โซดาซ่า ดูบอล
Menu
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย

คิง เพาเวอร์ ชูสินค้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งบ้านคีรีวง

"คิง เพาเวอร์"ชูสินค้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งบ้านคีรีวง 

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ชูสินค้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฝีมือ และภูมิปัญญาแห่งหมู่บ้านคีรีวง นครศรีธรรมราช ผ่าน From Leaves to Lively Thai Dye Collectionของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประจำปี 2563 พร้อมยกระดับสินค้าโอทอปไทยให้ก้าวไกลสู่เวทีโลก

คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เผยโฉมสินค้า Ready-to-wear รุ่น Limited Edition ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประจำปี 2563 ภายใต้ชื่อ From Leaves to Lively Thai Dye Collection ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความงดงามของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ก่อเกิดเป็นสินค้าผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในคอลเลกชั่นพิเศษที่ผลิตโดยชุมชนหมู่บ้านคีรีวง ต. กำโลน อ. ลานสกา จ. นครศรีธรรมราช ร่วมกับทีมครีเอทีฟของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ เป้นต้นไป ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ, คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ, พัทยา, ศรีวารี, ภูเก็ต, คิง เพาเวอร์ มหานคร และภายในสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินภูเก็ต และสนามบินอู่ตะเภา

From Leaves to Lively Thai Dye Collection ได้รับการออกแบบ และรังสรรค์งาน ภายใต้แนวคิด Enchanted Wonderland หรือมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนมหัศจรรย์ เพื่อเชิดชูภูมิปัญญา และคุณค่าทางวัฒนธรรมของผ้ามัดย้อมธรรมชาติ ที่เลือกใช้วัสดุในการย้อมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของทางภาคใต้ที่เกิดจากฝีมือของชุมชนบ้านคีรีวง ต. กำโลน อ. ลานสกา จ. นครศรีธรรมราช กลายเป็นคอลเลกชั่นเสื้อผ้า และแอคเซสซอรี่ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติสไตล์โมเดิร์น สีสันสดใส สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์กับการแต่งกายในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ทั้งเสื้อยืดแขนสั้น-แขนยาว เสื้อเชิ๊ต หมวก กระเป๋าสะพายหูรูด กระเป๋าสะพายไหล่ กระเป๋าใส่เอกสาร ลูกบอล และพวงกุญแจ รวม 17 แบบ

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เปิดเผยว่า “กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ได้ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ และร่วมรณรงค์ให้ช่วยกันลด ละ การทำลายธรรมชาติ บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแสดล้อมที่ทั่วโลกกำลังประสบอยู่ จึงได้สนับสนุนสินค้าไทยที่ใช้สีธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาแล้ว จำนวน 3 คอลเลกชั่น และคอลเลกชั่นที่ 4 นี้ ‘คอลเลกชั่น From Leaves to Lively Thai Dye Collection’ ได้เกิดจากความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการกิจกรรมเพื่อสังคม คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ด้านชุมชน, สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และชุมชนบ้านคีรีวง จ. นครศรีธรรมราช นับเป็นปีที่ 3 คอลเลกชั่นที่ 4 ที่เราได้นำสินค้าชุมชนมาอวดสายตาชาวโลกอีกครั้ง ถือได้ว่า เป็นอีกหนึ่งผลงานแห่งความภาคภูมิใจที่เราได้ร่วมเป็นคู่คิด และคู่ค้ากับชุมชน เพื่อชูจุดแข็ง และภูมิปัญญาของชาวไทยที่เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นผลงานอันงดงาม”

“เราตั้งใจผลิตคอลเลกชั่นพิเศษจากฝีมือคนไทยทุกปี หมุนเวียนเปลี่ยนชุมชนไปตามภาคต่างๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ๆ น่าสะสม โดยเข้ามาสนับสนุนชาวบ้านในเรื่องของการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ช่วยกันคิด ช่วยกันออกแบบ พัฒนาสินค้าให้ตรงใจผู้บริโภค และตอบโจทย์กับตลาดต่างประเทศ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนจากความถนัดของตัวเอง”

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเปิดตัวคอลเลกชั่นอย่างเป็นทางการ และประชาสัมพันธ์สินค้าฝีมือคนไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในสายตาคนทั่วโลก กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จึงได้ออกแบบเสื้อแจ็กเก็ตรุ่นพิเศษเพื่อให้นักเตะสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ใส่ลงสนามในช่วงพิธีเปิดการแข่งขันในวัน Boxing Day คือ วันที่ 26 ธันวาคม ในศึกดวลแข้งกับสโมสรลิเวอร์พูล โดยเสื้อแจ็กเก็ตนี้เป็นการ Collaborate เทคนิคการย้อมสีระหว่างทางใต้จากชุมชนคีรีวง นครศรีธรรมราช (สีเหลืองทองช่วงล่าง) และทางเหนือจากชุมชนตะเคียนปม ลำพูน (สีฟ้าครามช่วงบน) ปักโลโก้สโสสรเลสเตอร์ ซิตี้ที่อกซ้าย พร้อมปักรูปธงชาติไทยที่แขนข้างซ้าย และธงชาติอังกฤษที่แขนข้างขวา นำพาความเป็นไทยไปสู่สากลตามเป้าหมายของกลุ่มบริษัทฯ ที่ต้องการให้ผลงานของคนไทยไปไกลถึงระดับโลกโดยแท้จริง  โดยวันนี้ทางพรีเมียร์ลีกอนุญาตให้เป็นกรณีพิเศษให้นักเตะเลสเตอร์ใส่เสื้อคอลเลคชั่นภูมิปัญญาแห่งคีรีวง ใส่ลงสนามก่อนการแข่งขันระหว่างเลสเตอร์กับลิเวอร์พูล ซึ่งทำมาพิเศษมีแค่เพียง 50 ตัวในโลกเท่านั้น

