สสจ.เชียงราย ชี้แจงกรณีผู้ป่วยโควิด-19 รักษาในโรงพยาบาลจนหาย แล้วกลับมาป่วยปอดอักเสบอีกรอบ ยันไม่นิ่งนอนใจ แยกผู้ป่วย ตามอาการใกล้ชิด โดยเป็นไปได้มาจากเชื้อแบคทีเรียและไวรัส กำลังตรวจละเอียด
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.63 ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข แถลงว่า กรณีผู้ป่วยชายที่เคยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รักษาหายกลับบ้านที่ อ.เทิง เกิดเป็นไข้ขึ้นสูงหวนกลับมารักษาที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์อีกครั้ง เมื่อเย็นวันที่ 18 เม.ย.นั้น ขอชี้แจงว่า ผู้ป่วยรายนี้เข้ารับการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 มี.ค.63 ออกจาก รพ.เมื่อวันที่ 6 เม.ย.63 โดยมีสุขภาพปกติ ไม่มีไข้ หรืออาการทางระบบทางเดินหายใจ และให้กักตัวเองที่บ้านต่ออีก 14 วัน สวมหน้ากากอนามัย และแยกตัวจากครอบครัวและชุมชน มีการวัดไข้ทุกวัน
ระหว่างกักตัว 14 วันที่บ้าน ผู้ป่วยมีอาการไอ เป็นไข้ เข้ารักษา รพ.เทิง และได้ส่งผู้ป่วยไป รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.63 จากการตรวจประเมินโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เบื้องต้นพบว่า มีอาการเข้าได้กับโรคปอดอักเสบ โดยเชื้อก่อโรคปอดอักเสบมีความเป็นไปได้จากทั้งเชื้อไวรัสอื่นๆ และแบคทีเรีย ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนส่งตรวจพิเศษอย่างละเอียดเพิ่มเติม
ทีมแพทย์ผู้รักษาก็ยังไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงเฝ้าระวังอาการ และติดตามการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำ รวมถึงภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยต่อเชื้อโควิด-19 ด้วย โดยมีแผนการรักษาให้ผู้ป่วยนอนอยู่ห้องแยกโรค เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ให้ยาครอบคลุมการรักษาเชื้อที่มีความเป็นไปได้ ต่ออาการป่วยของผู้ป่วย ปัจจุบันไม่มีไข้ มีอาการไอเล็กน้อย สามารถเดินและช่วยเหลือตัวเองได้ตามปกติ
ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวผู้ป่วยรักษาหายแล้วอาจกลับมาป่วยซ้ำ ทางหน่วยงานสาธารณสุขได้มีการเฝ้าระวัง ติดตามสุขภาพของผู้ป่วยทุกรายที่ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว ขอให้เชื่อมั่นต่อระบบการดำเนินงานเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคของจังหวัดเชียงราย.
โพสต์โดย : ืnaderi เมื่อ 20 เม.ย. 2563 19:39:02 น. อ่าน 154 ตอบ 0