MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
5 วิธีแก้ง่วงอันแสนทรมาน แบบฉบับวัยทำงาน
5 วิธีแก้ง่วงอันแสนทรมาน แบบฉบับวัยทำงาน
1. นอนหลับตอนกลางคืนให้เต็มอิ่ม
ลองคิดดูซิว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราเข้านอนกันตอนกี่โมง แล้วตื่นกี่โมง ถ้าเวลานอนของคุณน้อยกว่า 7-8 ชั่วโมงติดต่อกันหลายวันล่ะก็ ไม่แปลกเลยที่คุณจะมาง่วง วิธีแก้ไขก็ไม่ยากเย็นอะไรเลยล่ะ แค่ต่อจากนี้ไป เราต้องเข้านอนให้เร็วขึ้น อย่างปกตินอน 5 ทุ่ม ก็เขยิบมานอนสัก 4 ทุ่ม ให้ร่างกายได้พักผ่อนเต็มที่ แต่ถ้าใครมีอาการนอนไม่หลับ หรือหลับยาก อันเป็นสาเหตุทำให้ตัวเองนอนไม่พอ อาจจะลองทานนมอุ่น ๆ กล้วย หรือน้ำผึ้งมาทานก่อนนอน จะช่วยให้หลับสบายขึ้น หรือจะหาน้ำมันหอมระเหยอย่างลาเวนเดอร์ มาดมดู จะช่วยคลายความเครียด ทำให้เราหลับได้ง่ายขึ้นเหมือนกัน
2. ออกไปสัมผัสแสงแดดยามเช้า
รู้ไหมว่าแสงแดดตอนเช้า ๆ ก่อน 9 โมง จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในกล้ามเนื้อของคุณไปสู่สมองมากขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกตื่น และสดชื่นต่อเนื่องตลอดทั้งวันนั่นเอง ว่าแล้วพรุ่งนี้ก็ตื่นให้เร็วขึ้นสักหน่อย แล้วออกไปสัมผัสแสงแดดกันดีกว่า ตกบ่ายจะได้ไม่ง่วงเหงาหาวนอน หรือมีอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นไงล่ะ
3. จิบน้ำระหว่างวัน เมื่อนึกถึง "น้ำ"
เราจะนึกถึงความสดชื่นมาเป็นอันดับแรก เพราะฉะนั้น "น้ำ" ก็เป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการแก้ง่วงได้เหมือนกัน อย่างที่มีคำแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเลย และต้องดื่มแบบจิบ ๆ ตลอดทั้งวัน เพราะการที่ร่างกายได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น ชาร์จพลังงานในตัวให้เพิ่มขึ้นด้วย ที่สำคัญคือ น้ำที่ดื่มควรเป็นน้ำอุ่นอุณหภูมิห้องด้วยนะ เพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ในระบบไหลเวียนมาเลี้ยงเลือดได้ทันที จะช่วยเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าได้ดี
4. เลี่ยงคาร์โบไฮเดรตหนัก ๆ ในมื้อเที่ยง
ถ้ามื้อเที่ยงที่ผ่านมา เราจัดหนักจัดเต็มกับอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล ก็อาจทำให้ช่วงบ่าย ๆ มีอาการง่วงซึมได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะการทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ ที่หนักแป้ง หนักน้ำตาล จะทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกระเพาะอาหารมากขึ้น เพื่อเร่งย่อยอาหารในปริมาณมากให้แล้วเสร็จ ทีนี้ก็จะทำให้เลือดที่ไหลไปเลี้ยงสมองมีน้อยลง หรือไหลเวียนช้าลง ทำให้เราง่วงซึม เฉื่อยชา หลังจากทานอาหารแล้วนั่นเอง
5. บอกลาของหวาน
หลายคนคิดว่า ถ้าง่วงก็กินซะสิ ให้ปากได้ขยับเคี้ยวของหวาน ๆ บ้างจะได้แก้ง่วงได้ จริง ๆ แล้วของหวานก็ช่วยทำให้เรากระชุ่มกระชวยได้อยู่หรอก แต่แค่แป๊ปเดียวเท่านั้นเอง เพราะเมื่อเราทานของหวานซึ่งเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดเร่งด่วน จะไปทำให้ตับอ่อนต้องหลั่งอินซูลินออกมามากขึ้น ทีนี้น้ำตาลในเลือดเราก็จะสูงขึ้นไปด้วย ส่งผลให้เราเกิดความรู้สึกง่วงนอนตามมา เพราะฉะนั้น บอกลาของหวานเลย ถ้าไม่อยากหลับทีหลัง
6. ฝึกลมหายใจ
ถ้าไม่รู้จะแก้ง่วงอย่างไรดี งั้นลองมาฝึกลมหายใจปลุกตัวเองให้กระฉับกระเฉงขึ้นก็แล้วกัน เริ่มจากนั่งหลับตา พยายามหายใจเข้าออกถี่ ๆ ทางจมูก ถ้าทำได้สักวินาทีละ 3 รอบก็จะดีมาก แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็เอาเท่าที่ไหวค่ะ ทำไปจนกระทั่งเรารู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ฐานต้นคอ เหนือกระดูกไหปลาร้า และที่กระบังลมเกิดการเคลื่อนไหวตาม ลองทำแบบนี้ติดต่อกันสัก 15 วินาที แล้วกลับมาหายใจแบบปกติ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ จนถึง 1 นาที วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานมากขึ้น ทำให้เรารู้สึกมีพลัง ตื่นตัว แก้ง่วงได้ดีนักแลเลยละค่ะ
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : ใบเฟิร์น
เมื่อ 7 ธ.ค. 2566 05:13:47 น. อ่าน 150 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์