เปิดวิธีรับเงินเยียวยาเกษตรกร 5,000 บาท รวม 3 เดือน ไม่ต้องมีบัญชี ธ.ก.ส. ก็รับเงินได้ ขั้นตอนง่ายๆ ไม่ต้องไปธนาคาร
จากกรณี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เตรียมพร้อมโอนเงินเยียวยา 5,000 บาท รวม 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท คาดเริ่มทยอยโอนเงินได้ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.เป็นต้นไป
สำหรับขั้นตอนการจ่ายเงินดังกล่าว จะรับข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง 2 กรณี ดังนี้
- กรณีเกษตรกรมีบัญชีเงินสามารถใช้บัญชีเงินฝากเดิมได้ โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่
- เกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งบัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารใดก็ได้ ผ่านเว็บไซต์ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกษตรกรไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสาขาของธนาคาร
- ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินฝาก
- สามารถใช้บัตร ATM ถอนเงินจากตู้ ATM ของทุกธนาคาร
- ใช้โทรศัพท์มือถือที่มีแอปพลิเคชัน A-Mobile ถอนเงินโดยไม่ใช้บัตร ATM ที่ตู้ ATM ได้
ทั้งนี้ ระบบจะประมวลข้อมูลและตรวจสอบบัญชีเงินฝากของเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการ ซึ่งจะต้องไม่ซ้ำซ้อนกับความช่วยเหลือในมาตรการ “เราไม่ทิ้งกัน” ได้รับเงินจากกระทรวงการคลัง จะรีบดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรต่อไป โดยจะกระจายการโอนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ ประมาณวันละ 1 ล้านราย คาดเริ่มทยอยโอนเงินตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.เป็นต้นไป
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 เห็นชอบให้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) โดยจ่ายเงินให้แก่ครัวเรือนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับหน่วยงานของรัฐ รายละ 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พ.ค. – ก.ค. 63) จำนวน 10 ล้านราย วงเงินงบประมาณจำนวน 150,000 ล้านบาท ซึ่งขั้นตอนการจ่ายเงินดังกล่าว ธ.ก.ส. จะรับข้อมูลผู้ขึ้นทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ในกรณีเกษตรกรมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. แล้ว สามารถใช้บัญชีเงินฝากเดิมได้ โดยไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่ ส่วนเกษตรกรที่ไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. สามารถแจ้งบัญชีเงินฝากที่มีอยู่กับธนาคารใดก็ได้ ผ่านเว็บไซต์ www.เยียวยาเกษตรกร.com ของ ธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ดย นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้จ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนที่ผ่านเกณฑ์แล้วจำนวน 11 ล้านคน จากผู้ที่เข้าข่ายได้รับเงินเยียวยาจำนวน 16 ล้านคน เหลืออีก 5 ล้านคนอยู่ระหว่างการขอข้อมูลเพิ่มเติมและเป็นกลุ่มที่ยื่นทบทวนสิทธิ์
ทั้งนี้ นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือคณะกรรมการเยียวยาปลัด 10 กระทรวงว่า ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือเพิ่มเติมผู้ได้รับผลกระทบโควิด-19 ในกลุ่มคนที่ตกหล่น เช่น ลิเก ลำตัด นักกีฬา นักมวย ซึ่งจะต้องดูว่าได้รับการช่วยเหลือจากการลงทะเบียนหรือยัง ถ้ายังกระทรวงการคลังพร้อมจ่ายเพิ่มให้ส่วนกลุ่มเก็บตกที่จะไม่ได้รับการช่วยเหลือคือ กลุ่มข้าราชการบำนาญได้รับเงินจากรัฐ ขายของออนไลน์ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงกลุ่มผู้ที่ไม่ประกอบอาชีพและนักศึกษาจบใหม่ เพราะขณะนี้มีตำแหน่งรองรับกว่า 1 แสนตำแหน่ง อยากให้ไปทำงานมากกว่า
โดยสามารถตรวจสอบสถานะการรับเงินเยียวยาเราไม่ทิ้งกันได้ ดังนี้
1. เช็กสถานะเราไม่ทิ้งกัน ได้ที่เว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com
2. กดที่คำว่า “ตรวจสอบสถานะ”
3. ระบบจะเข้าสู่หน้า “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน มาตรการเยียวยาฯ” ให้กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
โดยข้อมูลที่ต้องใช้ในการตรวจสอบสถานะ มีดังนี้
- หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- หมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้ลงทะเบียน
- วัน เดือน ปีเกิด
4. จากนั้นระบบจะแจ้งว่าขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในขั้นตอนใด
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถตรวจสอบสถานะได้
ผลการเช็กสิทธิ์เราไม่ทิ้งกันแต่ละสถานะ มีความหมายดังต่อไปนี้
1. อยู่ระหว่างการตรวจสอบหากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า “อยู่ระหว่างการตรวจสอบ” ความหมายคือ อยู่ในกระบวนการคัดกรอง
2. อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่าน
หากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า “อยู่ระหว่างปรับปรุงสถานะการลงทะเบียนของท่าน (ไม่สามารถยกเลิกการลงทะเบียนได้)” ความหมายคือ ได้รับสิทธิ์ รอการโอนเงิน
3. ไม่สามารถทำรายการต่อได้
หากเข้าตรวจสอบสถานะเราไม่ทิ้งกัน และได้รับข้อความว่า “ไม่สามารถทำรายการต่อได้ (ลงทะเบียนไม่สำเร็จ เนื่องจากข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง)” ความหมายคือ ข้อมูลบัตรประชาชนไม่ถูกต้อง