สโมสรฟุตบอลที่มีรายรับสูงที่สุดในโลก
สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส กลับมาทวงตำแหน่ง 10 อันดับได้ในปีนี้หลังหลุดท็อปเท็นเมื่อปีก่อนพวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ 65.2 ล้านยูโร คิดเป็น 17 % แน่นอนกว่าการย้ายมาของ คริสเตียโน โรนัลโด ที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรม สูงกว่าสโมสรบาร์เซโรน่า และ เรอัล มาดริดรวมกันซะอีกย่อมช่วยให้รายได้เชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ขณะเดียวกันพวกเขาก็มีสัญญาณที่ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อรายได้จาก 2 สปอนเซอร์หลักอย่าง Jeep และ Adidas ได้สร้างรายได้ให้กับพวกเขารวมสูงถึง 51 ล้านยูโรต่อปี และ โรงแรม J-hotel ที่พวกดขาเป็นเจ้าของ 40% ไว้ใกล้สนามแข่งอีกด้วยเช่นเดียวกับการตลาดที่ขยายไปทางทวีปเอเชีย
เมื่อพวกเขาไปเปิดสาขาที่ฮองกงการเซ็นสัญญากับโคนามิ และ การจับมือกับบริษัทยางชื่อดังของประเทศจีนอย่างหลิงหลงอักด้วย ทำให้พวกเขามีรายรับอยู่ที่ประมาณ 459.7 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 15,628.8 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลเชลซี ล่วงลงมา 1 อันดับ หลังรั้งอันดับที่ 8 มา 4 ปีติดต่อกันซึ่งรายได้ของพวกเขาค่อนข้างคงที่โดยเพิ่มขึ้นมาเพียง 7.4 ล้านยูโร หรือราว 1% เท่านั้น พวกเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฟุตบอลยุโรปหลังเอาชนะ อาร์เซนอล คว้าแชมป์ยุโรป้าลีคมาครองได้ แต่รายได้จากการขายบัตรเข้าชม และ รายได้จากการถ่ายทอดสดลดลงที่ 2-10 % ตามลำดับ
ซึ่งเป็นผลโดยตรงที่ทีมไม่ได้เล่นในศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก อย่างไรก็ตามการแต่งตั้ง แฟรงก์ แลมพาร์ด เข้ามาคุมทีมในฤดูกาลใหม่ และ การได้กลับไปเล่นในแชมป์เปี้ยนลีก ร่วมถึงการผ่านไปถึงรอบน็อคเอาท์ย่อมจะสร้างรายได้ให้กับพวกเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สำหรับการจัดอันดับในปีหน้า
แต่ในปีนี้พวกเขามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 513.1 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 15,445.4 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ พุ่งขึ้นมารั้งอันดับที่ 8 ในปีนี้ ซึ่งเป็นอันดับที่สูงที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยทำได้ และ เป็นครั้งที่พวกเขาอยู่เหนือทั้ง อาร์เซนอล และ เซลซี นับตั้งแต่ ฤดูกาล 1996-1997 เป็นต้นมา รายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้น 92.8 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 21%
โดยส่วนใหญ่รายได้มาจากการถ่ายทอดสด และ การจับมือเชิงพาณิชย์ นั้นเป็นผลโดยตรงมาจากการที่พวกเขาทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศแชมป์เปี้ยนลีกได้อย่างเหนือความคาดหมายเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เช่นเดียวกับการจับมือจาก AIA และ NIKE จึงทำให้พวกเขามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 521.1 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 17,717.4 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ยังคงรั้งอันดับที่ 7 เหมือนเมื่อปีก่อนแต่รายได้ของพวกเขาในรอบปีที่ผ่านมาพุ่งสูงขึ้นถึง 91 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 17% ซึ่งเป็นผลมาจากการผงาดคว้าแชมป์เปี้ยนลีค และ จบอันดับที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกซึ่งแข่งขันกับแมนเชสเตอร์ซิตี้อย่างสุดมันส์ไปจนกระทั่งนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก
รายได้จากการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้นถึง 19% และสโมสรก็ได้รายได้ส่วนแบ่งจากพรีเมียร์ลีกสูงที่สุดอีกด้วย ขณะที่รายได้เชิงพาณิชย์ก็เพิ่มขึ้น 23% จากสปอนเซอร์ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างมากมาย นอกจากนี้ลิเวอร์พูลยังมีรายได้เสริม
จากการเปิดสนามแอนฟิวส์เป็นที่จัดงานคอนเสิร์ตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 ที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับพวกเข้าและพัฒนาสนามจนกลายมาเป้นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งหลายอีกด้วย จึงทำให้พวกเขามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 604.7 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 20,559.8 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ ตกลงมา 1 อันดับจากเมื่อปีก่อนแต่พวกเขาก็มีฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากที่เป็นสโมสรแรกที่คว้าทิปเปิลแชมป์ของอังกฤษมาครองได้สำเร็จนั้นทำให้รายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นมา 42.2 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 7% แต่สโมสรที่อยู่ใกล้เคียงกับพวกเขาก็ไล่จี้ตามมาแบบติด ๆ
