ฟานไดค์ โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมสุดๆ ในฤดูกาล 2018-19 เป็นส่วนสำคัญพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ พร้อมถูกยกให้เป็นตัวเต็งในการซิลลูกบอลทองคำในปีนี้ไปครอง ซึ่งคนที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งในการลุ้นรางวัลนี้มากที่สุดของเจ้าตัวก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอก บาร์เซโลน่า
อย่างไรก็ตาม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังมีโอกาสเช่นเดียวกันแม้จะมีผลงานดร็อปลงไปมากด้วยเหตุผลดังนี้
3.การคว้าแชมป์เนชั่นส์ ลีก
ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก เพิ่งได้รับการจัดตั้งจากยูฟ่าเพื่อมาแทนโปรแกรมกระชับมิตรที่เคยไม่มีความหมาย ปรับมาทำให้สนุกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น โดยมีระบบการคิดคะแนน และสิทธิ์เพลย์ออฟเพื่อเข้ารอบ ยูโร 2020 แบบอัตโนมัติ เอามาล่อใจ
ทีมชาติโปรตุเกสกลายเป็นทีมที่ประเดิมคว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้กับ โรนัลโด้ หลังจากดาวยิงจากยูเวนตุสซัด 3 ประตูในรายการนี้ช่วยทีมเถลิงแชมป์ได้สำเร็จ พร้อมกลายเป็นแชมป์สองรายการสำคัญในระยะเวลาสามปีของเจ้าตัวอีกด้วย ซึ่งนี่คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เขาจะคว้าลูกบอลทองคำในปีนี้ไปครอง
2.คนสำคัญในเกมสำคัญ
ฤดูกาลแรกของ โรนัลโด้ กับทีมดังแห่งตูรินหลายคนอาจจะผิดหวังเล็กน้อย เมื่อเขาไม่สามารถพาทีมไปถึงฝั่งฝันในถ้วยใบโตของยุโรปได้ รวมถึงผลงานส่วนตัวในลีกก็ยังไม่ร้อนแรงอย่างที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ จากการทำไป 28 ประตูในลีก
อย่างไรก็ตามจากอายุที่มากขึ้น และต้องใช้เวลาปรับตัวกับลีกใหม่อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากหากจะคาดหวังกับฟอร์มการเล่นของเขาเช่นเดียวกับปีก่อน แต่สิ่งที่ยังไม่หายไปคือการทำประตูได้ในเกมใหญ่ๆเสมอ
ย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วเขาเป็นคนซัดประตูชัยพา "ม้าลาย" เอาชนะ เอซี มิลาน 1-0 คว้าแชมป์ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน กลายเป็นแชมป์แรกของเจ้าตัวกับ "เบียงโคเนรี่"
ถัดจากนั้นอีกสามเดือนต่อมาซีอาร์เซเว่นจัดการกดแฮตทริกพาทีมพลิกนรกกลับมาเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 3-0 ในเกมเลกที่สองของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังเกมแรกบุกไปแพ้ "ตราหมี" มาก่อน 0-2
จนมาถึงเกมระดับชาติเขาก็ยังซัดประตูได้ในเกมสำคัญกดแฮตทริกใส่สวิตเซอร์แลนด์ในรอบรองชนะเลิศ เนชั่นส์ ลีก พาทีมทะลุเข้าชิงฯและคว้าแชมป์ในที่สุด
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โรนัลโด้ แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นผู้เล่นที่ทรงอิทธิพลมากสุดคนหนึ่ง โดยเฉพาะการทำประตูได้ในเกมสำคัญๆเสมอ นี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่ โรนัลโด้ ดูจะได้เปรียบกว่าใครเพื่อน
1.ผลงานเหนือกว่าคนอื่นๆ
ชื่อที่ถูกยกให้เป็นตัวเต็งในการคว้าบัลลง ดอร์ 2019 ได้ในปีนี้กลายเป็น เฟอร์จิล ฟานไดค์ ปราการหลังจากลิเวอร์พูล ที่โผล่ขึ้นมา หลังจากดาวเตะวัย 26 ปีโชว์ผลงานน่าประทับใจ
อย่างไรก็ตามความสำเร็จในซีซํ่นที่ผ่านมาของเจ้าตัวนั้นมีเพียงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รายการเดียวที่เป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าไปลุ้นคว้าลูกบอลทองคำ หลังจากไม่สามารถนำทีมชาติฮอลแลนด์คว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จากการแพ้ต่อ โปรตุเกส ในนัดชิงชนะเลิศ 0-1 ซึ่งรายการนี้ทำให้ โรนัลโด้ ดูจะได้เปรียบ ฟานไดค์ อยู่พอสมควร
ขณะที่ ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ชาวอาร์เจนไต์ซึ่งเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่อยู่ในระดับเดียวกับ โรนัลโด้ หลังเป็นแคนดิเดตช่วงชิงลูกบอลทองคำในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามซีซั่นที่ผ่านมาเจ้าตัวมีเพียงแชมป์ลา ลีกา และสแปนิช ซูเปอร์ คัพ ติดไม้ติดมือมาเท่านั้น เว้นเสียแต่เจ้าตัวจะสามารถพาทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ โคปา อเมริกา ได้นั่นแหละที่จะทำให้เจ้าตัวอาจแซงเข้าวินได้ในท้ายที่สุด
หากมองไปที่ผู้เล่นดาวเด่นคนอื่นๆก็ยากที่จะขึ้นมาเป็นแคนดิเดตสำคัญได้อย่าง คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ดาวยิงจากรั้วปารีส แซง แชร์กแมง กลับล้มเหลวในการคว้าแชมป์ถ้วยในประเทศและถ้วยใหญ่ในยุโรป รวมไปถึงกับทีมชาติฝรั่งเศสก็ไม่สามารถพาทีมทะลุเข้ามาเล่นในเนชั่นส์ ลีกรอบสุดท้ายได้
ส่วนคนอื่นๆอย่าง ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มีเพียงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเท่านั้น นอกเสียจากว่าเขาทั้งคู่จะประสบความสำเร็จกับทีมชาติในศึก แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ที่กำลังจะมาถึง
สำหรับเหตุผลที่จะทำให้ โรนัลโด้ พลาด บัลลง ดอร์ ในปีนี้ก็หมายความว่าจะต้องมีผู้เล่นที่มีผลงานในสนาม และความสำเร็จที่จับต้องได้ในทุกการแข่งขันทั้งในนามสโมสรและทีมชาติ ซึ่งจากเหตุผลเหล่านี้ก็ทำให้ โรนัลโด้ ยังมีโอกาสสูงที่จะครองลูกบอลทองคำได้เป็นสมัยที่ 6...
โพสต์โดย : eieieieieiei เมื่อ 12 มิ.ย. 2562 23:14:12 น. อ่าน 139 ตอบ 0