาฟ้องลูกของตัวเอง แต่จำเป็นต้องทำเพื่อให้อำนาจทางกฎหมายเอาน้องเพชรเข้าสู่กระบวนการทางการแพทย์ ให้แพทย์เข้ามาดูแลโดยเร็ว ผมและทุกคนในครอบครัวต้องการนำเพชรกลับมาสู่สังคม กลับมาเป็นคนเดิม อยากให้แพทย์มาตรวจดูว่าอาการหนักถึงขั้นไหนและช่วยรักษาลูกชายให้ถึงที่สุดก่อนจะแย่ไปกว่านี้ แต่หากผลตรวจออกมาว่าน้องเพชรปกติ ก็ถือว่าผมเองที่ผิดปกติ จะต้องเอาผมไปรักษา ผมยอมรับผมรักลูกผมมากเป็นห่วงเขาปัญหาที่เกิดขึ้น วันไหนที่น้องเพชรคิดเองได้ ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี" นายไกรสร กล่าวทั้งน้ำตา

ด้านนางสิริกร กล่าวว่า เห็นใจคนเป็นพ่อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีการสร้างกระแส หรือหวังผลประโยชน์อะไร ส่วนที่ น.ส.ฐิติรัชต์ ให้ตนขอโทษที่ออกมาพูดพาดพิง คิดว่าไม่จำเป็น เพราะพูดด้วยความจริง ถ้าจะฟ้องก็เอาหลักฐานมา พร้อมที่จะต่อสู้ทุกรูปแบบ คุณไกรสร นั้นตอนนี้อยู่ในสภาพที่เหมือนถูกพรากลูกออกจากอก มันเจ็บปวด เพราะทุกวันที่ 13 มิ.ย.ของทุกปีก็จะมีงานคุณพุ่มพวง เป็นการรวมญาติ คุณไกรสรต้องทุรนทุราย ลูกฉันหายไปไหน คนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมรู้ได้ว่าเจ็บปวดขนาดไหน

รศ.น.พ.ไพรัตน์ พฤกษชาติคุณากร ผู้เชี่ยวชาญจิตเวชศาสตร์และเวชศาสตร์ครอบครัว กล่าวว่า ต้องดูว่าความคิด ตรงนี้มาจากไหน ต้องดูองค์ประกอบว่า การพูดแบบนี้มาจากการเจ็บป่วยหรือไม่ หรือหากป่วยจริงต้องดูว่าเป็นโรคอะไร ทั้งนี้การบำบัดต้องใช้เวลา ต้องมีกระบวนการทางจิตเวช ตอนนี้ไม่มีใครว่าน้องเพชรป่วย แต่เป็นเพียงข้อสงสัย ในเบื้องต้นดูแล้วว่าเด็กยังไม่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ ความคิด คำพูด การตัดสินใจอาจยังไม่เหมาะสม ทั้งนี้แม้จะได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี แต่ก็อาจมีสาเหตุอื่นหลายด้านที่ทำให้เปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์ เรายังไม่รู้ว่าในช่วงที่หายไปจากครอบครัว มีองค์ประกอบอะไรมาเสริมในช่วงนั้น เช่น มีแอลกอฮอล์ อินเตอร์เน็ตก็มีส่วน ทั้งนี้อารมณ์ชั่ววูบในกรณีของน้องเพชรที่พูดออกมาอาจถือเป็นการเบี่ยงเบนได้ชนิดหนึ่ง


นายนที ธีระโรจนพงษ์ เลขาธิการกลุ่มเชียงใหม่อาริยะ เปิดเผยว่า คุณไกรสรทำถูกแล้วที่มาแถลงในวันนี้ พวกเราจึงไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เชียงใหม่อาริยะทำงานในเรื่องของอาริยะและในเรื่องของครอบครัว เราจะปล่อยผ่านได้อย่างไร การที่ลูกมีปัญหาทางบ้านกับพ่อและแม่ก็ถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่จะต้องมาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนที่มีคำถามที่ว่าประธานกลุ่มเชียงใหม่อาริยะเองแม้แต่ปัญหาครอบครัวของตนเองยังแก้ไม่ได้ แล้วจะไปช่วยแก้ไขปัญหาของสังคมและครอบครัวของคนอื่นโดยส่วนร่วมได้อย่างไรนั้น เรื่องนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณไกรสร

เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากห้องพระราม 2 ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 2 ในวันนี้มีการบันทึกเทปรายการ "ตี 10" โดยมี "น้องเพชร" สรภพ ลีละเมฆินทร์ พร้อมดัวย "อ้อย" น.ส.ธิดารัตน์ อรรถรัฐ แฟนสาว มาเปิดใจในรายการ พิธีกร วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ทำหน้าที่ซักถาม

นายวิทวัส เริ่มรายการว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค.51 ทางรายการเชิญน้องเพชร กับคุณไกรสร แสงอนัตน์ มาปรับความเข้าใจกันในรายการ เหตุการณ์วันนั้นทางรายการมีการตัดต่อ มีการบันทึกเทปสองช่วงด้วยกัน เพราะช่วงแรกที่บันทึกเทปน้องเพชรแข็งกร้าวกับคุณพ่อมาก ตนอยากให้พ่อกับลูกคุยกัน หลังจากนั้นคุยกันตัวต่อตัวอยู่ 2 ชั่วโมง แล้วไกล่เกลี่ยกันได้ดีก็มีการบันทึกเทปในช่วงที่สอง และสองช่วงนั้นเราตัดต่อให้เกิดความสันติในครอบครัวขึ้น

"น้องเพชร" กล่าวเสริมว่า ตอนนั้นตนกับพ่อก็ดีจริงๆ แต่ความรู้สึกยอมรับว่ายังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้าน "อ้อย" กล่าวว่า หลังจากนั้นทางคุณไกรสรก็คุยดีกับครอบครัวของตน คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว เรื่องคงจบแล้ว

วิทวัส ถามต่อไปว่า ในเมื่อเหตุการณ์มันคลี่คลายแล้วทำไมมาปีนี้วันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมาถึงเกิดเรื่องราวขึ้นมาอีก เพชรเผยว่า ครั้งแรกที่ทะเลาะกันอยากให้ทุกคนกลับไปดูภาพวันนั้น ตอนแรกขัดแย้งกันเรื่องหุ่น ตนเองก็ไม่เข้าใจเพราะเป็นสายเลือดโดยตรงและบรรลุนิติภาวะแล้ว

เมื่อถามว่าในเรื่องของการล่วงละเมิดทางเพศ เพชรกล่าวถึงกรณีนี้ว่า ไม่ว่าใครจะถามตนกี่รอบๆ อีก 10-30 ปี ก็พูดเหมือนเดิมว่า ไม่ตอบ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นไปพาดพิงและกลายเป็นประเด็นต่อไป แต่ยอมรับว่ามีเรื่องเกิดขึ้น แต่ขอไม่บอกว่าอะไรดีกว่า แต่ตนถือว่าทนไม่ได้เหมือนกัน

วิทวัส ซักต่อไปว่าวันนี้ทางคุณไกรสรไปแจ้งความแล้ว พ่อบอกว่า น้องเพชรมีปัญหาทางจิตที่ต้องตรวจสอบโดยแพทย์ เพชร เผยว่า อยากจะบอกว่าถ้าเกิดป่วยทางจิตจริง คงบวชไม่ได้ คงร้องเพลงไม่ได้ คงพูดไม่รู้เรื่องและเรียนหนังสือไม่ได้แน่นอน ยืนยันว่าปกติดี อยากให้ทุกคนพิสูจน์ดู

วิทวัส ถามต่อไปว่า ทางคุณไกรสรบอกว่า น้องเพชรอาจจะไม่ได้พูดจากความรู้สึกของตัวเองแท้ๆ อาจจะไม่ได้เป็นตัวของตัวเอง ตรงนี้เพชรเผยว่า อยากบอกว่าตนเกิดมาก็เป็นแบบนี้ ยอมรับว่าตอนที่อยู่กับพ่อเกิดปัญหามากมายในครอบครัวและก็ออกนอกบ้านไปพึ่งอบายมุขหลายๆ อย่าง

"พอผมมาอยู่กับครอบครัวของคุณอ้อย ทางคุณแม่และคุณยายสอนให้งดอบายมุขทุกอย่าง รักษาตัวเอง ถือศีลเข้าวัด ตอนนี้สมองดีขึ้น ผมไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงของผมอย่างที่พ่อบอก เปลี่ยนแปลงแบบไหน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่เท่าที่ผมรู้คือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี"