สำหรับสินค้าในคอลเลกชั่นนี้ ทำจากผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติทั้งหมด เป็นการย้อมสีผ้าทั้งผืน และเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยใช้เทคนิคการมัด หรือพับด้วยวัสดุที่มีความทนทาน อย่าง แผ่นไม้ ก้อนหิน แล้วมัดด้วยเชือกฟาง เชือกกล้วย หรือหนังยางให้แน่น เพื่อกันสีซึมผ่าน หลังจากนั้น จึงนำไปย้อมสีธรรมชาติตามต้องการ ออกมาเป็น 4 สีหลัก ได้แก่ สีเทาอมน้ำเงิน จากใบคราม  สีเหลือง จากใบหูกวาง    สีส้มอมชมพู จากใบมังคุด และ  สีน้ำตาลอ่อน จากฝักสะตอ

กรรมวิธีประกอบด้วย

1. การเตรียมน้ำด่าง ซึ่งทางบ้านคีรีวงใช้น้ำด่าง 2 ชนิด คือ น้ำด่างขี้เถ้าจากการเผาไม้ยางพารา และน้ำด่างขี้เถ้าจากเปลือกหอยแครงเผา

2. การเตรียมน้ำย้อมสี โดยนำส่วนต่างๆ ของพืช เช่น ใบไม้ เปลือกไม้ แก่นไม้ ดอกไม้ มาต้มไว้ 5-8 ชั่วโมง กรองเฉพาะน้ำสีด้วยผ้าขาวบาง แยกกากออกมา เพื่อนำไปมัดย้อมต่อไป

3. การฟอกผ้า โดยนำผ้าฝ้ายมาฟอกก่อน โดยต้มกับน้ำเปล่า หรือน้ำด่างขี้เถ้าจากไม้ยางพาราเพื่อชะล้างคราบแป้ง และไขมันที่เกาะอยู่บนผ้า แล้วซักด้วยน้ำเปล่า บิดพอหมาด เพื่อนำไปมัดลายต่อไป

4. การมัดลาย  เทคนิคการมัดลายที่ใช้มี 3 วิธี คือ วิธีที่ 1 การมัดแล้วพับ เป็นการพับผ้าให้เป็นรูปต่างๆ แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ผลที่ได้ คือ ลวดลายที่มีลักษณะด้านซ้าย และขวามีความใกล้เคียงกัน โดยผ้ามีสีอ่อนด้านหนึ่ง และสีเข้มอีกด้านหนึ่ง วิธีที่ 2 การขยำแล้วมัด เป็นการขยำผ้าอย่างไม่ตั้งใจ แล้วมัดด้วย

เป็นการขยำผ้าอย่างไม่ตั้งใจ แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ลวดลายที่ได้จะเป็นลวดลายอิสระ การขยำผ้าแต่ละครั้งไม่สามารถควบคุมการทับซ้อนของผ้าได้ ดังนั้นจึงได้ลวดลายที่ไม่ซ้ำแบบ และวิธีที่ 3 การห่อแล้วมัด เป็นการใช้ผ้าห่อวัตถุต่างๆ แล้วมัดด้วยยางหรือเชือก ลายที่เกิดจะเป็นลายใหญ่ หรือเล็กขึ้นอยู่กับวัตถุที่นำมามัด เช่น การนำผ้ามามัดด้วยก้อนหิน รูปทรงแปลกๆ นำมามัดไขว้ไปมา เว้นจังหวะของการมัดให้มีพื้นที่ว่างเพื่อให้สีซึมเข้าไปได้ ซึ่งการมัดด้วยวิธีนี้ จะเกิดความสวยงามแปลกตากว่าการมัดด้วยวิธีอื่นๆ

5. การย้อม นำผ้าที่มัดลายแล้วไปต้มกับน้ำสีที่เตรียมไว้ 3 ชั่วโมง โดยใช้เตาไร้ควัน และทุก 1 ชั่วโมง นำผ้ามัดย้อมล้างในน้ำด่าง หรือน้ำขี้เถ้า หรือน้ำโคลนแดง หรือน้ำปูน แล้วย้อมสีอีกครั้ง เมื่อย้อมเสร็จ นำไปผึ่งในที่ร่ม แล้วเข้าสู่กระบวนการตัดเย็บต่อไป

“กว่า 30 ปีแล้ว ที่คิง เพาเวอร์ได้เข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าชุมชนทั่วทุกภูมิภาค เราอยากมีส่วนช่วยสร้างอาชีพ และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนต่างๆ ให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง ให้พวกเขามีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนนำไปสู่การกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืนตามความมุ่งหวังของคิง เพาเวอร์  ที่อยากเห็นคนไทยได้แสดงความสามารถในระดับสากล ภายใต้ความเชื่อมั่นว่าคนไทยทำได้ไม่แพ้ชาติใดในโลก” อัยยวัฒน์กล่าวทิ้งท้าย

#KINGPOWERTHAIPOWERพลังคนไทย #WeBelieveInThaiPower #เชื่อในพลังคนไทย


https://www.banmuang.co.th/news/activity/174943

โพสต์โดย : arkaru arkaru เมื่อ 2 ก.พ. 2563 09:53:12 น. อ่าน 137 ตอบ 0

facebook