ชนาพรรณ จากกรณีที่เมื่อวันที่ 16 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ นำโดย นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะประธานมูลนิธิไทยซัมมิทพัฒนา ได้ลงพื้นที่ชุมชนวัดหนามแดง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยได้มอบเงินให้แก่ชาวบ้าน ครอบครัวละ 2,000 บาท จำนวน 500 ครัวเรือน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น
ล่าสุดวันนี้ (18 เม.ย.) ได้เกิดข่าวลือ ว่า ครอบครัวจึงรุ่งเรืองกิจ จะมาแจกเงินให้แก่ชาวบ้านซอยวัดด่าน จ.สมุทรปราการ ในวันนี้ จนมีชาวบ้านมายืนออกันเป็นจำนวนมาก เพื่อรอรับเงิน ส่งผลให้ ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ บุตรสาวคนโตของ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัวJing Juangroongruangkit เพื่อชี้แจงว่า นางสมพร และครอบครัว ไม่ได้จะไปแจกเงินหรือข้าวของใดๆ ที่วัดด่านวันนี้ พร้อมย้ำ ขออย่าซ้ำเติมประชาชนมากกว่านี้
โดยได้โพสต์ข้อความไว้ดังนี้..ผมไม่ค่อยเห็นภาพ สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปงานการกุศล หรือว่าตกข่าวก็ไม่รู้
ทั้งๆที่คนร่ำรวยธุรกิจใหญ่โต ไทยซัมมิท น่าจะใจบุญสุนทาน
พลันที่ มีภาพข่าว สมพร ปรากฎตัวพร้อมเงิน2,000บาทและถุงยังชีพ ไปแจกจ่ายประชาชนย่านสมุทรปราการ ทำให้สังคมทั่วไปหันขวับโฟกัสมาที่ นางสมพร อีกครั้ง
ในตัวนางสมพรเอง มีหลายสถานะ เจ้าของธุรกิจ และมารดาของนักการเมืองดัง นาม ธนาธร
ธนาธร เองพาแม่มาตกระกำลำบากกับขวากหนามทางการเมือง ถึงขนาดต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมาแล้ว
ทรัพย์สมบัติประดามีถูกขุดคุ้ยออกมาจนหมด ไม่เว้นแม้แต่ที่ดินที่ราชบุรี ที่จะต้องคืนหลวงเพราะเป็นที่ดินไม่มีโฉนด
นี่คือผลของการเมือง
เริ่มจากตัวธนาธร ต้องหลุดจากสส.เพราะหุ้นวีลัคมีเดีย ต่อมาพรรคถูกยุบเพราะเงินกู้เจ้ากรรมจนต้องแปลงร่างจาก อนาคตใหม่ มาเป็น ก้าวไกล แต่บรรดาลูกพรรคที่เป็นสส.ส่วนใหญ่ ย้ายจากอนาคตใหม่มาก้าวไกล
และสส.ของอนาคตใหม่ ในพื้นที่สมุทรปราการ พิกัดที่ แม่ธนาธร ไปแจกเงิน และมีผู้สมัครสส.ที่พลาดเก้าอี้ครั้งที่แล้วในเขตบางพลี สมุทรปราการ
ความน่าสนใจที่คอการเมืองจับตาคือ เขตเลือกตั้ง ของ กรุงศรีวิไล สุทินเผือก แห่งพลังประชารัฐ ที่ได้ใบเหลืองกกต. ขณะนี้รอผลตัดสินจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเท่านั้น และแนวโน้มจะได้เลือกตั้งใหม่มีสูง
อย่างนี้หรือไม่ ที่ นางสมพร แม่ธนาธร เปิดปฏิบัติการ”เศรษฐีใจบุญ” นำเงินและถุงยังชีพไปแจกชาวบ้าน เฉพาะเจาะจงพื้นที่นี้เพื่อหวังผลทางการเมืองหรือไม่
แน่นอนว่าสิ่งที่ แม่ธนาธร ทำมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ขนาดคนที่เคยสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ยังไม่เห็นด้วยเลย
มิพักต้องพูดถึงฝ่ายตรงข้ามอย่างพลังประชารัฐ ผู้ใหญ่ของพรรคได้ปล่อย แรมโบ้ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำตัวนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า
