โซดาซ่า ดูบอล
Menu
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย

ยอดผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ทะลุ 2.7 ล้านราย

ยอดผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ทั่วโลก ทะลุ 2.7 ล้านราย ด้านสื่อนอกตีข่าว ทารกไทย วัย 1 เดือนอาการดีขึ้นหลังป่วยโควิด ขณะที่ญี่ปุ่นชื่นชมไทย รับมือโควิดได้เยี่ยม โดยยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 24 เมษายน 2563 ณ เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย พบยอดผู้ติดเชื้อทั่วโลก 2,714,942 ราย เสียชีวิตแล้ว 190,395 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อ

เรียงตามลำดับดังนี้..

1. สหรัฐฯ ติดเชื้อ 878,974 ราย เสียชีวิต 49,754 ราย

2. สเปน ติดเชื้อ 213,024 ราย เสียชีวิต 22,157 ราย

3. อิตาลี ติดเชื้อ 189,973 ราย เสียชีวิต 25,549 ราย

4. ฝรั่งเศส ติดเชื้อ 158,583 ราย เสียชีวิต 21,856 ราย

5. เยอรมัน ติดเชื้อ 153,129 ราย เสียชีวิต 5,575 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อ ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานข่าวไปทั่วโลก กรณี ทารกเพศชาย วัย 1 เดือนชาวไทย ที่ถือเป็นผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดที่ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย มีอาการดีขึ้นแล้ว ซึ่งต้องขอบคุณทีมแพทย์และพยาบาลที่สถาบันบำราศนราดูร ที่ให้การรักษาดูแลอย่างดีเยี่ยม

และล่าสุดจากการเปิดเผยของนายแพทย์วิศัลย์ มูลศาสตร์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ สถาบันบำราศนราดูร ระบุว่า ทีมแพทย์ได้มีการให้ยาต้านไวรัสชนิดคอกเทล แก่ทารกน้อยเป็นเวลา 10 วัน และมีการติดตามสังเกตอาการและตรวจร่างกายหนูน้อยทุกๆ วัน นอกจากนั้นยังมีการเอกซเรย์ทุก 3-5 วัน ซึ่งภาพถ่ายเอกซเรย์ได้แสดงให้เห็นว่าอาการดีขึ้นเรื่อยๆ

ความท้าทายของแพทย์ในการรักษาเด็กทารกอายุต่ำกว่าหนึ่งขวบที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีข้อจำกัดในการใช้ยามากกว่าผู้ใหญ่ แต่อาการป่วยของโรคโควิด-19 ในเด็กอายุน้อยมีแนวโน้มอาการโรคที่รุนแรงน้อยกว่าอาการป่วยของผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อโควิด-19ข่าวนี้กลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจไปทั่วโลกในขณะนี้…

ขณะที่ีเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2563 เวลา 13.30 น. นายนาชิดะ คาซูยะ (Mr. Nashida Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

นายกรัฐมนตรีย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-ญี่ปุ่น เชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตฯ จะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันต่อไป พร้อมขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับความร่วมมือและความช่วยเหลือแก่ไทยเพื่อบรรเทาสถานการณ์โรคโควิด-19 อาทิ ยาและเวชภัณฑ์ และการอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยเหลือชาวไทยกลับประเทศ

เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ แสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค. ที่ดำเนินมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย และยอดผู้ป่วยรายใหม่ลดจำนวนลงทุกวัน พร้อมขอบคุณที่รัฐบาลขยายระยะเวลาอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ชาวญี่ปุ่นในไทยเป็นอย่างมาก สำหรับด้านเศรษฐกิจยืนยันว่าภาคเอกชนญี่ปุ่นยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และจะสานต่อการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต่อไป

ทั้งสองฝ่ายยินดีกับผลสำเร็จของการประชุมสุดยอดอาเซียน+3 สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา โดยญี่ปุ่นพร้อมให้การสนับสนุนแก่อาเซียน 3 ด้าน ได้แก่ ยาและเวชภัณฑ์ การจัดตั้งศูนย์รับมือการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ในอาเซียน และการฟื้นฟูความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของภูมิภาค

โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณญี่ปุ่นที่สนับสนุนไทยในการสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP และการจัดตั้งสถาบันโคเซ็นสองแห่งในไทย เพื่อผลิตวิศวกรและแรงงานทักษะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะแห่งญี่ปุ่น พร้อมทั้งฝากความปรารถนาดีไปยังนายกรัฐมนตรีอาเบะ และประชาชนชาวญี่ปุ่นด้วย

อีกเรื่องที่ต้องรู้ ศบค.ได้แถลงข่าววันนี้วันนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 15 ราย ไร้ผู้เสียชีวิต ทำให้ยอดรวมยังอยู่ที่ 50 ศพ ยอดผู้ป่วยสะสม 2,854 รักษาหายแล้ว 2,490 ราย

โดยวันนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 15 ราย รวมติดเชื้อสะสม 2,854 ราย กลับบ้านเพิ่ม 60 ราย ยังรักษาตัวหายแล้ว 2,490 ราย วันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมยังมีผู้เสียชีวิต 50 ศพ ผู้ป่วยยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. 314 ราย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวเน้นย้ำ ขอให้ประชาชนใช้หน้ากากผ้า ร่วมกับหน้ากากเฟซชิลด์ ไม่เช่นนั้นไม่มีประโยชน์ หากใช้เฟซชิลด์อย่างเดียว เหตุมันมีช่องทางเชื้อเข้าไปติดได้

ขณะกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แยกข้อมูลผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 รายล่าสุดในวันนี้ ติดมาจากที่ใด มีดังนี้

– ผู้ที่ใกล้ชิดหรือสัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 9 ราย (ส่วนใหญ่อยู่ กทม. ภูเก็ต สงขลา)
– คนไทยกลับจากตปท. 1 ราย
– ไปสถานที่ชุมนุมชน (ห้าง,ตลาด,สถานที่เที่ยว) 1 ราย (ปทุมธานี)
– การค้นหาในชุมชน (เชิงรุก) 4 ราย (ยะลา)

อ่านเพิ่มคลิก

โพสต์โดย : Thaihotnew Thaihotnew เมื่อ 24 เม.ย. 2563 14:25:50 น. อ่าน 140 ตอบ 0

facebook