ที่จริงก่อนหน้าที่ซีซั่น 2018-19 จะปิดฉากลง เรอัล ก็ยรรลุข้อตกลงดึง 2 แข้งมาร่วมทีมได้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว นั่นคือ เอแดร์ มิลิเตา ฟูลแบ็กจาก เอฟซี ปอร์โต้ ที่มีค่าตัว 50 ล้านยูโร กับ โรดรีโก้ โกเอส กองหน้าดาวรุ่งที่มีค่าตัว 45 ล้านยูโร (ประมาณ 1,620 ล้านบาท) นั่นหมายความว่าทีมของกุนซือ ซีเนดีน ซีดาน เสียเงินไปแล้วราว 255 ล้านยูโร (ประมาณ 9,180 ล้านบาท) กับการเสริมทัพ 4 ราย
เป็นที่เชื่อว่า ซีดาน ยังไม่พอใจแค่นั้น โดยเขาเล็งที่จะดึงมิดฟิลด์ตัวกลางมาร่วมทีมอีก ซึ่งเป้าหมายที่เล็งเอาไว้คือ ปอล ป็อกบา ดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คริสเตียน เอริคเซ่น จอมทัพ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ทั้งคู่สามารถรับบทบาทคล้ายกันได้ และต่างก็มีค่าตัวสูงทั้งคู่ ทำให้ เรอัล อาจจะต้องเลือกซื้อแค่คนใดคนหนึ่ง ซึ่งนั่นก็นำไปสู่คำถามที่ว่า เรอัล ควรจะซื้อใครดี ? โดยวันนี้เราก็จะนำเอาผลงานในลีกจากฤดูกาลก่อนของทั้งคู่มาเทียบกันไปเลย เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจว่าใครที่คู่ควรจะได้ไปอยู่กับ เรอัล มากกว่ากัน
- การผ่านบอล
แน่นอนว่าหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของกองกลางคือการผ่านบอล ซึ่งถ้านับเฉพาะการผ่านบอลเข้าเป้าแล้วนั้น ป็อกบา ทำได้ดีกว่า หลังจากเปอร์เซ็นต์ความแม่นยำในการผ่านบอลของเขาอยู่ที่ 82.8 เปอร์เซ็นต์ จากการผ่านบอลทั้งหมด 2,068 ครั้ง ขณะที่ของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 81 เปอร์เซ็นต์ จากการผ่านบอลทั้งหมด 1,872 หน
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูกันที่การผ่านบอลซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทำประตูให้ทีมแล้วล่ะก็ เอริคเซ่น ก็ทำได้ดีกว่า หลังจากเขาผ่านบอลได้ดีจนเป็นการสร้างจังหวะทำประตูให้ทีมถึง 73 ครั้ง ขณะที่ของ ป็อกบา อยู่ที่ 55 หน นอกจากนี้ ถ้าเจาะลึกไปเป็นการผ่านบอลที่สร้าง "โอกาสทอง" ในการทำประตู หรือก็คือการทำให้ทีมมีโอกาสดีที่จะยิงได้มากกว่าแบบแรกแล้วนั้น สถิติด้านนี้ของ เอริคเซ่น ก็อยู่ที่ 10 หน ส่วนของ ป็อกบา อยู่ที่ 7 ครั้ง
แน่นอนว่าพอเป็นอย่างนั้นมันก็ทำให้ เอริคเซ่น มียอดการแอสซิสต์ในลีกประจำฤดูกาล 2018-19 ดีกว่าอีกฝ่ายด้วย หลังจากเขาทำไป 12 แอสซิสต์ ขณะที่ ป็อกบา ทำได้ 9 แอสซิสต์ อย่างไรก็ตาม ป็อกบา ก็มีจำนวนครั้งในการสร้างโอกาสทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ดีกว่าอีกฝ่ายนิดหน่อย หลังจากทำได้ 54 หน ส่วนของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 50 ครั้ง นอกจากนี้ เขาก็ผ่านบอลยาวเข้าเป้าดีกว่าอีกฝ่ายด้วย จากค่าเฉลี่ยการผ่านบอลยาวเข้าเป้า 4.7 ครั้งต่อเกม ส่วนของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 2.3 หนต่อนัด
