จุดพีคที่ทำให้ผู้หญิงหมดความมั่นใจมีอยู่ไม่กี่เรื่อง และแน่นอนว่าอันดับหนึ่งคือเรื่องผิวหน้า ไล่มาตั้งแต่สิว ฝ้า กระ ริ้วรอยอย่างที่เกริ่นไปแล้ว แต่ภาพรวมที่น่าเป็นห่วง เห็นได้ชัดเจนแทบจะไม่ต้องสแกนเลยก็คือปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ เห็นตัวเองในกระจกทีไรก็เหมือนเป็นการกระตุ้นให้เห็นจุดบกพร่อง เผลอๆ หน้าดำกว่าตัวอีก อิมเมจที่สั่งสมมาทั้งชีวิตต้องพังลงมาแบบไม่ทันตั้งตัวทีเดียว หน้าหมองคล้ำ
ผิวหน้าหมองคล้ำอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เริ่มจากรังสียูวีในแสงแดด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิว (Melanin) ฝุ่นควันและมลพิษ ที่มีความสามารถพิเศษในการทะลุผ่านเข้าไปทำร้ายเซลล์ผิวภายในอย่างแนบเนียน และซ้ำเติมด้วยการแท็คทีมกับแสงแดด ไปกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวในชั้นผิวทำให้ผิวหมองคล้ำเป็นสองเท่า
ไม่ใช่ความร้อนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สาวออฟฟิศที่ต้องอยู่ในห้องแอร์นานๆ ความเย็นจะดูดซับความชุ่มชื้นไปจากผิว ทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และต่อยอดให้หน้าหมองคล้ำได้ ปัจจัยสำคัญอีกข้อคืออายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ผิวได้น้อยลง ระบบการผลัดเซลล์ผิวเก่าช้าลงและบั่นทอนการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งโดยปกติวงรอบจะอยู่ที่ทุกๆ 28 วัน ให้ช้าลงไปด้วย ผิวจึงหมองคล้ำและหยาบกร้าน ตอกย้ำด้วยสารเคมีจากเครื่องสำอางอย่างน้ำหอม สี พาราเบนและแอลกอฮอล์ ของแถมหน้าตาสวยหรูที่มักจะพ่วงมาในตลับแป้งหรือรองพื้น ล้วนส่งผลให้ผิวไวต่อแสง ทำให้ผิวหมองคล้ำเร็วขึ้น
นอกจากนี้ สาวๆ ที่ใช้ชีวิตติดจอนานๆ อาจไม่รู้ว่าคอมพิวเตอร์สามารถปล่อยรังสียูวีเอและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทำให้ผิวหมองคล้ำไม่แพ้การโดนแดดแรงๆ เลย รวมทั้งกิจกรรมที่ซ้ำเติมและทำร้ายผิวอย่างการปาร์ตี้แบบจัดหนัก ทำให้ผิวโทรมและหมองคล้ำ ท้ายที่สุดคือความเครียด ไม่ใช่แค่ทำให้หน้าดูหมองคล้ำ ผิวแห้ง เป็นสิวแล้ว ยังต่อยอดไปถึงสุขภาพโดยรวมด้วย มาถึงตรงนี้ไวท์เทนนิ่งอาจเป็นช้อยส์แรกที่นึกถึงก็จริง… แต่จะดีกว่าไหมหากเราสามารถกู้ผิวสวยด้วยตัวเอง แค่ 7 ขั้นตอน ง่ายๆ ตามลิสต์นี้ ก็บอกลาหน้าหมองคล้ำ ทวงคืนหน้าขาวใสมีออร่า ต่อชีวิตให้ผิวหน้าเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง