โซดาซ่า ดูบอล
Menu
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย

‘เงินร้อน กับ เงินเย็น’ คืออะไร ทำไมได้ยินบ่อยจัง?

หลายคนคงเคยได้ยินคำศัพท์ทางการเงินเรื่องนี้กันมาบ่อยๆ ใช่มั้ยครับ กับคำว่า ‘เงินร้อน’ และ ‘เงินเย็น’ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีคนจำนวนมากไม่เข้าใจในความหมายของมันจริงๆ สักเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี้เพื่อไขความกระจ่างให้กับน้องๆ ทุกคนได้ทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กัน พี่แอดมินจะพาไปดูเองครับว่า เงินร้อน กับ เงินเย็น ที่ผู้ใหญ่เขาพูดๆ กันมันคืออะไร และเงินส่วนไหนนะที่ควรค่าแก่การไปลงทุน

เงินร้อน คืออะไร

เงินร้อนก็คือ เงินที่จับแล้วมือพอง. #ตึ่งโป๊ะ #ผ่ามมม จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงล่ะครับ! เงินร้อนคือ เงินที่เราได้มาแล้วเราก็ต้องจ่ายไปในเวลาอันรวดเร็วนั่นเองครับ ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ เช่น เงินที่ต้องนำมาชำระหนี้สินต่างๆ สมมุติเงินเดือนออก แล้วเรามีหนี้ที่ค้างเพื่อนอยู่ เราก็ต้องเอาเงินไปใช้หนี้นั้นซะก่อน ซึ่งเงินตรงนี้แหละครับที่เรียกว่าเงินร้อน เพราะมันอยู่กับเราได้ไม่นานเดี๋ยวก็ไป…

เงินเย็น คืออะไร

สำหรับเงินเย็นก็คือ สกุลเงินของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง...ไม่ใช่! เงินเย็นคือ เงินเก็บที่เราเอาวางไว้เฉยๆ ไม่มีเหตุจำเป็น หรือไม่มีแผนให้ต้องหยิบมาใช้ เช่น เงินเก็บของเรานั่นเอง ซึ่งเงินเย็นนั้นจะแตกต่างกับเงินเก็บยามฉุกเฉินนะครับ เพราะเงินเก็บยามฉุกเฉินคือ เงินที่เราสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ ซึ่งเท่ากับว่าเรามีแผนที่จะใช้มันอยู่ดี แต่เงินเย็นคือ เงินที่ไม่ต้องใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นนั่นเอง

เงินแบบไหนควรค่าแก่การนำมาลงทุนมากกว่ากัน?

สำหรับการลงทุนเพื่อไปต่อยอดเงินนั้น ควรใช้เงินเย็นมาลงทุนมากกว่าครับ ห้ามใช้เงินร้อนเด็ดขาด เพราะเงินเย็นนั้นจะได้เปรียบในเรื่องของระยะยาว เนื่องจากเราไม่มีแผนว่าจะใช้เงินส่วนนี้ในการทำอะไรทั้งสิ้น ทำให้เราสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในอนาคต

การลงทุนในหลายๆครั้ง เราไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้นะครับว่าเราจะได้ทุน หรือกำไรตอบแทนกลับมาเมื่อไหร่ ซึ่งถ้านำเงินร้อนมาใช้ แล้วปรากฏว่าต้องจ่ายหนี้ที่ค้างไว้ แต่เงินลงทุนยังไม่ได้คืนกลับมา เท่ากับว่าเราขาดสภาพคล่องไปในทันที ต้องกู้หนี้ยืมสินคนอื่นเพิ่มเติม กลายเป็นงูกินหางวนกันไปแบบนี้นี่แหละ

เพราะฉะนั้ คนไหนที่คิดจะลงทุนทั้งที ก็ต้องมีความใจเย็นๆ กันนิดนึงนะครับ เคลียร์หนี้เคลียร์สินให้หมดเสียก่อนแล้วค่อยตัดสินใจลงทุน หรือถ้ามีหนี้จริง ก็แบ่งเงินร้อนไว้ส่วนหนึ่ง เงินเย็นไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อจะได้สามารถชำระหนี้ได้ครบถ้วน พร้อมทำการลงทุนต่อยอดเงินไปพร้อมๆ กันได้เลย

โพสต์โดย : POPCORN POPCORN เมื่อ 21 ต.ค. 2566 05:45:12 น. อ่าน 145 ตอบ 0

facebook