คีแรน แม็คไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการเงินของวงการฟุตบอล แสดงความเชื่อว่า ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะลดช่องว่างด้านการเงินจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมลีกได้เยอะ หลังจากที่ "หงส์แดง" ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2018-19
ตลอดช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล มีสภาพการเงินเป็นรอง แมนฯ ยูไนเต็ด เยอะพอตัว โดยขนาดในฤดูกาล 2017-18 ที่ทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทำผลประกอบการได้สูงเป็นสถิติของสโมสรที่ 455 ล้านปอนด์ (ประมาณ 18,655 ล้านบาท) พวกเขาก็ยังมีผลประกอบการน้อยกว่า "ปีศาจแดง" 135 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,535 ล้านบาท) เลย
แม็คไกวร์ กล่าวว่า "ผมคิดว่าพวกเขา (ลิเวอร์พูล) จะลดช่องว่างลงมาได้ ถ้าคุณลองย้อนดูในปี 2018 ลิเวอร์พูล มีผลประกอบการน้อยกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 135 ล้านปอนด์ และนั่นก็เป็นช่องว่างที่เยอะพอตัว แต่ความสำเร็จที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ในฤดูกาลนี้น่าจะช่วยลดช่องว่างนั้นได้ราว 40-50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,640-2,050 ล้านบาท) แถมพวกเขายังจะได้รับโบนัสจาก สแตนดาร์ด ชาเตอร์ด กับ เวสเทิร์น ยูเนี่ยน สปอนเซอร์หลักบนชุดแข่งของพวกเขาด้วย ซึ่งนั่นจะช่วยลดช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมได้เช่นกัน"
"ผมคิดว่าจุดที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ลดช่องว่างกับ ยูไนเต็ด ได้มากที่สุดมาจากรายได้ในวันที่มีเกมการแข่งขัน การที่พวกเขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศของ แชมเปี้ยนส์ ลีก มันทำให้ ลิเวอร์พูล ได้ลงเล่นในบ้านของตัวเองเยอะกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้นพวกเขาก็จะเก็บค่าตั๋วได้มากขึ้น แถมพวกเขายังสามารถเพิ่มราคาได้ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบน็อกเอาต์ มันจะมีส่วนช่วยได้เป็นอย่างดี"
"ส่วนอีกจุดหนึ่งที่จะลดช่องว่างระหว่างทั้งสองทีมได้คือรายได้ด้านการโฆษณา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ดำเนินการด้านนี้ได้ฉลาดที่สุดมาโดยตลอด พวกเขามักจะไปเจรจากับตัวแทนในประเทศอื่นๆ พร้อมบอกว่า -เราอยากเป็นพันธมิตรด้านโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย, อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น- ซึ่งที่จริง ลิเวอร์พูล ก็เริ่มเลียนแบบพวกเขาแล้ว แต่เงื่อนไขที่ ลิเวอร์พูล เสนอได้มากกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คือการที่พวกเขาสามารถบอกได้ว่า -จะว่าไปแล้ว คุณอยากถ่ายภาพกับถ้วยแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ด้วยไหม ?- นั่นจะเป็นเงื่อนไขที่น่าสนใจมากๆ"
โพสต์โดย : eieieieieiei เมื่อ 29 มิ.ย. 2562 17:02:51 น. อ่าน 142 ตอบ 0