ขนมจีบมรณะ หลายคนอาจจะสงสัยกับการผาดหัวข่าวแบบนี้ แต่นี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วครับที่ อำเภอ บางเสาธง จังหวัด สมุทรปราการ โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยได้มีแม่ค้าคนหนึ่งขับรถมอเตอร์ไซค์ หาบขายเร่ขนมจีบ ไปตามพื้นที่ต่างๆของอำเภอ บางเสาธง หลังจากนั้นในช่วงค่ำผู้ที่ซื้อและกินขนมจีบได้เริ่มมีอาการ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และ วิงเวียนศรีษะ จนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลกันจำนวนกว่า 20 คน
รายที่หนักสุดเห็นจะเป็นคุณป้า ธนู ช้างภู่พะงางาม อายุ 66 ปี ที่มีอาการมากกว่าคนอื่นจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยป้าธนู มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ม.10 ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยป้าธนู ได้ทานขนมจีบพร้อมกับสามีนั้นก็คือ ลุงประเสริฐ
โดยหลังจากได้ทานขนมจีบพอตกดึกทั้งลุงและป้าก็มีอาการ คลื่นไส้ และ อาเจียนอย่างหนักจนลูกสาวต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอได้ทำการตรวจก่อนวินิจฉัยว่าเกิดจากอาการ “อาหารเป็นพิษ” ก่อนที่จะปล่อยให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน
แต่เมื่อถึงบ้าน อาการของคุณป้ากลับทรุดหนัก จนในที่สุดก็ช็อคและสิ้นใจในที่สุด แพทย์ลงความเห็นการเสียชีวิตว่า เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว ก่อนที่จะมีการนำศพของป้าธนู ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองปรือ
จนกระทั่งวันที่ 10 ได้มีชายสูงวัยเข้ามาที่ศาลาบริเวณมี่ไว้ศพ พร้อมทั้งระบุว่าตนคือ พ่อของแม่ค้าหาบเร่ดังกล่าว และได้ทำการขอโทษแทนลูกสาว โดยบอกว่าลูกสาวมีอาชีพหาบเร่ขายของ โดย ขนมจีบมรณะ เจ้าปัญหานั้น ลูกสาวได้รับต่อมาจากร้านค้าอีกที
ก่อนที่ชายที่อ้างว่าเป็นพ่อของแม่ค้า จะเข้าไปเคารพศพของ ป้าธนู แต่ก็ยังไม่วายสร้างความขุ่นเคืองใจให้กับผู้เป็นลูกสาวอีกครั้ง เมื่อชายคนดังกล่าว ทำการจุดธูปเคารพศพก่อนที่จะนำธูปปักหัวลงไปในกระถางธูป
หลังจากนั้นลูกสาวของคุณป้า นางสาว อรุณี อ้นเจริญ ได้ทำการรวบรวมหลักฐานเข้าไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บางเสาธง ในวันที่ 12 พ.ค. 63 โดยได้มีการร้องขอให้มีการสอบสวนและนำตัวแม่ค้ามาเพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคมว่าต้นเหตุของการเสียชีวิตของ มารดา เกิดจากอะไรกันแน่ พร้อมกันนั้นได้แจ้งว่าจะมาเข้าแจ้งความอีกครั้งหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของป้าธนู ผู้เป็นแม่
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2563 เวลา 16.00น. ได้มีการจัดพิธีฌาปนกิจศพ ป้าธนู ที่วัดหนองปรือ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมี นายพยนต์ เอี่ยมสะอาด นายก อบต.ศีรษะจรเข้น้อย เป็นประธานประชุมเพลิง
ในวันเดียวกันนั้น ได้มีผู้เสียหายอีกรายเข้าแจ้งความที่ สภ.บางเสาธง ทราบชื่อ นางสุนีย์ พาสุนันท์ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 ม.1 ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยมาพร้อมครอบครัว
