2.ไอดอลของปอล

    ผู้สัมภาษณ์ยิงคำถามว่านักฟุตบอลคนไหนที่สมัยเด็ก ปอล ป็อกบา มีโปสเตอร์แปะอยู่ที่ผนังห้องนอน เขาเลยเผยชื่อนักเตะออกมา 6 คน ซึ่งนักเตะเหล่านี้เป็นแนวรุกทั้งสิ้น  “ผมมีโปสเตอร์ของ โรนัลดินโญ่, โรนัลโด้, ซีเนดีน ซีดาน, เธียร์รี่ อองรี, ฌิบริล ซิสเซ่ และ กาก้า” ป็อกบา กล่าว

3.ลียงเกือบคว้าตัวแล้ว

    มีหลายคนบอกว่า ป็อกบา ควรจะอยู่ในฝรั่งเศสต่อหลังจากตัดสินใจออกจากอคาเดมี่ของทีม เลอ อาฟวร์ และ โอลิมปิก ลียง ก็เกือบจะได้ตัวของเขาไปอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สัมภาษณ์ถาม ป็อกบา ว่ายากแค่ไหนกับการตัดสินใจย้ายไปที่อังกฤษ เขาตอบว่า

    “ง่ายมากเลย เพราะมันคือ แมนฯยูไนเต็ด ไง พูดตามตรงเลยผมกำลังจะได้เซ็นสัญญากับ โอลิมปิก ลียง แล้ว พวกเขาต้องการให้ผมเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพที่นั่น แต่ผู้คนชอบมาบอกกับผมว่า อย่าไปค้าแข้งต่างแดนเลย คุณจะเจอความยากลำบาก อยู่ที่ฝรั่งเศสต่อเถอะ... แต่ผมกลับคิดว่าไม่นะ พวกเขา (แมนฯยูไนเต็ด) เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก นี่อาจจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตของผมเลยและผมจึงต้องคว้ามันมา ความจริงต้องบอกว่าผมมีโอกาส (ย้ายมาแมนฯยูไนเต็ด) ถึงสองครั้งต่างหาก” มิดฟิดล์ผีแดงกล่าว

4.ใครเคยเป็นเพื่อนร่วมห้อง?

    ดาวิเด้ เปตรุชชี่ อดีตดาวรุ่งผีแดงเคยอาศัยอยู่กับ ปอล ป็อกบา หลังจากที่เขาย้ายมาจากโรม่า มิดฟิลด์คนนี้เคยเป็นกัปตันทีมของแมนฯยูไนเต็ดชุดสำรอง แต่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาทีมชุดใหญ่ได้ จึงต้องออกจากทีมไปและปีที่แล้วเขาเพิ่งเซ็นสัญญากับทีมอัสโคลี่ในอิตาลี

    “ผมเพิ่งได้ย้ายมาอยู่บ้านพักเป็นครั้งแรก และครอบครัวของเขาดีมากเลย ผมยังติดต่อกับพวกเขาจนถึงทุกวันนี้ พวกเขาช่วยดูแลผม ผมอยู่กับ ดาวิเด้ เปตรุชชี่ เราเติบโตมาด้วยกัน เขาเป็นเหมือนพี่เลี้ยงของผม ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้มากนัก ในช่วงแรกผมใช้แต่สัญญาณมือแต่พวกเขาก็คอยช่วยผมให้เรียนรู้ได้เร็วมากขึ้น” ป็อกบา กล่าว

5.จากทะเลาะวันนั้นกลายเป็นเพื่อนรักวันนี้

    อีกหนึ่งนักเตะดาวรุ่งรุ่นเดียวกับ ป็อกบา ในทีมชุดที่ชนะ เอฟเอ ยูธ คัพ เมื่อปี 2011 นั่นคือ ราเวล มอร์ริสัน ซึ่งตอนนี้เขาค้าแข้งอยู่กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดย ป็อกบา กล่าวถึงที่มาของการที่ทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักกัน

    “ผมมีเรื่องเล่าของราเวลด้วย ตอนที่ผมมาที่นี่ไม่กี่อาทิตย์ เขาเป็นเพื่อนที่ดีเลย แต่ผมต้องบอกตามตรงว่าผมเคยเกือบทะเลาะกับเขาด้วย มันเป็นเรื่องระหว่างที่พวกเรากำลังฝึกซ้อมกันอยู่ ทุกๆคนรู้ว่าเขาเป็นคนที่เลี้ยงบอลดีแค่ไหน เขาเลี้ยงบอลผ่านผู้เล่นมาหนึ่งคนแต่ผมแย่งบอลจากเขาได้ทว่าดูเหมือนเขาจะโกรธ เขาเลยเข้ามาเตะใส่ผม"

