1. ตรวจภาวะด้านนอก
ลำดับแรกของการซื้อของมือสอง
ก็คือการตรวจตราภาวะด้านนอก ในส่วนของรถเครื่อง
จะต้องมองภาวะก่อนว่าพึงพอใจหรือชื่นชอบแค่ไหน
ถ้าเกิดถูกอกถูกใจก็เข้าไปดูก่อนยละเอียดกันต่อถึงเรื่องร่องรอยต่างๆร่องรอยที่ว่านี่เป็นร่องรอยของการล้มครับผม
ไม่ใช่รอยขีดข่วนนิดๆหน่อยๆด้วยเหตุว่าบางที่เพียงแค่รอยขีดข่วนอาจจะทำให้คุณพลาดภาวะด้านในเยี่ยมๆก็ได้
ร่องรอยของการล้มนั้นสามารถมองได้จากจุดที่ล้มแล้วจะโดนพื้นก่อน ดังเช่นว่า แฮนด์
แฟริ่งข้าง พักเท้า เหล่านี้เวลาล้มแล้วจะโดนพื้นก่อนเสมอ
แต่ว่าการล้มอย่างงี้เพียงอย่างเดียวก็เป็นการล้มแบบไม่หนักมากมาย
เพียงแค่ลื่นไถลๆแปลงอะไรใหม่ก็ดูดีอย่างเดิม แม้กระนั้นไอ้ที่ต้องการให้มองเป็น
ตัวถังรถยนต์ว่ามีรอยเชื่อมใหม่มาไหม ช็อคอัพหน้า-ข้างหลัง ว่าคดมาไหม
สวิงอาร์มคืออะไร เหล่านี้จะเกี่ยวกับการชน หรือล้มหนักๆมาแล้ว
ที่สามารถคาดคะเนได้ว่าบางครั้งอาจจะสะเทือนถึงเครื่องจักรกลได้
รวมทั้งพวกเราก็ไม่สมควรเสี่ยง
2. ตรวจภาวะเครื่องจักรกล (พื้นฐาน)
การตรวจทานภาวะเครื่องจักรกลพื้นฐานนั้นช่วยสำหรับการตกลงใจได้มากพอควร
ซึ่งทำเป็นโดยวิธีสำหรับซักถามข้อมูลที่ได้รับมาจากตัวผู้ครอบครองรถยนต์อาทิเช่น
เคยชน หรือล้มมาหรือเปล่า? เคยเปลี่ยนแปลงอะไรข้างในอะไรบ้าง?
ธรรมดาแปลงน้ำมันเครื่องทุกๆกี่กิโล
หรือหนสุดท้ายเปลี่ยนแปลงน้ำมันเครื่องขณะใด? เครื่องยนต์กลไกตัวนี้เปลืองน้ำมัน
น้ำมันเครื่องบ้างรึเปล่า? ทำนองนี้
หลังจากนั้นก็เอาข้อมูลนั้นมาประกอบกับการดูด้วยตาของพวกเราเองอีกรอบตัวอย่างเช่น
มีรอยการเปิดฝามาไหมโดยให้มองที่รอยต่อระหว่างฝาดูดกับเสื้อดูดว่ามีรอยของกาวแดง
หรือร่องรอยที่เปลี่ยนไปจากปกติ (รอยใหม่ๆ)
ส่วนที่ตีนเสื้อดูดก็ตรวจทานด้วยเหมือนกัน
แล้วก็มองว่ามีร่องรอยน้ำมันเยิ้มมาก่อนหรือเปล่า ส่วนรถยนต์ที่มีหม้อน้ำก็มองรอยน้ำรั้วที่จุดข้อต่อต่างๆรอยน้ำสนิมที่เป็นรอยเปื้อนในจุดต่างๆซึ่งรอยพวกนี้นอกเหนือจากบอกให้พวกเราทราบว่าเคยมีรอยน้ำรั้วที่ไหนบ้าง
ในส่วนคาร์บูเรเตอร์ก็สังเกตว่าแห้งดีหรือเปล่า
มีกลิ่นน้ำมันโชยออกมามากมายรึเปล่า แต่ว่าถ้าเกิดเป็นเครื่องหัวฉีดก็ผ่านไปขอรับดูด้วยตาเปล่าตรากตรำ
เหล่านี้จำเป็นต้องจับปลั๊กไฟฟ้าเซ็คเอา
3. ตรวจระบบเบรก
เบรกถูกใช้งานหนักเท่ากับเครื่องจักรกล