- การทำประตู
แน่นอนว่าด้านนี้ ป็อกบา สามารถคุยข่มอีกฝ่ายได้ เพราะในฤดูกาลก่อนเขาทำประตูในลีกได้ 13 ลูก จากการยิง 105 ครั้ง ส่วนของ เอริคเซ่น ทำได้ 8 ประตู จากการยิงทั้งหมด 83 หน ทำให้ถ้านับรวมจำนวนประตูกับแอสซิสต์แล้วนั้น ป็อกบา ก็ทำไปรวมแล้ว 22 ครั้ง ส่วนของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 20 หน
บางคนอาจจะบอกว่าการที่ ป็อกบา ยิงเยอะกว่า มันทำให้เขามีโอกาสทำประตูได้มากกว่าอีกฝ่าย แต่ถ้าดูที่เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนโอกาสทำประตูให้เป็นสกอร์แล้วนั้น ผลงานของดาวเตะชาวฝรั่งเศสก็ยังเหนือกว่าอยู่ดี ที่จำนวน 12.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 9.6 เปอร์เซ็นต์
- เกมรับ
บางครั้งมิดฟิลด์ก็จำเป็นจะต้องช่วยเกมรับให้ดี ซึ่งในกรณีนี้ ป็อกบา ทำได้ดีกว่า เอริคเซ่น นิดหน่อย หลังจากเขาเข้าสกัดโดนบอล 47 หน ส่วนของดาวเตะชาวเดนมาร์กอยู่ที่ 41 ครั้ง นอกจากนี้ ป็อกบา ก็ยังตัดบอลแบบไม่ต้องเข้าสกัดได้ 18 ครั้ง มากกว่าอีกฝ่าย 3 หนด้วย
นอกจากนี้ เวลาดวลกับคู่แข่งตัวต่อตัว ป็อกบา ก็ยังเอาชนะได้ถึง 47.5% ส่วนของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 38.6% โดยที่ ป็อกบา ยังโดนเลี้ยงผ่านได้เพียง 0.7 ครั้งต่อนัดด้วย ขณะที่ของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 1.2 ครั้งต่อเกม
- อื่นๆ
นอกจากจะผ่านบอลได้ดีในระดับหนึ่งแล้วนั้น ป็อกบา ยังเลี้ยงบอลได้ดีพอตัวด้วย โดยเขาเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 61.9% ส่วนของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 47.4% ซึ่งนั่นก็มีส่วนทำให้เขาเรียกฟาวล์ได้ 2 ครั้งตี่อเกม ขณะที่ของ เอริคเซ่น อยู่ที่ 0.5 หนต่อนัด
อย่างไรก็ตาม ถ้าวัดที่เรื่องความเหนียวแน่นในการครองบอล เอริคเซ่น เหนือกว่าเยอะ โดยเขาโดนคู่แข่งแย่งบอลไปเพียง 0.8 หนต่อนัด ขณะที่ ป็อกบา เสียบอลให้คู่แข่งง่ายๆ 2.5 หนต่อเกม นอกจากนี้ ป็อกบา ยังจับบอลแย่จนทำให้บอลหลุดไปเข้าทางคู่แข่ง 2.1 หนต่อเกมด้วย ขณะที่ เอริคเซ่น ทำพลาดน้อยกว่าด้วยจำนวน 1.7 ครั้งต่อนัด
สรุป : ถ้าวัดเฉพาะความสำคัญในการผ่านบอล เอริคเซ่น ดูดีกว่าในภาพรวม อย่างไรก็ตาม ถ้าเทียบด้านอื่นๆ อย่างพวกการเลี้ยงบอล, การทำประตู และ การเล่นเกมรับ ป็อกบา ดูดีกว่าในระดับหนึ่ง โดยถึงแม้ เอริคเซ่น จะเหนือกว่าในด้านการมีสมาธิในการเล่น รวมถึงการครองบอลได้เหนียวแน่น แต่ถึงอย่างนั้น ป็อกบา ก็ยังดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่าสำหรับ เรอัล อยู่ดี
โพสต์โดย : eieieieieiei เมื่อ 11 มิ.ย. 2562 23:22:33 น. อ่าน 140 ตอบ 0