วิทวัส ถามต่อว่า คุณพ่อพูดว่าที่เพชรไม่เป็นตัวของตัวเองเป็นเพราะคนรอบข้าง โดยเฉพาะแฟนสาว เพชรกล่าวว่า ไม่มีใครสามารถจูงจมูกตนได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่ตนจะเชื่ออะไรต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยตัวเองก่อน วิทวัสถามอีกว่า วันนี้ทางคุณไกรสรแถลงข่าวที่เชียงใหม่และเอาคณะแพทย์มาพูดถึงอาการทางจิตของน้องเพชร ตรงนี้เพชรรู้สึกอย่างไร เพชรเผยว่า รู้สึกเสียใจ ไม่ทราบว่าพ่อพูดไปอย่างนั้นเพราะอะไร

วิทวัส ถามต่อไปว่า ทางคุณไกรสรบอกว่าทางอ้อย กับ เพชรเจอกันเพราะแช็ตกันในอินเตอร์เน็ต แล้วมารักกันทีหลัง เพชรปฏิเสธว่า ตนเจอกับอ้อย เพราะเมื่อก่อนทำงานที่ค่ายอาร์เอสฯ ตอนนั้นเป็นศิลปินฝึกหัดอยู่ คุณอ้อยเรียนปี 4 มาฝึกงานที่นั่น

หลังจากบันทึกรายการเสร็จแล้ว เพชร กับ อ้อย เปิดใจว่า "ผมไม่อยากพูดหลายๆ ครั้ง แต่มีนักข่าวสงสัย ถ้าไม่ตอบมันก็จะน่าเกลียด อยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่าคำไหนคำนั้นคือผมไม่พูดอะไรแล้ว"

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จากที่ไกรสรแถลงข่าวอยากให้น้องเพชรไปตรวจสอบสุขภาพจิต เพชร เปิดเผยว่า แล้วแต่พ่อ ถ้าพ่อจะให้ตนตรวจ ก็ฝากบอกพ่อให้เขาตรวจด้วย ยินดีให้ตรวจแต่ต้องเป็นหมอที่เป็นกลางนะ ไม่ใช่หมอของพ่อ เป็นไปได้ก็ตรวจพร้อมกันเลย

เมื่อถามต่อว่า เหมือนตัดพ่อตัดลูกหรือเปล่า เพราะระยะหลังๆ เพชรพูดว่าต่างคนต่างอยู่ เพชร เผยว่า ต่างคนต่างอยู่ในที่นี้หมายถึงอยู่กันคนละบ้าน ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน "เรื่องตัดพ่อตัดลูก ผมไม่ได้ตัดขาด ผมบอกเลยว่า ผมรักพ่อไม่เคยเกลียดพ่อเลย และตอนนี้ผมอยู่ในวงการบันเทิงมันก็มีโอกาสสูงที่จะเจอพ่อและทางน้าๆ อีก ก็ต้องทักตามปกติ เคารพทั้งพ่อและน้า ไม่มีทางตัดตรงนั้นแน่นอน"

ผู้สื่อข่าวสอบถามอ้อย ว่าสรุปจะฟ้องภรรรยาใหม่ของ ไกรสร หรือไม่ อ้อย กล่าวว่า "อ้อยอยากจะพูดว่าถ้าเกิดว่าคุณมีลูกสาว แล้วมีคนมาพูดกับลูกสาวของคุณแบบนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ไม่ใช่ว่าออกมาพูดแบบนั้นแบบนี้ ตอนแรกออกมาพูดว่าคนเดียวเป็นแฟนข่มขืน ตอนหลังบอกว่ามากัน 4 คน รุมโทรม"

"เรื่องการฟ้องร้อง ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ว่าเราไม่มีการมาแจ้งว่าตอนนี้ทำอะไร เพราะเราไม่อยากดัง ขอให้เป็นการดำเนินคดีแบบคนทั่วไปแบบเงียบๆ ส่วนเรื่องการกระทำชำเรา ล่วงละเมิด ขอให้คุณโอ๊ตเลิกใส่ร้าย เราจะดำเนินคดีแน่นอน แต่ไม่ขอบอกว่าที่ไหนอยากดำเนินคดีแบบเงียบๆ ไม่อยากเป็นข่าว"
ไฟลล์แนบ: ระดับของกลุ่มสมาชิกนี้ไม่สามารถมองเห็นไฟลล์แนบได้
**ไม่เม้นท์ก้อไม่ง้อออออออ**

TOP