กลุ่ม เอ : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส), เรอัล มาดริด (สเปน), คลับ บรูช (เบลเยียม), กาลาตาซาราย (ตุรกี)
แชมป์กลุ่ม - ต่อให้มีหรือไม่มี เนย์มาร์ อยู่ในทีม ครั้งนี้ถือว่า เปแอสเช มีดีพอที่จะปาดหน้า เรอัล มาดริด คว้าแชมป์กลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ "ราชันชุดขาว" ยังคงมีฟอร์มการเล่นที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แถมสภาพทีมก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเดิม
รองแชมป์ - ต่อให้ไม่น่ากลัวเหมือนที่ผ่านมา แต่ถึงยังไง เรอัล มาดริด ภายใต้การนำทัพของกุนซือ ซีเนดีน ซีดาน ก็ไม่น่าจะพลาดเข้ารอบน็อกเอาท์ในฐานะทีมอันดับสอง
*โอกาสพลิกล็อก* - ยากมาก เพราะ คลับ บลูช เสียผู้เล่นตัวหลักไปหลายคนในช่วงซัมเมอร์นี้ และไม่แกร่งเท่าซีซั่นก่อน ขณะที่ กาลาตาซาราย ณ เวลานี้ไม่ใช่ทีมที่น่ากลัวเมื่อเทียบกับราว 10 กว่าปีที่แล้ว
กลุ่ม บี : บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี), ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ), โอลิมเปียกอส (กรีซ), เร้ด สตาร์ เบลเกรด (เซอร์เบีย)
แชมป์กลุ่ม - การมาของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ทำให้เกมรุกของ บาเยิร์น น่ากลัวขึ้นเป็นกอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำผลงานในเวทียุโรป ซึ่งในกลุ่มนี้การลุ้นแชมป์คงจะเป็นการฟาดฟันกันแค่ระหว่าง บาเยิร์น กับ สเปอร์ส และสุดท้ายคงจะเป็น "เสือใต้" ที่แกร่งกว่าและเก๋าเกมกว่า เข้าป้ายอันดับหนึ่งของกลุ่ม
รองแชมป์ - สเปอร์ส มักจะมีพลังพิเศษเสมอยามเตะบอลยุโรป และครั้งนี้พวกเขาก็น่าจะทำได้ดีอีกครั้ง
*โอกาสพลิกล็อก* - ยาก... เพราะ โอลิมเปียกอส ต่อให้ผ่านทีมแกร่งๆ ในรอบคัดเลือกอย่าง วิคตอเรีย เพลเซ่น, อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ และ คราสโนดาร์ มาได้ แต่พอมาถึงจุดนี้ ถือว่าหินเกินไปสำหรับพวกเขา กับ เร้ด สตาร์ เบลเกรด ก็เช่นกัน
กลุ่ม ซี : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ), ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค (ยูเครน), ดินาโม ซาเกร็บ (โครเอเชีย), อตาลันต้า (อิตาลี)
แชมป์กลุ่ม - แทบไม่ต้องเป็นกังวลเลยสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ในการคว้าแชมป์กลุ่ม และคงไม่เจองานที่ยากลำบากอะไรด้วย ต่อให้ต้องเดินทางไกลไปเตะที่ ยูเครน และ โครเอเชีย ก็ตาม
รองแชมป์ - แม้ได้เข้ามาเตะ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ อตาลันต้า ชุดนี้สามารถสร้างเซอร์ไพรส์ได้เลย โดยเฉพาะแนวรุกอันดุดัน ซึ่งนำโดย ดูวาน ซาปาต้า, โยซิป อิลิซิช และ อเลฮานโดร โกเมซ
*โอกาสพลิกล็อก* - เป็นไปได้ยาก เพราะ ชัคตาร์ ตอนนี้ไม่มีกุนซือคนเก่งอย่าง เปาโล ฟอนเซก้า (ย้ายไปคุม อาแอส โรม่า) แล้ว ส่วน ดินาโม ซาเกร็บ ยากมากที่จะขึ้นมาเบียดลุ้นเข้ารอบ
