สามารถรับราชการได้เป็นระยะเวลานานกว่าเอกชน เพราะงานราชการไม่มีคำว่าเจ๊ง ขาดทุน จนต้องเลิกกิจการ แต่งานเอกชนมีเจ๊ง ขาดทุน จนต้องเลิกกิจการเพราะไม่มีเงินลงทุนต่อ ก็ต้องปลดพนักงานทั้งหมด ก็ต้องหางานใหม่ แต่งานราชการอยู่ได้ถึงเกษียนราชการ ได้ทำงานกันยาวเลย ไม่ต้องกลัวจะถูกไล่ออก ถ้าเราไม่ได้เกเร หรือทำผิดวินัยอะไรที่ร้ายแรงมากๆ ซึ่งนี่ก็เป็นจุดเด่นของการทำงานราชการกันเลยทีเดียว ซึ่งไม่เพียงแต่จะมีความมั่นคงเท่านั้น แต่เมื่อถึงวัยเกษียณก็ยังมีเงินบำเหน็จบำนาญให้ได้ใช้กันอีกด้วย
จากที่เราเข้ารับราชการมาเป็นเวลาหลายปีจนถึงอายุ 60 ปีแล้วเราก็สามารถเลือกว่าจะรับบำเหน็จหรือเราจะรับบำนาญก็ได้แล้วแต่เราจะเลือก เราก็เลือกได้ว่าอย่างไดมีประโยชน์กับเรามากกว่ากันลองเปรียบเทียบดูว่าอันไหนได้เงินคุ้มค่ากว่ากัน เราก็เลือกบางนั้น บำเหน็จเราก็จะได้เงินเป็นก้อนเดียวแต่มีจำนวนมากคิดตามจำนวนปีที่รับราชการคูณเงินเดือนสุดท้ายตอนที่เกษียนราชการว่าเป็นเงินบำเหน็จเท่าไร ส่วนเงินบำนาญก็ได้ต่อเดือนจำนวนน้อยลงมา แต่ได้ทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต
เวลาเราเจ็บป่วยเป็นอะไรมาแล้วไปโรงพยาบาลเพื่อให้หมอรักษา หรือเจ็บป่วยหนักก็สามารถเบิกค่ารักพยาบาล ไม่ต้องจ่าย หลวงออกให้หมด ไม่ต้องจ่ายเงินสดเลย จ่ายตรงกับกรมบัญชีกลาง เงินช่วยค่าเล่าเรียนบุตรบางส่วน ก็จะทำให้เราประหยัดเงินไปมาก เงินเบี้ยเลี้ยงค่าเดินทางไปต่างจังหวัด เงินเบิกค่าที่พักเวลาไปทำงานที่ต่างจังหวัดแบบค้างคืน เงินค่าเบี้ยประชุมต่างๆ ซึ่งเงินบางอย่างทำงานเอกชนจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ และยังมีบ้านพักของข้าราชการอีกด้วย ต้องไปเช่าบ้าน หรือซื้อบ้านอยู่ บ้านพักของทางราชการเรารับราชการที่ไดเราก็สามารถมีสิทธิ์ได้พักที่นั้น
เพราะทำงานไปเรื่อยจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไปอีกตามสเต็บ ในสายงานของระบบราชการนั้นๆ ไปจนถึงตำแหน่งสูงสุด แต่ต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถ เป็นผู้นำ สามารถปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาได้ แต่ถึงอย่างไรก็นับว่างานราชการเป็นงานที่มั่นคงและมีอนาคตที่ดีอยู่ดี อย่างใครอยากมีอนาคตที่ดี มีการวางแผนการเงินที่ดี ก็ต้องเลือกงานราชการเท่านั้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของตัวคุณเองด้วย
โพสต์โดย : Chor2537 เมื่อ 29 ก.พ. 2563 14:20:32 น. อ่าน 142 ตอบ 0