เช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่แซงหน้าพวกเขาขึ้นไปแล้วถ้าว่าจากการที่ซิตี้เซ้นสัญญากับพูม่าในการแข่งขันฤดูกาลใหม่นี้ ประกอบกับการมีมาราธอนเบทเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ชุดซ้อมน่าจะทำให้พวกเขาไต่อันดับกับไปได้ในฤดูกาลหน้า จึงทำให้พวกเขามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 610.6 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 20,760.4 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลปารีส แซงต์ แชร์กแมง ขึ้นมารั้งอันดับที่ 5 ของสโมสรที่ทำรายได้สูงสุดในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอันดับที่สูงที่สุดของสโมสร นับตั้งแต่ฤดูกาล 2014-2015 เลยทีเดียว การมีพาสเนอร์ใหม่ถึง 5 ราย เช่นเดียวกับการต่อสัญญาของคู่ค้าทั่วโลกอีก 6 เจ้า ทำให้รายได้เชิงพาณิชย์ของพวกเขาเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 16%
ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์มันนี่ลีก พวกเขาหวังแซงหน้า บาเยิร์น และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ได้ในปีหน้าแต่มันคงขึ้นอยู่กับผลงานในแชมป์เปี้ยนลีกของพวกเขาว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนในฤดูกาลนี้ จึงทำให้พวกเขามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 635.9 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 21,620.6 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลบาเยิร์น มิวนิค หยังคงรักษาอันดับที่ 4 ของพวกเขาเอาไว้อย่างเหนียวแน่นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันรายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้นรายได้ของพวกเขาเพิ่มขึ้น 30.9 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 5% แต่ที่น่าสนใจก็คือรายได้จากการถ่ายทอดสดที่พวกเขาทำได้มากขึ้นถึง 34.5 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 20% เลยทีเดียว รายได้เชิงพาณิชย์ก็เพิ่มขึ้น 7.8 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 2%
แต่ที่น่าผิดหวังกับเป็นรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมการแข่งขันที่ลดลง 11.4 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 11% สาเหตุหลักคือการจอดป้ายรอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมป์เปี้ยนลีกในฤดูกาลที่แล้ว เทียบกับการเข้ารอบตัดเชือกของฤดูกาลก่อนหน้านั้น จึงทำให้พวกเขามีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 660.1 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 22,443.4 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด รั้งอันดับที่ 3 เป็นปีที่สองติดต่อกันด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้น 45.7 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 6 % ส่วนใหญ่มาจากการได้กลับไปเล่นแชมป์เปี้ยนลีคในปีที่แล้วและการผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ และควบคุมรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมการแข่งขัน
รายได้เชิงพาณิชย์ค่อนข้างคงที่ ทำให้พวกเขามีรายรับอยู่ที่ประมาณ 711.5 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 24,191 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลเรอัล มาดริด เสียแชมป์รายได้สูงสุดในปีนี้หลังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 6.4 ล้านยูโร หรือคิดเป็น 1% เท่านั้น ในฤดูกาลแรกที่พวกเขาไม่มี คริสเตียโน โรนัลโด พวกเขาก็ไม่สามารถครองความยิงใหญ่ของฟุตบอลยุโรปได้อีก และ จอดป้ายเพียงรอบ 16 ทีมแชมป์เปี้ยนลีกเท่านั้น
จึงทำให้รายได้เชิงพาณิชย์ของพวกเขาลดลงรวมถึงโบนัสที่มาจากผลการแข่งขัน ซึ่งโดยรวมแล้วรายได้ที่เพิ่มขึ้นในรอบปีที่ผ่านมาต้องอาศัยเงินจากลาลิกาที่เพิ่มขึ้นมาพยุงรายได้ไว้ ถ้าว่าจากการที่สโมสรต่อสัญญากับอดิดาสน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้
จากสปอนเซอร์และการขายสินค้าต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในปีนี้ และ จะยังคงสถานะ 2 อันดับแรกสำหรับ Football Money League ในปีหน้าเอาไว้ได้ จึงทำให้พวกเขามีรายรับอยู่ที่ประมาณ 711.5 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 24,191 ล้านบาท
สโมสรฟุตบอลบาร์เซโรน่า ขึ้นมาครองแชมป์ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์หนแรกของสโมสร โดยพวกเขาทำรายได้ที่เพิ่มขึ้นถึง 150.4 ล้านยูโร คิดเป็น 22 % เมื่อปีก่อน ส่วนใหญ่พวกสร้างรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมการแข่งขัน และ รายได้เชิงพาณิชย์เป็นสถิติของสโมสร
อันที่จริงแล้วพวกเขาเริ่มต้นแผนงานสร้างรายได้อย่างหลากหลาย และ เพิ่มแหล่งรายได้จากนานาชาติมาตั้งแต่ปี 2015 ไปจนกระทั่งปี 2021 ซึ่งชัดเจนกว่านี่คือตัวอย่างของสโมสรที่ปรับตัวทางการตลาด โดยไม่หวังเพิ่งพาเพียงรายได้จากการขายตั๋วเข้าชมการแข่งขันเพียงอย่างเดียว
แต่หันมาโฟกัสรายได้ที่พวกเขาควบคุมได้แทน ทั้งนี้พวกเขาทำรายได้มากกว่าทีมอันดับที่ 2 อย่างเรอัล มาดริด สูงถึง 83.5 ล้านยูโร ในรอบปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นระยะห่างที่มากที่สุดตั้งแต่ที่มีการทำ Football Money League ขึ้นมาเลยทีเดียว
ฟรี ! สูตรบาคาร่า และ เทคนิคการเล่นบาคาร่าออนไลน์
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน numnair.com - tenglnw.com - tanglnw.com
โพสต์โดย : Panuwat Masu เมื่อ 26 ม.ค. 2563 23:10:09 น. อ่าน 145 ตอบ 0