MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวแรง
ปัญหาเรื่องกลิ่นตัวแรง
กลิ่นตัวเกิดขึ้นจากกลิ่นของสารที่ถูกสร้างจากต่อมไขมัน และกลิ่นของโปรตีนเคอราตินที่อยู่บนผิวหนังที่ถูกย่อยสลายโดยเชื้อแบคทีเรีย และกลิ่นของอาหารที่เรารับประทานเข้าไป เช่น กระเทียม เครื่องเทศ ที่ถูกขับออกมาทางต่อมเหงื่อธรรมดา
ซึ่งเหงื่อออกรักแร้มากๆเข้า ก็จะทำให้เราเสียบุคลิกภาพ ไม่ว่าจะเป็นการมีกลิ่นเหม็น หรือเสื้อบริเวณรักแร้เปียก จึงเป็นปัญหาที่หลายคนแก้ไม่ตก จนทำให้เสียความมั่นใจไปทันที
สาเหตุหลักในการเกิดปัญหากลิ่นตัว
1. แบคทีเรียประจำถิ่นบริเวณรักแร้
จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากความร้อนและความชื้นของอากาศ
2. การสร้างเหงื่อจากต่อมเหงื่อชนิดอะโพครายน์
ผู้ที่มีกลิ่นตัวจะมีต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังขนาดใหญ่และมีจำนวนมากต่อมเหงื่อนี้ยังถูกกระตุ้นได้ด้วยฮอร์โมนเพศชาย Androgrn
ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดกลิ่นตัว
1. อาหารรสจัด เช่น แกงกะหรี่ แกงเผ็ดต่างๆ
ที่มีส่วนผสมของขมิ้น กระเทียม และเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง เมื่อผ่านการย่อยจะเกิดแก๊สซัลเฟอร์ปนอยู่กับออกซิเจนในเลือดที่ไปอยู่ตามรูขุมขน หากทานอาหารรสจัดทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาโดยเฉพาะใต้วงแขน
2. โรคอ้วน
คนอ้วนมักมีกลิ่นตัวแรงกว่าคนที่ผอมกว่า เพราะคนอ้วนมีโอกาสที่อวัยวะภายนอกมีส่วนอับชื้น สร้างกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตามรักแร้ ชั้นพุง ขาหนีบ มากกว่าคนผอม และต่อมเหงื่อยังผลิตเหงื่อมากกว่าคนที่ผอมอีกด้วย
3. โรคเบาหวาน
ในกรณีโรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการรักษา ร่างกายจะเริ่มขับไขมันเพื่อใช้เป็นพลังงานส่งผลให้ระดับคีโตน (Ketone) ในร่างกายสูงขึ้น หลังจากนั้นสิ่งที่สะสมไว้ก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นตัว
4. ยาบางชนิด
ยาสามารถรักษาโรคได้แต่ก็สามารถทำให้มีกลิ่นได้ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มอร์ฟีน หรือยาลดไข้ ที่สามารถทำให้เหงื่อออกจนเกิดกลิ่นตัวขึ้นได้
5. ความเครียด
เหงื่อที่ออกตามปกติจะมีกลิ่นน้อยกว่าเหงื่อที่ออกจากความเครียด ต่อมเหงื่อชนิดนี้เรียกว่า ต่อมอะโพไครน์ (Apocrine glands) ของเหลวจากต่อมนี้มีน้ำน้อยกว่า แต่ดึงดูดแบคทีเรียได้สูงกว่า ทำให้เกิดกลิ่นได้มากกว่า
สามารถลดกลิ่นตัวได้อย่างไรบ้าง
1. รักษาสุขภาพอนามัย
ล้างบริเวณรักแร้บ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดจะลดปริมาณสารก่อกลิ่น การล้างด้วยสบู่ฆ่าเชื้อจะช่วยลดปริมาณแบคทีเรียได้แต่ไม่ควรล้างบ่อยเพราะอาจะเกิดการระคายเคือง
2. หลีกเลี่ยงภาวะที่ร้อนจัด
ภาวะอับชื้น การใช้ยาระงับกลิ่นกลาย (deodorants) จะมีส่วนประกอบสารต่างๆ เช่น สารลดเหงื่อ สารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สารลดกลิ่นที่สร้างขึ้น และน้ำหอมจะช่วยลดกลิ่นตัวได้
3. การใช้ยาระงับเหงื่อ
(antiperspirants) ส่วนมากจะมีส่วนประกอบของโลหะ เช่น อลูมิเนียมคลอไรด์ ( aluminium chloride) ซึ่งจะไปอุดท่อต่อมเหงื่อ ลดการหลั่งเหงื่อ ทำให้ผิวแห้งแบคทีเรียเติบโตได้ไม่ดี สามารถช่วยลดกลิ่นตัวได้
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : minnie
เมื่อ 24 ธ.ค. 2566 05:18:05 น. อ่าน 147 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์