ช็อกสุด ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงท่ามกลางปริมาณธุรกรรมที่ค่อนข้างบาง (ปริมาณสัญญาเดือน พ.ค. อยู่ที่ 126,400 สัญญา เทียบกับเดือน มิ.ย. ที่ใกล้ระดับ ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงท่ามกลางปริมาณธุรกรรมที่ค่อนข้างบาง (ปริมาณสัญญาเดือน พ.ค. อยู่ที่ 126,400 สัญญา เทียบกับเดือน มิ.ย. ที่ใกล้ระดับ 800,000 สัญญา) จากอุปสงค์และอุปทานในตลาดซื้อขายจริงของน้ำมันดิบที่ “ไม่สมดุล” โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่อุปสงค์ปรับลดลงอย่างรุนแรงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หดตัวลงมากในช่วงวิกฤตแพร่ระบาดไวรัส COVID-19800,000 สัญญา)
ขณะที่อุปทานในตลาดโลกยังอยู่ในระดับสูงจน capacity ในสหรัฐฯสำหรับการจัดเก็บน้ำมันดิบทั้งที่เมือง Cushing รัฐ Oklahoma ซึ่งเป็นจุดขนส่งของ WTI และน้ำมันที่กลั่นแล้วกำลังจะเกินขีดความสามารถการจัดเก็บ ทำให้ผู้ซื้อโดยเฉพาะกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันที่มีข้อจำกัดด้านการจัดเก็บน้ำมันไม่ต้องการรับมอบน้ำมันดิบ และทำการ roll over สัญญาออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการรับส่งมอบที่มีต้นทุนในการจัดเก็บ
ส่วนราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัสที่ส่งมอบในเดือนมิถุนายนยังคงปรับตัวลดลง แต่ยังซื้อขายกันอยู่ที่ระดับมากกว่า 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ช็อกสุด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทะเลเหนือ ซึ่งใช้ในยุโรปและพื้นที่อื่น ๆ ของโลก ราคาซื้อขายในเดือนมิถุนายนก็ปรับตัวลดลง 8.9% มาอยู่ที่ต่ำกว่า 26 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรลเช่นกัน ส่วนหนึ่งเนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันในแถบยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลางที่มีความยืดหยุ่นในการขนส่งน้ำมันจากแหล่งผลิตไปยังตลาดได้มากกว่า ทั้งทางภาคพื้นดิน หรือทางทะเล สวนทางกับผู้ผลิตและผู้กลั่นน้ำมันในหลายแห่งของสหรัฐฯ ที่หลายที่เป็น landlocked อาทิ ในแถบ Midwest ที่ต้องพึ่งพาการขนส่งตามท่อหรือทางรถไฟไปยังตลาด และมีข้อจำกัดในการหาคลังสินค้าเพิ่ม โดยวันนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลง 7.59% มาปิดที่ 25.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันดิบ WTI กับ Brent สูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันยังส่งผลให้ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ร่วงลงไปตามกัน โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 1.7% มาอยู่ที่ 2,823.16 จุด ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 2.4% มาปิดที่ 23,650.44 จุด เช่นเดียวกับแนสแดกที่ลดลง 1% มาปิดที่ 8,560.73 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ และหมดอายุในวันอังคาร (21 เม.ย) ลดลง 55.90 ดอลลาร์ ปิดที่ -37.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือเป็นการปรับลดวันเดียวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2526 ทั้งยังเป็นราคาต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์
ขณะที่งวดส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับตัวลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 20.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.51 ดอลลาร์ ปิดที่ 25.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานระบุว่า วิกฤตการณ์จากแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบทำให้อุปสงค์น้ำมันลดลง 29 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี ขณะที่ประเทศต่างๆพากันออกมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
ด้านโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน ถือว่าน้อยเกินไป และยังไม่มากพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบของอุปสงค์น้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะยังคงร่วงลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากสต็อกน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโอเปกพลัสได้บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตเพื่อลดอุปทานน้ำมันในตลาดโลกก็ตาม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงอย่างหนัก หลังผู้คนกว่าพันล้านคนต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ราคาน้ำมันดิบ ดิบสหรัฐฯ ติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยราคาของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าประจำเดือนพฤษภาคมปิดการซื้อขายในวันจันทร์ที่ 20 เม.ย. ติดลบ 37.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นอัตราการลดลงถึง 306% จากวันก่อนหน้า หลังร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ ติดลบ 40.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดิบเบรนท์ลดลง 2.51 ดอลลาร์ หรือ 9% มาอยู่ที่ 25.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบของสัญญาเวสต์เท็กซัสประจำเดือนมิถุนายนยังคงอยู่ในระดับที่ดีกว่ามาก คือ 20.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานข่าวระบุว่า นักลงทุนตัดสินใจเทขายสัญญาเดือนพฤษภาคมซึ่งหมดอายุลงในวันจันทร์ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดิบที่หดตัวอย่างหนัก
อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้ว ก่อนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าจะหมดอายุลง ผู้ค้าต้องตัดสินใจว่าจะยังซื้อน้ำมันจริง หรือเลื่อนสถานะไปเป็นสัญญาของเดือนถัดไปแทน
นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้ง 3 ดัชนี นั่นคือติดลบเช่นเดียวกัน โดยปัจจัยหลักมาจากความกังวลในตลาดน้ำมันดังกล่าว
ดาวโจนส์ ปิดที่ 23,650.44 จุด ลดลง 592.05 จุด หรือ -2.44%
Nasdaq ปิดที่ 8,560.73 จุด ลดลง 89.41 จุด หรือ -1.03%
S&P 500 ปิดที่ 2,823.16 จุด ลดลง 51.40 จุด หรือ -1.79%
อ่านเพิ่มเติดได้ที่ : https://thaihotnew.com/