เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสืบเนื่องได้รับแจ้งจากนางสำรวย เสนามนตรี อายุ 40 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 10 บ้านดงบาก ตำบลนิคมพัฒนา อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู แจ้งว่ามียายตุ่น อายุ 60 ปีได้พาลูกน้องเป็นชายฉกรรจ์เข้ามารื้อบ้านของตนเองขนไม้และสังกะสีลงมากองด้านล่างเพื่อจะนำไปขายโดยอ้างว่าตนเองติดหนี้อยู่ 10,000 บาท ตนเองได้ไปกู้ยืมเงินกับอดีตกำนันคนนึงเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท เอาไปคืนให้กับอดีตกำนันเป็นเงิน 40,000 บาทและยังคงเหลืออีก 10,000 บาท ตนเองจึงสอบถามยายตุ่นว่าทำไมต้องมารื้อบ้านของตนเองด้วย ยายตุ่น ได้แจ้งว่าอดีตกำนันได้โอนหนี้ที่ตนติดค้างอยู่มาให้กับยายตุ่นเป็นเจ้าหนี้แทน ซึ่งตนเองก็งงเหมือนกันว่าตอนโอนหนี้กันแล้วทำไมไม่แจ้งให้ตัวเองทราบ ซึ่งตนเองก็ได้สั่งให้คนงานทั้งหมดหยุดรื้อบ้านและเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และในวันนี้ทีมข่าวเดินทางไปพบกับ นายชัยบัณฑ์จง สุบินเกษมสิริ อดีตกำนัน ต.โคกม่วง ที่บ้านวังมน ต.โคกม่วง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหนี้ของนางสำรวย เสนามนตรี นายชัยบัณฑ์จงฯ ได้กล่าวว่า เมื่อปี 2554 นางสำรวยฯ มาหาตนที่บ้านมาบอกขายบ้านและที่ดินเป็นเงิน 1 แสนบาท ซึ่งตอนนั้นตนไม่อยากซื้อไว้เพราะญาติของนางสำรวยฯโดนจับเรื่องคดีป่าไม้ จึงมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนี้เพื่อไปสู้คดีและประกันตัวญาติ ตนก็เลยช่วยเหลือ เป็นเงิน 1 แสนบาทโดยบอกว่าถ้ามีเงินเมื่อไหร่ค่อยมาซื้อคืน ซึ่งตอนนั้นได้มีการทำสัญญากับนายแอ๊ด สามีเก่านางสำรวยฯ และตั้งแต่นั้นมาตนก็ให้นางสำรวยฯ อยู่อาศัยมาตลอดโดยไม่ได้ให้ออกจากบ้าน และไม่มีการเก็บเงินดอกเบี้ยอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นการขาย ไม่ใช่การกู้ หรือจำนอง ต่อมาปี 2559 นางสำรวยฯ เข้ามาหาตนพร้อมยายตุ่น บอกว่าจะขอซื้อบ้านคืนจากตนในราคา 1 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งตนก็ขายต่อให้ยายตุ่น และการซื้อขายในวันนั้นนางสำรวยก็รู้เห็นเพราะอยู่ในเหตุการณ์ หลังจากนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
กระทั่งเมื่อวานนี้ มีลูกหลานโทรมาสอบถามว่า เรื่องราวเป็นอย่างไร ตนจึงได้อธิบายความจริงไปให้ฟัง ไม่คิดว่านางสำรวย ฯ จะให้ข่าวแบบนี้จนตนเองเสียหาย
ล่าสุดเมื่อวานนี้ยายตุ่นมาหาตนที่บ้านและขอคำปรึกษา หลังจากไปรื้อบ้านของนางสำรวย ฯ แล้ว โดยที่ตนไม่รู้เรื่อง จึงตำหนิไปว่าที่ไปรื้อบ้านเขาแบบนั้นผิดกฎหมาย ต้องแจ้งเจ้าของบ้านให้ทราบก่อน และที่สำคัญต้องให้ศาลเป็นคนสั่งหากจะรื้อถอน นายชัยบัณฑ์จง สุบินเกษมสิริ อดีตกำนัน ต.โคกม่วง กล่าวทิ้งท้าย
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปพบยายตุ่น ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าบ้านหลังนี้ตนซื้อต่อจากกำนันในราคา 1 แสน 5หมื่นบาทจริง โดยให้นางสำรวยฯ มาผ่อนบ้านคืนไปจากตน แต่ไม่ได้ระบุจำนวนว่าต้องผ่อนครั้งละเท่าไหร่ โดยให้ทยอยให้จนครบ 1 แสน5 หมื่นบาท แต่ปรากฎว่า ตั้งแต่ตนไปซื้อคืนมาตั้งแต่ปี 2559 จนปัจจุบันซึ่งผ่านมาหลายปีแล้ว นางสำรวยฯ ไม่เคยให้เงินเลยซักบาทเดียว ก่อนที่ตนจะไปรื้อบ้าน ได้ไปแจ้งนางสำรวยฯ ไว้แล้วว่าจะไปรื้อบ้าน โดยพาพวกไป 6 คน เป็นลูกหลานของตน โดยไปรื้อจนเสร็จสิ้น และขนไม้บางส่วนมาไว้ที่บ้านของตน จากนั้นนางสำรวยฯ ก็ไปแจ้งความที่ สภ.โนนสัง แจ้งความดำเนินคดีกับตน ส่วนตัวเสียใจที่นางสำรวยฯ มาแจ้งความจับตน ทั้งที่ตนเองตั้งใจจะช่วย เพราะเห็นว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน และทำงานตัดอ้อยด้วยกันไม่คิดว่าจะทำแบบนี้หลังเกิดเรื่องตนก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ หลังจากนี้คงต้องไปต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
ในขณะที่ ร.ต.อ. นิคม หาญคำแพง พนักงานสอบสวน สภ.โนนสัง กล่าวว่า ตอนนี้ในส่วนของคดีความ ได้แจ้ง 3 ข้อหากับยายตุ่น คือ ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดและพาทรัพย์นั้น ไปโดยคุมตัวไปฝากขังที่ศาล จ.หนองบัวลำภู โดยศาลให้ประกันตัวยายตุ่นในหลักทรัพย์วงเงิน 1 แสน 5 หมื่นบาท ส่วนอีก 6 คนที่ร่วมก่อเหตุ ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 อาทิตย์ ซึ่งมีบางคนได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว ข่าวคืบหน้าผู้สื่อข่าวคมชัดลึก จะรายงานให้ทราบต่อไป
ภาพ/ข่าว วรรธนะ ทองดี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.หนองบัวลำภู
โพสต์โดย : ืnaderi เมื่อ 24 เม.ย. 2563 13:50:23 น. อ่าน 147 ตอบ 0