“หากการกระทำของ นางสมพร เป็นการกระทำเพื่อปูทางหาเสียงให้กับผู้สมัครพรรคก้าวไกลเช่นนี้ การกระทำดังกล่าวอาจจะสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ เพราะว่าเขตบางพลี อาจจะมีการเลือกตั้งใหม่ในอนาคตซึ่งต้องรอผลศาลฯตัดสิน ถ้านางสมพรฯมิได้มีเจตนาแอบแฝงหรือหวังผลทางการเมือง ก็ไม่ควรมุ่งเป้าในพื้นที่อำเภอบางพลีนี้จุดเดียวควรจะกระจายความช่วยเหลือคนเดือดร้อนไปให้ทั่วๆในหลายจังหวัด ถึงแม้จะเป็นเขตเลือกของสส.พรรคใดจังหวัดใดก็ตาม ถ้ามีความตั้งใจช่วยด้วยใจจริงก็ควรไปช่วยด้วย ไม่ควรเลือกจุดพื้นที่ที่มีเป้าหมายหวังผลทางการเมืองเพราะวันนี้เราคนไทยด้วยกันไม่มีเวลามาคิดการเมืองแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นของพรรคโน้นพรรคนี้แล้ว เพราะทุกคนคือคนไทยด้วยกันมิใช่หรือ ความเสียสละที่จะต้องช่วยกันทุกพื้นที่ของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบไวรัสโควิด-19 คือเป้าหมายที่พวกเราต้องช่วยกันอย่างแท้จริงไม่มีเวลามาเล่นแบ่งพรรคแบ่งพวก แยกขั้วแยกฝ่ายการเมืองใดๆทั้งสิ้นในยามที่ประเทศมีวิกฤตินี้ครับ
หรือคุณสมพรถ้าจะบริจาคสนับสนุนก็สามารถติดต่อผ่านหน่วยงานรัฐหรือส่วนราชการหรือนำอุปกรณ์ต่างๆไปมอบให้โรงพยาบาลที่หมอและพยาบาลที่ขาดแคลนจะไม่ดีกว่าหรือไม่ใช่มาให้ลูกน้องถ่ายคลิปแจกเงินโชว์ในโซเชียลเช่นนี้ดูแล้วไม่สบายในสายตาคนชมเลย ตนจึงขอแนะนำว่าควรจะไปช่วยในพื้นที่อื่นๆด้วยเพื่อมิให้ใครมองว่ามีเจตนาช่วยพรรคก้าวไกลที่มีนายธนาธรและคุณสมพรฯเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังใกล้ชิดกับพรรคดังกล่าวนี้”
เช่นเดียวกับ นักร้องอย่าง ศรีสุวรรณ จรรยา ถึงกับโพสต์ข้อความว่า “อ้างโควิด-19 แจกเงินที่บางพลี ทั้งๆที่เป็นเขตที่จะมีการเลือกตั้งซ่อม ดูเจตนาแอบแฝงในการช่วยเหลือประชาชน แต่เสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง ดูท่า กกต.คงต้องชักใบเหลืองรอบ 2 หรือเปล่าครับ”
นี่แสดงให้เห็นว่า ในโควิดมีการเมือง ในการเมืองมีโควิด และมีคนฉวยเอาสถานการณ์ระบาดของโควิดไปสู่ความนิยมของตัวนักการเมืองและพรรคการเมือง
เพราะมีสส.หลายคนตั้งโต๊ะแจกของ ณ ที่ทำการพรรค โดยไม่มีการเว้นระยะห่าง ทำให้ชาวบ้านยืนแออัดยัดทะนาน เสี่ยงจะติดเชื้อแพร่เชื้อก็ไม่สนใจ ขอให้ได้คะแนนเสียงก็พอ
ขณะที่นายกฯได้เรียกร้องให้มีการสลายสีเสื้อ เลิกแบ่งฝักฝ่ายทางการเมือง เพื่อรวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการฝ่าวิกฤติโควิดครั้งนี้ไปให้ได้ แต่ก็ไม่วายยังมีการกระทำเพื่อแสวงประโยชน์ทางการเมืองอยู่ดี
ขอชี้แจงว่าทางคุณแม่และครอบครัว รวมถึงมูลนิธิ ไม่ได้มีการจะไปแจกเงินหรือข้าวของใดๆที่วัดด่านวันนี้นะคะ
มี fake news เกิดขึ้นทำให้คนเข้าใจผิด ต้องการให้คนผิดหวังกับทางเรา และกลายเป็นว่ามีคนไปรอกันมากมายค่ะ