การตรวจทานก็เริ่มที่พิจารณาพวกท่อทางทะเลมันเบรกว่าอยู่ในภาวะดีหรือเปล่า
ที่ตรงนี้สามารถกล่าวได้ว่าผู้ครอบครองเอาใจใส่ดูแลรถยนต์ดีเพียงใด
ด้วยเหตุว่าระบบเบรกเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องให้ความใส่ใจมากมาย ซึ่งเกี่ยวกับความปลอดภัย
หากระบบนี้มิได้ถูกดูแล
ก็แสดงว่าผู้ครอบครองเก่านั้นมิได้รักษารถยนต์ซักเท่าไหร่แล้วจะหวังให้ไปดูแลเรื่องเครื่องจักรกล
บอกเลยยากนะครับ จากท่อและไปดูพวกคาร์ลิปเปอร์เบรกกันว่ามีรอยกระแทรกมั้ย
เนื่องจากว่าอาจส่งผลให้คาร์ลิปเปอร์เบี้ยวได้ ต่อไปนี้ก็มาดูที่จานเบรกกันว่ากล่าวมีร่องรอยอะไรบางไหมอย่างเช่น
จานคด จานไหม้ เพื่อนำข้อมูลไปต่อรองราคา (ถ้าหากถูกใจคันนี้จริงๆนะ)
พอสมควรด้วยตาเปล่าเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ทดลองหมุนล้อมองว่าเบรกมีการขัดข้องอะไรไหม
และก็ทดลองเบรกมองอีกทั้งล้อหน้า-ล้อหลัง ว่ามีเสียงอะไรผิดหูมั้ย
ส่วนถ้าเกิดจะทดลองว่าเบรกลื่น เบรกได้ไหม อันนี้จำต้องทดลองขับแล้วเบรกมอง
ด้วยเหตุว่าเรื่องเบรกจะต้องมองกันให้ดี
4. ตรวจตอนหน้า - ข้างหลัง
ตอนหน้าในที่นี้เหมารวมหมด ตั้งแต่วงล้อ ยาง
ซ็อคอัพ ไฟหน้า ไฟเลี้ยว แผงคอ อื่นๆอีกมากมาย กล้วยๆเป็น ครึ่งรถยนต์ตอนหน้าทั้งสิ้น
ถามคำถามว่ามองเพราะเหตุไร? ก็จำเป็นต้องพูดว่ามันสม่ำเสมอจากการตรวจระบบเบรกหน้าขอรับ
บางคันเบรกแน่น แต่ว่าขายึดคาร์ลิปเปอร์เบี้ยวนิดหน่อย ขับไปๆเบรกก็ไม่อยู่
รับประทานผ้าเบรกฝ่ายเดียว เพียงแค่เรื่องกล้วยๆๆก็บางทีอาจเป็นหายนะครั้งใหญ่ได้
ด้วยเหตุนั้นวิเคราะห์อย่างระมัดระวังเอาไว้ก่อนดียิ่งกว่า
ทดลองโยกแผงคอมองว่าลูกไต่โคนเป็นไงบ้าง ซีลโช้คอัพรั่วมั้ย
ส่วนข้างหลังก็เหมือนกัน โช้คอัพหลังของเดิม หรือเปลี่ยนแปลงมา
ถ้าเกิดเป็นรถยนต์ไม่เกิน 2 ปี
แล้วเปลี่ยนแปลงโช้คอัพเดิมๆตัวใหม่มาใส่มันก็ยังไงๆอยู่นะ
5. ตรวจเรือนไมล์แล้วก็ระบบไฟ
มองเรือนไมล์ว่าเป็นของตรงรุ่นไหม
เป็นของที่แปลงมาใส่ใหม่หรือไม่ ต่อจากนั้นก็เปิดสวิทช์ ON มองว่าไปบอกสัญญาณดำเนินการหมดไหม
หรือหากมีไฟเตือนอะไรขึ้นมาก็จะต้องถามมูลเหตุที่มาให้แน่ๆแล้วก็แจ่มแจ้งนะครับ
มิเช่นนั้นจำเป็นต้องมานั่งเสียค่าทึ่มช้ำใจกันเปล่าๆยิ่งพวก BigBike นี่อย่าเสี่ยงดีมากกว่านะครับ
กล่องไฟตัวหนึ่งแพงเอาการทีเดียว
โพสต์โดย : Chor2537 เมื่อ 12 ก.ค. 2562 15:21:55 น. อ่าน 148 ตอบ 0