ป้าสุนีย์ นำเอาหลักฐาน และ ใบรับรองแพทย์ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ธราวุธ ไชยสาร สว.สอบสวน สภ.บางเสาธง
โดยป้าสุนีย์ ให้การว่า ตนได้ทำการซื้อขนมจีบมาจากแม่ค้าหาบเร่ บริเวณบ่อผักกระเฉดของตน ใน อ.บางเสาธง วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 เวลาประมาณ บ่ายโมง โดยซื้อในราคากล่องละ 10 บาท จำนวน 3 กล่อง จากนั้นได้นำกลับบ้านมาให้ลูกหลานกินด้วย ก่อนที่คืนนั้นจะมีอาการท้องเสีย และ อาเจียน จึงได้ให้ลูกพาตัวส่งโรงพยาบาล
ป้าสุนีย์กล่าวว่า ขนมจีบที่ทานไปนั้นตนยังไม่สามารถบอกได้ว่า เป็นไก่ หรือ หมู แต่ที่รู้คือ ขนมจีบดังกล่าวมีส่วนผสมบางอย่างที่คล้ายกับแห้ว เพราะเวลาที่เคี้ยวนั้นจะมีความกรุบ อีกทั้งตัวของขนมจีบไม่ได้มีรสชาติผิดปกติ แต่พอทานแล้วกับมีอาการ อาหารเป็นพิษ
หลังจากเข้าไปทำการรักษาที่ โรงพยาบาลสิรินธร แพทย์ได้ให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ก่อนที่อาการจะทรุดอีกรอบ ลูกจึงได้พาส่งโรงพยาบาล จุฬารัตน์3 อีกครั้ง แพทย์จึงรับตัวไว้รักษาที่โรงพยาบาล โดยพักรกษาตัวเป็นเวลากว่า 5 วัน จนอาการดีขึ้นจึงได้เข้าแจ้งความ
ด้านผู้เชี่ยวชาญที่ได้ตรวจสอบขนมจีบ และ น้ำจิ้ม ได้พบว่าในขนมจีบมีเชื้อแบคทีเรีย ที่จะพบได้บ่อยบนอาหารที่มีการค้างคืน โดยเฉพาะ ขนมจีบ ซึ่งเสียง่ายอยู่แล้วยิ่งอันตราย คาดว่าขนมจีบที่นำมาขายน่าจะมีการค้างคืนก่อนนำมาขาย นอกจากนั้นในน้ำจิ้ม ยังพบสารที่เป็นอันตรายซึ่งอาจก่อให้เกิดมะเร็งอีกด้วย
ด้านของ แม่ค้า รายดังกล่าว ยังไม่มีการเข้ามอบตัว แม้ทางตำรวจจะมีการออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ครั้ง ก่อนที่จะเข้ามอบตัวในเวลาต่อมา ทราบชื่อ นางสาวมิ้น (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี โดยให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า รับขนมจีบดังกล่าวมาจากแหล่งผลิตจที่ ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา
ทางตำรวจจึงได้มีการเข้าตรวจสอบที่บ้านที่เป็นที่ผลิต ขนมจีบ ดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.เกาะไร่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งติดกับ จ.สมุทรปราการ เจ้าของบ้านทราบชื่อ นางสุวรรณี รูปโลก อายุ 55 ปี ซึ่งให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนมีอาชีพทำ ขนมจีบไก่มากว่า 7 ปีแล้ว และทำสดใหม่ทุกวัน ส่วนน้ำจิ้มก็มีเพียง ซีอิ๊ว น้ำตาล เกลือ ไม่ได้มีสารอันตรายอย่างเป็นข่าว
ด้าน นพ.กสิวัฒน์ ศรีประดิษฐ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นำ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา จะเดินทางไปยังบ้านที่ผลิตขนมจีบดังกล่าว เพื่อเก็บตัวอย่าง และสอบถามถึงกระบวนการผลิต นำมาตรวจสอบก่อนชี้แจงให้รับทราบต่อไป ส่วนในด้านทางคดีความนั้นต้องรอความชัดเจนจากผลตรวจในห้องแล็บก่อน จึงจะสามารถแจ้งความในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ โดยตอนนี้ต้องรอผลตรวจจากจังหวัดสมุทรปราการว่าเป็นเช่นไรแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน จึงจะมีความชัดเจนในสาเหตุที่ทำให้มีคนป่วยและเสียชีวิต.