แจกเงินเยียวยา นายกฯ ขอประชาชนมั่นใจ จ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ครบ 3เดือน แน่นอนขอโทษแถลงข่าวทำให้ไม่สบายใจ ขณะรอดูผ่อนปรนมาตตรการ
(16 เม.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 1/2563 ที่ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
แจกเงินเยียวยา ซึ่งภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกสื่อมวลชนมาเพื่อชี้แจงในประเด็นเงินช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เงินที่ใช้ในช่วยเหลือเยียวยาสถานการณ์โควิด-19 ทั้งหมดเป็นไปตามกฏหมาย
ซึ่งภายหลังการประชุมแล้วเสร็จ นายกรัฐมนตรี ได้เรียกสื่อมวลชนมาเพื่อชี้แจงในประเด็นเงินช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เงินที่ใช้ในช่วยเหลือเยียวยาสถานการณ์โควิด-19 ทั้งหมดเป็นไปตามกฏหมาย
พร้อมขอให้มั่นใจในรัฐบาล ในกระทรวงการคลัง และรัฐบาลของตนเอง ว่าจะจ่ายเงินเยียวยาครบ 3 เดือนอย่างแน่นนอน แต่รัฐบาลจะเป็นจะต้องมีความระมัดระวังในการกู้เงิน เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต ยืนยัน ส่วนตัวทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเวลาเดียวกันด้วย ในทั้งนี้ทั้งนั้นรัฐบาลยังไม่ได้ถังแตกนะจ้ะตอนนี้ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังจะเริ่มแจกเงินช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งหมดนี้เป็นไปตามกฎหมายทั้งหมด
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาท ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีเม็ดเงินช่วยเหลือเยียวยาถึงคนทำงานที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19ในรอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2563 และรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 13-14 เมษายน 2563 แล้วจำนวน 2.4 ล้านราย คิดเป็นมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท
กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามเร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนกว่า 27 ล้านคนโดยเร็วที่สุด โดยในช่วงวันที่ 15-17 เมษายน 2563 จะเริ่มทยอยส่ง SMS และโอนเงินเยียวยาในรอบที่ 3 ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ประมาณ 8 แสนราย คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านบาท
สำหรับกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์แต่ได้รับแจ้งว่าการโอนเงินไม่สำเร็จ เนื่องจากบัญชีธนาคารถูกปิด บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวนานเกิน 1 ปี ชื่อบัญชีไม่ตรงกับชื่อที่ลงทะเบียน เลือกรับโอนเงินผ่านพร้อมเพย์แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์ หรือเข้ามาแก้ไขข้อมูลบัญชีแล้ว แต่ใส่ข้อมูลไม่ถูกต้องสามารถแก้ไขได้โดยการผูกบัญชี พร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชนผ่าน Mobile Banking หรือตู้ ATM ได้ทุกธนาคาร โดยไม่ต้องไปสาขาธนาคาร เพื่อรอรับการโอนเงินเยียวยางวดเดือนเมษายนอีกครั้งในวันที่ 22 หรือ 29 เมษายน 2563
ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนมาโดยตลอด และเตรียมเปิดกลไกการขอทบทวนสิทธิ์ในวันที่ 20 เมษายน 2563 ผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้นที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com จึงขอเน้นย้ำว่าประชาชนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่กระทรวงการคลัง เพราะไม่ได้มีช่องทางการเปิดรับเอกสาร และเป็นการดำเนินการตามแนวทางเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ทั้งต่อตัวผู้ประสงค์จะขอทบทวนสิทธิ์เองและต่อส่วนรวมของสังคมไทย
การขอทบทวนสิทธิ์นี้ ในระยะแรกจะเปิดกว้างสำหรับประชาชนที่ไม่ผ่านเกณฑ์และไม่เห็นด้วยกับผลการตรวจสอบและคัดกรองก่อน และในระยะต่อไปจะขยายไปยังกลุ่มผู้ที่ได้กดยกเลิกการลงทะเบียนโดยความเข้าใจผิดด้วย กลไกการทบทวนสิทธิ์จะดำเนินการอย่างรวดเร็วโดยการลงพื้นที่จริงเพื่อยืนยันตัวตนและความเดือดร้อนของผู้ลงทะเบียน ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลังในพื้นที่
