MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
รวมทริค! ซักผ้ายังไงให้หอม ติดทน
1. ไม่ควรซักผ้าในปริมาณที่มากไป
หลาย ๆ คนอาจจะมีอาการขี้เกียจ กอง ๆ ผ้าไว้เยอะ ๆ แล้วค่อยมาซักพร้อมกันทีเดียว นี่เป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก! เพราะวิธีการซักผ้าให้หอมนั้น ต้องซักในปริมาณผ้าที่พอดี ไม่มากเกินไป เพราะหากเราซักในปริมาณที่มาก การกระจายตัวของน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มจะทำงานได้ไม่ทั่วถึง คราบสกปรกและกลิ่นเหม็นในบางจุดอาจจะไม่ถูกขจัดอยากเต็มที่ ปริมาณที่เหมาะสมต่อการซักใน 1 ครั้ง คือ ไม่เกินครึ่งถังซัก
2. แยกผ้าก่อนซัก
วิธีนี้เป็นวิธีที่หลาย ๆ คนทำกันอยู่แล้วนั่นคือ การแยกผ้าก่อนซัก ไม่ว่าจะแยกระหว่างกางเกง เสื้อ ชุดชั้นใน ผ้าสี ผ้าขาว วิธีนี้นอกจากสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังจะช่วยทำให้ผ้าหอมขึ้นได้ด้วย เพราะเสื้อผ้าในแต่ละส่วนมีจุดที่สกปรกต่างกัน หากนำมาซักปนกันจะทำให้คราบสกปรกและกลิ่นจากเสื้อผ้าส่วนที่สกปรกกว่ามาปนเปื้อนอีกส่วน และส่งต่อกลิ่นไม่พึงประสงค์มาได้
3. ใช้น้ำร้อนในการแช่-ซัก
น้ำร้อนจะช่วยทำให้เสื้อผ้าไม่เกิดคราบผงซักฟอก เพราะน้ำร้อนจะช่วยละลายผงซักฟอกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังกำจัดไรฝุ่น ขนแมว และแบคทีเรีย ที่ติดอยู่ตามเสื้อเราด้วย และหากเสื้อมีคราบเปื้อน น้ำร้อนก็เป็นอีกตัวช่วยที่จะทำให้คราบหลุดออกได้อย่างง่ายดายแบบไม่ต้องขยี้ และด้วยความที่ช่วยกำจัดสิ่งสกปรกได้ดี ก็จะทำให้ผ้ามีกลิ่นหอม สะอาด ไร้กลิ่นอับชื้นได้เช่นกัน โดยวิธีที่แนะนำคือ นำผ้ามาแช่กับน้ำร้อนก่อนซักเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปซักแบบปกติ หรือจะซักด้วยน้ำร้อนก็ได้เช่นกัน แต่ระวังด้วยนะ หากนำไปซักเสื้อที่บางอาจจะทำให้เสื้อหดเล็กลงได้
4. ใช้ผงซักฟอก-น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น
ผลิตภัณฑ์ผงซักฟอกและปรับผ้านุ่มจะมีสูตรพิเศษที่แตกต่างกันออกไป สำหรับผงซักฟอกขอแนะนำสูตรเข้มข้นที่ลดกลิ่นอับและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จะทำให้ผ้าเราหอมสะอาด ไม่มีกลิ่นอับชื้นมากวนใจ และใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มในกลิ่นที่เราชอบ จะยิ่งช่วยให้ผ้าหอม ยิ่งใส่ยิ่งแฮปปี้!
5. เมื่อซักเสร็จให้รีบตาก
อีกหนึ่งวิธีที่ควรทำเพื่อรักษาให้ผ้าหอมยาวนานนั่นคือ หลังจากเราซักผ้าหรือปั่นแห้งเสร็จแล้ว ควรรีบนำเสื้อผ้าออกมาตากให้ไวที่สุด เพราะหากหมักหมมในเครื่องซักผ้านานเกินไปจะเสี่ยงทำให้ผ้าเกิดกลิ่นเหม็นอับชื้นได้ หากผ้าเหม็นอับอาจทำให้ต้องเสียเวลาซักใหม่อีกรอบได้
6. ไม่ตากผ้ากลางแดด
การตากผ้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หลายบ้านมีความเชื่อผิด ๆ ว่าต้องตากผ้ากลางแดดจัดจะทำให้ผ้าหอมและกำจัดแบคทีเรียได้ดี แนะนำว่าอย่าทำเด็ดขาด! เพราะนอกจากจะทำลายเนื้อผ้า สีของผ้าก็จะหมองลง อีกทั้งยังติดกลิ่นแดดมาด้วยอีกต่างหาก แม้ว่าจะแช่น้ำยาปรับผ้านุ่มหอมแค่ไหน กลิ่นก็จะไม่ติดทน วิธีที่ดีที่จะช่วยรักษาเสื้อผ้าและทำให้กลิ่นหอมติดทนคือการตากในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี มีลมพัดผ่าน เว้นระยะห่างการตากเสื้อให้พอดี ไม่นำไปตากในจุดอับ เพราะจะทำให้เสื้อไม่แห้งแถมมีกลิ่นอับติดมา เท่านี้ก็ได้เสื้อผ้าหอมฉุยเหมือนร้านซักรีดมาเองแล้ว!
7. ฉีดผ้าด้วยสเปรย์ผ้าหอม
เมื่อผ้าแห้งแล้ว ก่อนเข้าตู้ก็อาจจะฉีดสเปรย์ผ้าหอมลงบนเสื้อก่อนเก็บ หรือขณะรีดผ้า เพื่อคงความหอมไว้ ซึ่งในปัจจุบันมีหลากหลายยี่ห้อหลากหลายกลิ่นให้เลือกซื้อ ซึ่งนอกจากจะนำมาฉีดผ้าให้หอมแล้ว ยังสามารถฉีดลดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าได้อีกด้วย
8. หมั่นทำความสะอาดถังซัก
หนึ่งสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง แต่หลายคนอาจละเลยคือการทำความสะอาดถังซักผ้า เพราะการที่เรานำเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว ที่สะสมไปด้วยสิ่งสกปรก ลงไปซักในเครื่องซักผ้า ถังซักผ้าก็จะเป็นเครื่องกักเก็บความสกปรกเหล่านั้นต่ออีกที และจะถูกส่งต่อในเสื้อผ้าในการซักครั้งถัดไป ดังนั้นเราจะต้องทำความสะอาดถังซักอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยทุก ๆ 3 เดือน วิธีการทำสะอาดก็มีหลากหลายวิธี เช่น ใช้น้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา หรือผงทำความสะอาด เทลงไปผสมกับน้ำในถังซัก จากนั้นก็ซักและถ่ายน้ำทิ้งตามปกติ เท่านี้เครื่องซักผ้าของเราก็จะสะอาด การซักในครั้งต่อ ๆ ไปก็จะทำให้ผ้าหอมมากยิ่งขึ้น
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : POPCORN
เมื่อ 30 ต.ค. 2566 04:22:52 น. อ่าน 147 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์