กลุ่ม ดี : ยูเวนตุส (อิตาลี), แอตเลติโก มาดริด (สเปน), ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมนี), โลโคโมทีฟ มอสโก (รัสเซีย)
แชมป์กลุ่ม - แอต. มาดริด สามารถเบียด ยูเวนตุส เป็นแชมป์กลุ่ม ด้วยการเล่นเกมรับที่แข็งแกร่ง แถมมี ชูเอา เฟลิกซ์ เป็นตัวทีเด็ดในเกมรุก เพราะฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร หากพวกเขาคว้าชัยด้วยสกอร์ 1-0 แบบรัวๆ พร้อมกับเข้าป้ายที่หนึ่ง
รองแชมป์ - ครั้งนี้อาจเข้าป้ายที่อันดับสอง แต่ "ม้าลาย" ยังคงเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์รายการนี้อยู่ดี ต่อให้ตำแหน่งกุนซือเปลี่ยนมาเป็น เมาริซิโอ ซาร์รี่ แล้วก็ตาม
*โอกาสพลิกล็อก* - พอเป็นไปได้ เพราะ เลเวอร์คูเซ่น หากเล่นได้ท็อปฟอร์ม พวกเขาก็สามารถหยิบคะแนนจาก 4 เกมใหญ่ที่จะพบกับ ยูเว่ และ แอต. มาดริด ได้เหมือนกัน ส่วน โลโคโมทีฟ มอสโก คงเป็นได้แค่ทีมแจกแต้ม
กลุ่ม อี : ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), นาโปลี (อิตาลี), ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย), เกงค์ (เบลเยียม)
แชมป์กลุ่ม - ซีซั่นที่แล้วผ่านรอบแบ่งกลุ่มแบบหืดจับ ทว่าสุดท้าย ลิเวอร์พูล ก็ไปถึงตำแหน่งแชมป์ แถม ณ เวลานี้ "หงส์แดง" ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ พัฒนาไปไกลมาก และกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งสุดๆ ในทุกตำแหน่ง ดังนั้นการคว้าแชมป์กลุ่มคงไม่ใช่เรื่องยากลำบากสำหรับพวกเขา
รองแชมป์ - นาโปลี เสริมแกร่งได้น่ากลัวทีเดียวในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเฉพาะการมาของนักเตะอย่าง อีร์วิ่ง โลซาโน่ และ คอสตาส มาโนลาส ซึ่งคงไม่มีปัญหาสำหรับพวกเขาในการเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2017
*โอกาสพลิกล็อก* - พอมี แต่น้อย เพราะ ซัลซ์บวร์ก อาจจะดูเป็นทีมพลังหนุ่มที่น่ากลัว แต่คงยากที่จะเบียดสองทีมเก๋าประสบการณ์อย่าง ลิเวอร์พูล และ นาโปลี ส่วน เกงค์ คงเป็นได้แค่ทีมไม่ประดับ
กลุ่ม เอฟ : บาร์เซโลน่า (สเปน), โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมนี), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), สลาเวีย ปราก (สาธารณรัฐเช็ก)
แชมป์กลุ่ม - นี่คือ "กรุ๊ป ออฟ เดธ" อย่างแท้จริง ซึ่งสามทีมใหญ่น่าจะสู้กันอย่างสูสี แต่ด้วยคุณภาพของทีม บวกกับการมีสามประสานแนวรุกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, อ็องตวน กรีซมันน์ และ หลุยส์ ซัวเรซ น่าจะทำให้ บาร์ซ่า คว้าแชมป์กลุ่มไปครอง
รองแชมป์ - อันดับสองคงเป็นการแย่งชิงกันระหว่าง ดอร์ทมุนด์ กับ อินเตอร์ ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็น "เสือเหลือง" ที่ได้เฮแบบฉิวเฉียด
