เพราะคำว่า “รวย” ของแต่ละคนต่างกัน! ไม่เคยมีคำบัญญัติหรือคำนิยามใด ๆ กล่าวไว้ว่า คนรวยจะต้องเป็นยังไง ต้องมีเงินทองมากน้อยแค่ไหน หลายคนพยายามหาคำตอบให้ตัวเองว่าทำยังไงถึงจะรวย ทำยังไงถึงจะมีอย่างคนอื่นเขา จนไม่ทันได้คิดว่า บางทีคุณอาจจะ “รวย” แล้วก็ได้ แต่อยู่ที่ว่ารวยอะไร ทรัพย์สิน เงินทอง เกียรติยศ สุขภาพ หรือความสุข? ซึ่ง 7 ข้อต่อไปนี้ จะบอกคุณได้ว่า คุณอาจเป็นคนรวยแต่ยังไม่รู้ตัวหรือเปล่า? เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่คนรวยทุกคนมักมี!
เพราะแค่มีเงินอาจไม่พอให้สำหรับการเป็นคนที่ร่ำรวย ได้เท่ากับการเป็นคน “ใช้เงินเป็น” รู้ว่าควรใช้จ่ายอย่างไร แม้จะอยากช้อปแค่ไหน แต่ก็สามารถจัดสรรและบริหารการเงินได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่สามารถเก็บเงินที่หามาได้ส่วนหนึ่งเป็นเงินออมได้ ก็แสดงว่าคุณอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและเป็นคนรวยได้เหมือนกัน
การใช้ชีวิตให้อยู่ภายใต้รายได้ที่มี ถือเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของการบริหารจัดการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ ถ้าวันนี้คุณรู้สึกว่า คุณก็สามารถใช้ชีวิต กินข้าว ชอปปิงบ้าง หรือออกไปเที่ยวบ้างได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อน หรือมีปัญหาการเงินอะไร นั่นแปลว่า คุณรวยแล้ว
ถ้าวันนี้คุณสามารถออกไปซื้อเรือยอทช์ด้วยเงินสดได้ คนส่วนใหญ่คงเห็นด้วยว่าคุณรวย แต่ถ้าคุณสามารถซื้อเรือยอทช์ลำเดียวกันได้ในอีก 5 ปีข้างหน้าหลังจากตั้งเป้าหมายการออมและเก็บเงินให้ได้ตามเป้า คุณคิดว่า ตัวเองจะยังรวยอยู่ไหม? แน่นอนว่ายังไงคำตอบก็คือ “รวย” เพราะมันไม่สำคัญเลยว่าคุณสามารถซื้อของที่คุณอยากได้เมื่อไร ตอนไหน แต่สำคัญคือ คุณสามารถซื้อมันได้ต่างหาก! หรือแม้แต่ชีวิตประจำวัน เพียงแค่คุณสามารถซื้อข้าว ซื้อกระเป๋า ซื้อเสื้อผ้าที่คุณอยากได้ คุณก็คือคนมีเงินคนนึงเลยนะ
การเกษียณอายุ “มีราคาแพง” ยิ่งถ้าคุณไม่อยากลำบาก อยากใช้ชีวิตสุขสบายไม่ต้องทำงานเมื่อถึงวัยนั้น คุณอาจต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะเมื่อถึงช่วงเวลานั้นจริง ๆ จากที่เคยมีรายได้สูง คุณอาจเหลือรายได้เพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่มีเลย ดังนั้น การวางแผนชีวิตเผื่ออนาคตข้างหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าจะวางแผนว่าคุณจะเกษียณตอนไหน ต้องมีเงินเท่าไร ต้องหาเงินให้ได้เท่าไร มีบ้านหลังขนาดไหน และจะมีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง หากคุณสามารถเกษียณได้ตามที่ต้องการ ก็ถือว่าคุณประสบความสำเร็จที่จะเป็นคนรวยแล้ว
