ในช่วงหลังโดยที่ มิได้มีการสลับตัว แล้วก็ไปสู่นาทีที่ 50 โฮเซ่ ฆิเมเนซ จอมบุกเจ้าถิ่น ก็มาโดนใบเหลืองจาก จังหวะทำฟาวล์ กาเบรียล เชซุส ในเวลาที่ บราซิล กำลังเล่นเกมสวนกลับเร็ว
อุรุกวัยทำเปลี่ยนตัว ในนาทีที่ 61 โดยที่ เมาโร อารัมบาร์ปรี่ ถูกส่งลงไปแทน ลูกัส โคนร์เรยร่า และก็ ไบรอัน โรดริเกซ ได้ลงไปแทน โรดริโก้ เบนตันฉันร์
อุรุกวัยดันมาเหลือผู้เล่น 10 คน ในนาทีที่ 70 ภายหลังที่ผู้ตัดสินไปเช็ค วีเออาร์ จังหวะที่ เอดินสัน คาวานี่ ไปเหยียบใส่ ริชาร์ลิชอน แล้วตกลงใจ กลับมายกเลิกใบเหลือง ที่ให้ในตอนแรกกลายเป็น ใบแดงให้แก่ หัวหอก แมน ยูไนเต็ด ในทันที
ถัดจากนั้น 4 นาที มาร์ติน กาเซเรซ แนวรับของเจ้าถิ่น จ่ายบอลเข้าประตู จากจังหวะลูกเตะมุม แต่เจ้าตัวไปยืนอยู่ ในตำแหน่งล้ำหน้าซะก่อน ทำให้พลาดได้ประตูตีไข่แตก
ไปสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บ อุรุกวัย อุตสาหะจะทำแต้ม ตีไข่แตกไล่ขึ้นมา แต่ว่าก็ยังไม่ผ่านแนวรับของ บราซิล หมดเวลาการแข่งขันชิงชัย ทัพแซมบ้า บุกเอาชนะ อุรุกวัย2-0 เก็บเพิ่มเติม 3 แต้ม รั้งเป็นจ่าฝูง แข่งขัน 4 นัด มี 12 คะแนน ในช่วงเวลาที่ แข่งขันไป 4 นัด ชนะ 2 แพ้ 2 มี 6 คะแนน
สำหรับเกมนัด ถัดไปของ บราซิล จะออกไปบุก โคลอมเบีย ในวันที่ 26 มี.ค. ส่วน อุรุกวัย จะออกศึกหนักเยือนถิ่น ฟ้า ขาว อาร์เจนติน่า ในวันเดียวกัน
โพสต์โดย : Poppy2536 เมื่อ 19 พ.ย. 2563 11:35:55 น. อ่าน 139 ตอบ 0