*โอกาสพลิกล็อก* - มีแน่นอน เพราะ อินเตอร์ สามารถเล่นงานได้ทั้ง บาร์ซ่า และ ดอร์ทมุนด์ และมีดีพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน สลาเวีย ปราก คงไม่ต้องพูดถึง
กลุ่ม จี : เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (รัสเซีย), เบนฟิก้า (โปรตุเกส), โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส), แอร์เบ ไลป์ซิก (เยอรมนี)
แชมป์กลุ่ม - อาจจะเป็นกลุ่มที่หลายคนไม่ค่อยให้ความสนใจ แต่ในทางกลับกัน นี่คือกลุ่มที่สูสีมากและคาดเดาได้ยาก แต่ ลียง ดูมีภาษีมากกว่าใครเพื่อน และอาจจะสร้างเซอร์ไพรส์ได้แบบเดียวกับที่ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทำได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
รองแชมป์ - ด้วยการที่มีเกมรับไม่แกร่งมาก นั่นอาจจะทำให้ ไลป์ซิก ได้ลุ้นแค่เข้ารอบต่อไปในฐานะรองแชมป์กลุ่ม
*โอกาสพลิกล็อก* - มีแน่นอน เพราะศักยภาพของทั้งสี่ทีมในกลุ่มนี้ แตกต่างกันไม่มาก ผลแพ้-ชนะในแต่ละเกมมีความสำคัญสุดๆ
กลุ่ม เอช : เชลซี (อังกฤษ), อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (ฮอลแลนด์), บาเลนเซีย (สเปน), ลีลล์ (ฝรั่งเศส)
แชมป์กลุ่ม - อาจจะไม่แกร่งเหมือนเมื่อก่อน แถมมีกุนซือมือใหม่อย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด แต่ถึงยังไง เชลซี ก็ยังดูดีกว่าคู่แข่ง และน่าจะคว้าแชมป์กลุ่มได้
รองแชมป์ - แม้เสียแข้งกำลังสำคัญอย่าง มาต์ไตส์ เดอ ลิกท์ กับ เฟรงกี้ เดอ ยอง ไป แต่ อาแจ็กซ์ ยังคงเป็นทีมที่มีทีมเวิร์คดีมาก และน่าจะตาม เชลซี เข้ารอบต่อไปได้
*โอกาสพลิกล็อก* - มีโอกาสทีเดียว เพราะนี่คือกลุ่มที่สูสีพอๆ กับกลุ่ม จี โดยที่ บาเลนเซีย กับ ลีลล์ ต่างมีศักยภาพที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ต้องออกสตาร์ตให้ดีๆ ด้วย ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.siamsport.co.th/football/champions-league/view/148019
อัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1XBET เลือกดูราคาอัพเดทล่าสุด วิเคราะห์และสถิติ ได้แล้ววันนี้ ที่ 1XBET สอบถามเพิ่มเติม>>>https://line.me/R/ti/p/%40dwy5509a
ผู้สนับสนุนหลักบาเซโลนาอย่างเป็นทางการ คิดจะเล่น เล่นกับ 1XBET
โพสต์โดย : Images เมื่อ 2 ก.ย. 2562 17:33:50 น. อ่าน 153 ตอบ 1
RE : ใครลิ่ว,ใครร่วง! วิเคราะห์8กลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก 2019/20
Sa gaming Joker123 หรือ joker gaming เซ็กซี่บาคาร่า
w88 | เรตบอล | คาสิโน | แทงบอลออนไลน์| คาสิโนออนไลน์ | sa gaming | joker123 |สล็อตออนไลน์| sexy baccarat | sa casino | เกมสล็อต | สล็อต 918kiss หรือ scr888 slot| sexy baccarat | UFABET |
ตอบโดย : dee889 เมื่อ 2 ก.ย. 2562 20:18:05 น. ตอบคำถาม