ถูกอย่างที่หลายคนบอกว่า “เงินซื้อความสุขได้” แต่ก็ถูกอีกเช่นกันที่บางคนบอกว่า “เงิน ซื้อความสุขไม่ได้” เพราะความสุขของแต่ละคนต่างกัน บางคนมีความสุขที่ได้ใช้เงินซื้อสิ่งที่ชอบ แต่บางคนก็มีความสุขแค่ได้ทำสิ่งที่ชอบ อย่างมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเอง รวมถึงบรรดาผู้ที่ศึกษาเรื่องเหล่านี้ กล่าวว่า “คนรวย” มักจะมุ่งความสนใจไปที่สิ่งอื่นที่ไม่ใช่ “เงิน” พวกเขาสนใจกับการแก้ปัญหาหรือทำตามความปรารถนาที่ต้องการ โดยไม่ได้สนใจว่าท้ายที่สุดแล้ว ได้เงินหรือไม่ได้เงิน แต่เขาสนใจเพียงว่า เขาได้ทำอย่างดีที่สุดและเต็มที่ที่สุดแล้วหรือยัง? หากคุณสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่เงินได้ ก็แสดงว่าคุณอยู่ในที่ที่ดีและมีชีวิตที่ดีแล้ว
เรามักถูกสอนว่าเงินหายาก แต่รู้อะไรไหม? หาเงินว่ายากแล้ว แต่การเก็บเงินให้อยู่นั้นยากกว่า หากคุณต้องการมีเงินมากขึ้น อาจต้องหยุดมองว่ามันเป็นศัตรู ที่นอกจากจะหายากแล้ว ยังทำให้คุณลำบากต้องหามาให้ได้ แต่จงคิดว่ามันเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะส่งเสริมให้ชีวิตคุณดีขึ้น
เพราะเหตุผลที่คนรวยมีรายได้มากขึ้น คือ พวกเขาไม่กลัวที่จะยอมรับว่าเงินสามารถแก้ปัญหาส่วนใหญ่ได้ ผิดกับคนชนชั้นกลาง ต้องหาเช้ากินค่ำ ที่มองว่า เงินเป็นสิ่งชั่วร้าย เป็นสิ่งที่จำเป็น และทำให้ชีวิตคุณต้องทำงานหาเงินอย่างไม่รู้จบ ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่กลัวเงิน และมองว่ายิ่งหามาได้มันยิ่งทำให้คุณบรรลุสิ่งที่ต้องการในชีวิตได้ คุณมาถูกทางแล้ว!
ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะบริหารการเงิน และสามารถควบคุมให้อยู่ในกรอบที่คุณตีเส้นไว้ได้ จะทำให้คุณไม่ต้องพบเจอกับคำว่า “ขัดสน” การอยู่ในจุดที่ดีทางการเงินสามารถเปิดประตูหรือเส้นทางที่ดีในชีวิตได้มากมายตามที่ต้องการ กลับกันแต่ถ้าคุณอยู่ในจุดที่ไม่ดี มันก็สามารถทำร้ายคุณได้เหมือนกัน!
ดังนั้น ถ้าวันนี้คุณสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ขัดสน มีเงินใช้ตลอด นั่นแปลว่า ชีวิตคุณสมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว
อย่างไรก็ตาม จาก 7 ข้อข้างต้น อาจสรุปได้ว่า ความรวยที่ทุกคนต้องการ อาจไม่ใช่แค่ “เงิน” เสมอไป เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า คำว่ารวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคน ๆ นั้น ตั้งเป้าหมายหรือเงื่อนไขอะไรกับตัวเอง ไม่ว่าวันนี้คุณจะรวยหรือไม่รวยก็คงไม่สำคัญเท่า คุณพอใจในสิ่งที่มีปัจจุบันหรือไม่? ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้านราคาสิบล้าน มีธุรกิจมูลค่าร้อยล้าน หรืออยู่บ้านไม้เก่า ๆ ทำอาชีพหาเช้ากินค่ำ แต่ถ้าคุณพอใจและมีความสุขที่มีชีวิตแบบนั้น ก็ถือว่าคุณรวยในแบบของคุณแล้ว
.gif "g2g")
เมื่อ 14 พ.ย. 2566 16:34:47 น. อ่าน 146 ตอบ
0
