เจ้าบ้าน – ลิเวอร์พูล อันนี้ขอเรียกลิเวอร์พูลว่าเจ้าบ้านเพราะชื่อขึ้นก่อน เจ้าหงส์แดงฤดูกาบที่ผ่านมาถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ได้มา 2 ถ้วยนั่นคือรายการบอลถ้วยในลีค น่าเสียดายที่บอลถ้วยยุโรปพ่ายแพ้ให้กับความอย่างแชมป์ยุโรปตัวจริงอย่าง เรอัล มาดริด ส่วนในลีคก็โดนแมนซิตี้สร้างปาฎิหาร์ยไปอีกยิงแซงลูกทีมของสตีวี่ จี 3 ลูกรวด แต่แม้จะพลาดแชมป์ไป ยังไงสะลูกทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ก็ถือว่าทำได้อย่างเต็มที่ การเสริมทัพใหม่เข้ามาในปีนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ ไม่ใช่แค่ในรายของ ดาร์วิน นูนเนซ ยังมีคาลวัลโญ่ ที่ดูลีลาละมาดละม้ายคล้ายคลึงตัวรุกเก่าอย่างคูตี้สะเหลือเกิน ถือว่าเป็นการเสริม 2 จุดที่น่าสนใจสำหรับเฮีย ในรายของคัลวิน แรมซีย์นั้นยังคงเป็นอะไหล่สำรองให้กับเทรนท์ไปยาวๆก่อน ส่วนอีกคนที่ทำผลงานในปรีซีซั่นได้ดีคือ เอเลียต ซึ่งดูแล้วปีนี้จะเป็นจุดที่น่าจับตามองเลยทีเดียว อีกทั้งสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปในปีนี้คือเกมส์รุกของลิเวอร์พูล เพราะเจอร์เก้า คล็อปป์จะปรับมาใช้แผนศูนย์หน้าแท้ๆ ไม่ใช่ false 9 อีกต่อไป ซึ่งเอาเข้าจริงๆคล็อปป์ใช้แผนนี้ตั้งแต่คุมกับดอร์ตมุนด์ ซึ่งตอนนั้นมีเลวานดอฟสกี้ เป็นศูนย์หน้า เพราะฉะนั้นเฮียมองว่าแฟนบอลหลายคนที่เอาใจช่วย นูนเนซ ไม่น่าจะต้องกังวลอะไร เพราะคล็อปป์มีวิธีจัดการอยู่แล้ว ดังนั้นการแข่งวันนี้เราจะได้ดูอะไรที่แปลกใหม่จากมุมของลิเวอร์พูลอย่างแน่นอน และเฮียเชื่อว่าสามารถต่อกรกับซิตี้ชุดนี้ได้สนุก

ทีมเยือน – แมนซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีครายล่าสุด สำหรับสายตาเฮียนะ ซิตี้ ชุดนี้คือชุดที่ดีที่สุด ตั้งแต่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมบังเหียนเลยก็ว่าได้ การอุดมไปด้วยนักเตะที่สามารถทดแทนกันได้อย่างดี เสริมแดนกลางถึง 2 คน คนแรก คาลวิน ฟิลลิปป์ เข้ามาแทน เฟอร์นันนินโญ่ที่ออกไป อีกคนคือ ยาแกล เฮอร์เรล่า และเสริมอีก 2 กองหน้า ซึ่งเป็นหน้าเป้าอย่าง ฮาแลนด์และยอดดาวรุงอย่างอัลวาเรซ ถึงว่าน่าสนใจ ขณะที่ย้ายออกไปอย่าง ราฮีม และ เจซุส แม้จะเป็นตัวสำคัญก็จริงแต่ก็ยังเป็นนักเตะที่หมุนเวียนอยู่ดี สิ่งที่น่าสนใจไม่ต่างจากลิเวอร์พูล ที่แมนซิตี้ก็จะเปลี่ยนมาใช้ระบบหน้าเป้าเช่นกัน มันเปรียบเสมือนการวัดกันของยอดดาวรุ่งทั้งสองคนสะด้วย แต่ส่วนตัวยกให้ฮาแลนด์เหนือกว่านะครับ เพราะพิสูจน์มาแล้วในเวทีบุนเดสลีกาซึ่งยังไงสะมาตรฐานก็สูงกว่าลีคโปรตุเกสอยู่แล้ว ฮาแลนด์ถูกยกให้เป็นเต็งหนุ่งดาวซัลโวเลยนะครับ แล้วยิ่งมาอยู่ในมือของกุนซือผู้อินดี้ อย่างเป๊ปซี่ กวาร์ดิโอล่านั้นต้องบอกว่าช่างเป็นคู่แท้ที่เหมาะสมสะเหลือเกิน ปีนี้แผนการเล่นของแมนซิตี้ก็จะมีวิธีการเข้าทำที่มากอาวุธมากขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน การเข้าจังหวะทำประตูจะคมกว่าเดิม เพราะมีหน้าแท้มืออาชีพ และหากดูเหมส์การแข่งขันในวันนี้เฮียเชื่อว่าซิตี้ จะคุมจังหวะได้ดีกว่าหงส์แดงแน่นอน บดขยี้เหมือนตอนเล่นเจอบาเยิร์น นัดเจอบาเยิร์นนี่เสือใต้โงหัวไม่ขึ้นสะเท่าไหร่เลย วันนี้คงเข้าอีหรอบเดียวกัน เพีบงแต่การจะเอาชนะลิเวอร์พูลซึ่งรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้วนั้น ต่องบอกว่ามันไม่ง่ายเลย และเฮียยังมองว่าผลเสมอดูจะสูงกว่าทุกมุมอยู่ดี ดังนั้นจบเกมส์เสมอ แต่เอนเตอร์เทนคนดูยิงกันสลุตสุสะเด่าอย่างแน่นอน

11 Players –

Liverpool (4-3-3) – Allison – Trent Arnold – Robertson – van Dijk – Konate – Henderson – Fabinho – Thiago – Salah – Diaz – Jota

Man City (4-3-3) – Ederson – Walker – Cancelo – Dias – Laporte – Rodri – Bernardo Silva – De Bruyne – Mahler – Foden – Haaland

Missing Players – สภาพพร้อมทั้งสองทีม