    “ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ผมเลยมองหน้าเขา และนึกกับตัวเองว่า 'โอเค..ไม่เป็นไร รอให้ถึงคราวที่เขาแย่งบอลจากผมบ้าง แล้วผมจะเอาคืน! ' หลังจากนั้นเขาก็พูดภาษาอังกฤษใส่ผมว่า “โอเคสงสัยเราคงได้เจอกันที่ห้องแต่งตัว” แต่ผมตอบกลับเขาไปเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “ได้ไม่มีปัญหาผมไม่กลัวคุณอยู่แล้ว” ทว่าเมื่อเข้าห้องแต่งตัวเขาก็เข้ามากอดผม นับตั้งแต่นั้นมาเราสนิทกันมาก มันเป็นเรื่องที่แปลก และตลกมากแต่มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยเมื่อเล่นฟุตบอล และตอนนี้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” ป็อกบา กล่าว

6.เหตุผลที่ย้ายออกจากแมนยู?

    ป็อกบา คอนเฟิร์มว่าเขาตัดสินใจย้ายออกจากแมนฯยูไนเต็ดเมื่อเขาเป็นได้แค่ตัวสำรองในเกมที่ผีแดง พ่ายแพ้ แบ็ลคเบิร์น เมื่อปี 2011 

    “มันเป็นการตัดสินใจที่ยากเย็นสำหรับผม และสำหรับผู้จัดการทีมด้วย มันไม่ใช่เป็นเพราะสัญญาของผมที่ใกล้จะหมดแต่เป็นเพราะความเชื่อใจในตัวผมมากกว่า แม้สำหรับผม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงเป็นกุนซือที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์”

    “มันทำให้ผมโกรธเล็กน้อย มันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเลย ผมอยากที่จะเล่นนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการ เมื่อผมรู้ว่าจะมีโอกาสได้ลงเล่นในเกมกับ แบล็คเบิร์น แล้วผมไม่ได้สิ่งนั้นมันทำให้ผมเสียใจมาก ในตอนนั้นไม่มีผู้เล่นที่เป็นมิดฟิลด์เลย นักเตะหลายคนเจ็บ พอล สโคลล์ ก็แขวนสตั๊ดแล้ว ทว่าเกมนั้น ราฟาเอล ได้เล่นเป็นมิดฟิลด์คู่กับ ปาร์ค จี-ซุง แต่ผมไม่ได้ลงเล่น พวกเราแพ้เกมนั้น ผมทำได้แค่วอร์มอยู่แถวม้านั่งสำรอง ผู้จัดการทีมมีทางเลือกมากมายแต่วันนั้นมันทำให้ผมเสียใจ ผมบอกกับ ปาทริค เอวร่า ว่านั่นเป็นโอกาสของผม ซึ่งเขาก็บอกกับผมเช่นกันว่าผมมีโอกาสที่จะได้ลงสนาม แต่สุดท้ายก็ไม่ได้”

    “ดังนั้นผมจึงย้ายไปอยู่ ยูเวนตุส และผมต้องบอกอีกครั้งว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยาก เพราะการไปอยู่สโมสรอื่นนั้นแน่นอนว่าคงไม่ได้เป็นหนึ่งใน 11 ตัวจริงแต่ผมจะย้ายไปในฐานะนักเตะดาวรุ่ง ซึ่งแข้งดาวงรุ่งก็ต้องพิสูจน์ตัวเอง มันเป็นความท้าทายมากสำหรับผม แต่ผมคิดว่า ลุยเลยดีกว่า...ไม่มีปัญหา ผมอยากจะโชว์ว่าผมพร้อมสำหรับทีมพวกเขา”

7.คำวิจารณ์ไม่มีผลกับผม!

    กองกลางชาวฝรั่งเศสกล่าวว่าเขาไม่มีเวลาให้นักวิจารณ์ทั้งหลายที่ต่อว่าเขา เขายอมรับว่าเขาไม่จำเป็นต้องฟังการวิเคราะห์ของเหล่ากูรูในรายการถ่ายทอดสดฟุตบอล

    “ถ้าเขาต้องการพูด ก็ปล่อยให้เขาพูดไป นั่นเป็นอาชีพของเขา ตอนนี้ผมชินกับมันแล้ว คำวิจารณ์เหล่านั้นไม่ได้ทำให้ผมกังวลใจแต่อย่างใด แน่นอนมันดีอยู่แล้วกับการได้ยินเรื่องที่ดี ดีกว่าได้ยินเรื่องแย่ๆ อย่างที่ผมบอกเมื่อคุณเล่นฟุตบอล คุณก็จะได้ยินเสียงวิจารณ์เป็นปกติแต่คุณก็รู้ว่าตัวเองดี รู้ผู้จัดการทีมดี รู้เพื่อนร่วมทีมดี และรู้ว่าคุณต้องการอะไรอยู่แล้ว”

    “ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ดูฟุตบอล แต่ผมไม่อยู่ดูและไม่ฟังสิ่งที่พวกเขากำลังจะพูดหลังเกม ผมชอบที่จะโฟกัสกับเกมตัวเกมฟุตบอลมากกว่า”