เช่น คลังจังหวัด สรรพากรพื้นที่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นต้น รวมถึงบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ด้วยทั้งนี้ ผู้ผ่านการทบทวนสิทธิ์จะยังได้รับเงินเยียวยาครบทั้ง 3 เดือน เนื่องจากการให้เงินเยียวยาจะใช้วันลงทะเบียนในการเริ่มนับสิทธิ์
โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำว่า รัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอและมีความตั้งใจที่จะดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัส Covid-19 ให้ครอบคลุมครบทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมสำหรับแต่ละกลุ่มต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนและผ่านเกณฑ์แล้วแต่ยังไม่ได้รับเงิน สามารถตรวจสอบสถานะได้ที่เว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน เพื่อตรวจสอบขั้นตอนการจ่ายเงินเยียวยาว่าอยู่ขณะนี้ดำเนินการถึงขั้นตอนไหนแล้ว
โดย นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า การโอนเงินในกลุ่มที่ไม่มีปัญหาจะส่งเอสเอ็มเอสแจ้งและทยอยโอนเงินเข้าบัญชีตามปกติ ในรายที่มีปัญหาเลขบัญชีไม่ตรงจะมีปุ่มหน้าเว็บไซต์ให้แก้ไขเลขบัญชี เพื่อให้โอนเงินเข้าได้
นายลวรณ กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มที่ไม่ผ่านเกณฑ์แน่นอนจะมีเอสเอ็มเอสแจ้ง และไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะผิดหลักเกณฑ์มาตรการ เช่น กลุ่มอายุไม่ถึง 18 ปี กลุ่มแม่บ้าน ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพ ข้าราชการ-บำนาญ เกษตรกร นักเรียนนักศึกษา กลุ่มค้าขายออนไลน์ เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะให้กรอกเอกสารออนไลน์ ชี้แจงข้อมูลในประเด็นที่ได้มีการสอบถาม
ล่าสุดก็ได้มีการแจกเงินจาก นายกฯรัฐมนตรีได้ประกาศว่าจะแจกเงินเยียวยา5,000 บาทครบทั้งหมด3 เดือน ประชาชนมั่นใจได้เลย
วันที่ 15 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงาน กระทรวงการคลังจะทำการโอนเงินจำนวน 5,000 บาท ระยะเวลา 3 เดือน รอบที่สาม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2563 จำนวน 8 แสนราย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ หรือบัญชีธนาคารที่ได้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “เราไม่ทิ้งกัน”
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ระบุว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามเร่งกระบวนการตรวจสอบและคัดกรองผู้ลงทะเบียนกว่า 27 ล้านคนโดยเร็วที่สุด โดยในช่วงวันที่ 15-17 เมษายน 2563 จะเริ่มทยอยส่ง SMS และโอนเงินเยียวยาในรอบที่ 3 ซึ่งมีผู้ผ่านเกณฑ์ประมาณ 8 แสนราย หรือคิดเป็นวงเงิน 4 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีเม็ดเงินช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด-19 ในรอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 8 – 10 เมษายน 2563 และรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 13 – 14 เมษายน 2563 แล้วจำนวน 2.4 ล้านราย หรือคิดเป็นวงเงินจำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท
สำหรับผู้มีที่ไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ที่ต้องการยื่นอุทรณ์ กระทรวงการคลังจะเปิดระบบบนเว็บไซต์ “เราไม่ทิ้งกัน” โดยจะมีการเพิ่มปุ่ม “อุทธรณ์” ในสัปดาห์หน้า สามารถทำการอุทธรณ์ด้วยตนเองผ่านระบบ ออนไลน์ ทั้งนี้หากประสงค์จะร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรการเยียวยา 5,000 บาทขอให้ติดต่อ call center ของธนาคารกรุงไทย 02-1111144 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือ call center ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 02-2739020 (เฉพาะวันและเวลาราชการ)
ขอบคุณข้อมูล:https://thaihotnew.com/
โพสต์โดย : Thaihotnew เมื่อ 17 เม.ย. 2563 16:59:03 น. อ่าน 141 ตอบ 0