“ผ้าปาเต๊ะ” เป็นวัฒนธรรมร่วมของผู้คนในคาบสมุทรมลายูและถือเป็นอัตลักษณ์การแต่งกายของวัฒนธรรมเพอรานากัน ทั้งสาวบาบ๋าและสาวภูเก็ตทั่วไปนิยมนุ่งผ้าปาเต๊ะมาตั้งแต่อดีตวันนี้เราทีมงาน KetySmile จะมาบอกความเป็นมาของผ้าปาเต๊ะเป็นยังไงบ้าง ( KetySmile เราเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย ชุดเดรสผ้าไทย ชุดเดรสทำงาน เดรสผ้าไทย ชุดเดรสแฟชั่น งานตัดเย็บจากช่างฝีมืออาชีพ)
คำว่า ปาเต๊ะ หรือ บาติก (Batik) เดิมเป็นคำในภาษาชวาใช้เรียกผ้าที่มีลวดลายที่เป็นจุด คำว่า “ ติก ” มีความหมายว่า เล็กน้อย หรือจุดเล็ก ๆ ผ้าปาเต๊ะ จึงหมายถึงผ้าที่มีลวดลายเป็นจุด ๆ ด่าง ๆ ซึ่งมาจากกรรมวิธีวิธีการทำผ้าปาเต๊ะที่จะใช้เทียนปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสีและใช้วิธีการแต้ม ระบาย หรือ ย้อม ในส่วนที่ต้องการให้ติดสี ผ้าบาติกบางชิ้น อาจจะผ่านขั้นตอนการปิดเทียน แต้มสี ระบายสี และ ย้อมสี ในผืนเดียวกัน
ลวดลายของผ้าปาเต๊ะจะเป็นรูปที่มีต้นแบบมาจากธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ ดอกไม้ หรือรูปเลขาคณิตต่าง ๆ สำหรับผ้าปาเต๊ะในวัฒนธรรมเพอรานกัน จะนิยมรูปสัญลักษณ์มงคลตามคติจีน เช่น รูปดอกท้อ ดอกโบตั๋น พัด ลายหงส์ หรือ นกฟินิกส์ ถือเป็นการผสมผสานทางวัฒนธรรมความเป็นมลายูและจีน
ผ้าปาเต๊ะที่ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมของสาวบาบ๋า ภูเก็ต มาตั้งแต่อดีต มีด้วยกัน 3 ประเภท คือ
1. ผ้าปาเต๊ะลาส้อม (Lasem Style) เป็นผ้าปาเต๊ะที่ผลิตในชวา ประเทศอินโดนีเซีย นิยมเป็นสีนำตาล และสีส้มอิฐ ลวดลายส่วนใหญ่เป็นลายขวาง รูปดอกไม้ และสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลา นก
2. ผ้าปาเต๊ะเมืองไทร เป็นผ้าปาเต๊ะที่ไม่มีท้าย เขียนลวดลายดอกทั้งผืน มีสามสีด้วยกัน คือ สีดำ สีขาวนำเงิน และสีขาวเขียว
3. ผ้าพัน คือ ผ้าปาเต๊ะที่มีความยาวกว่าผ้าปาเต๊ะปกติ วิธีการนุ่งคือจะใช้พันรอบตัว ลวดลายที่นิยมรูปดอกไม้ รูปสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลา นก
ผ้าปาเต๊ะทั้ง 3 แบบ เป็นที่นิยมและมีราคาสูง เพราะด้วยเป็นผ้าที่นิ่มมือ ไม่ลอกง่าย มีลวดลาย - สี เป็นเอกลักษณ์และมีกลิ่นหอมซึ่งเป็นคุณสมบัติหนึ่งของผ้าปาเต๊ะที่ดี
ปัจจุบันการนุ่งผ้าปาเต๊ะมีการพัฒนาไปตามยุคสมัยและเทคโนโลยี โดยหากย้อนไปในอดีตการนุ่งผ้าปาเต๊ะที่ถูกต้อง ต้องนุ่งเอาส่วนที่เรียกว่า “ท้ายผ้า” ให้อยู่ทางสะโพกด้านซ้าย หลายคนอาจสงสัยว่าท้ายผ้าอยู่ตรงไหนละ? ส่วนท้ายผ้าจะมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยมที่มี สี – ลวดลายแตกต่างจากส่วนที่เป็นพื้น คาดผืนผ้าจากบนลงล่าง
การนุ่งโดยการเอาส่วนของท้ายผ้าอยู่ทางสะโพกด้านซ้าย ถือเป็นทริคสำหรับการนุ่งผ้าปาเต๊ะให้ถูกต้องตามแบบโบราณและเป็นลูกเล่นของการนุ่งผ้าปาเต๊ะที่เมื่อมองจากทั้ง 2 ด้านที่มี สี - ลวดลายต่างกัน จะเหมือนกับว่าผู้สวมใส่นุ่งผ้าปาเต๊ะคนละผืนกัน
ปัจจุบันผ้าปาเต๊ะ มีหลากหลายรูปแบบ ย่านถนนถลางใจกลางเมืองเก่าภูเก็ต เป็นแหล่งรวมผ้าปาเต๊ะนานาชนิดให้เลือกสรรเป็นเจ้าของ ถ้ามีโอกาสมาเยือนภูเก็ตอย่าลืมลองหาผ้าปาเต๊ะสักผืนถ่ายภาพกับย่านเมืองเก่าอวดเพื่อน ๆ ในโลกออนไลน์ หรือถ้าที่บ้านใครมีผ้าปาเต๊ะผืนเก่าของอาม่า อาอี้ ก็สามารถนำมาลองสวมตามทริคที่เรานำเสนอกันได้นะครับ
โพสต์โดย : KetySmile เมื่อ 12 พ.ย. 2563 11:52:02 น. อ่าน 141 ตอบ 0