ดูแลด้วย “รัก”
เพราะขนที่ยาวของแมวเปอร์เซียจำเป็นต้องได้รับการดูแลและแปรงให้เรียบอย่างน้อย วันละ ครั้ง โดยเฉพาะในส่วนที่ที่แมวไม่สามารถเลียถึง อาทิ ที่คอ ขา
การอาบน้ำให้อาบ อย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการทำความสะอาดร่างกายแมวไม่ให้ ผิวหนังเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค
แมวเปอร์เซียส่วนใหญ่มี คราบน้ำตาติดบริเวณขนตา ดังนั้นต้องเช็คคราบน้ำตาออกอย่าให้แห้งเกรอะกรัง ควรทำความสะอาดโดยการใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลดวงตาเช็ดรอบดวงตาให้แมว จึงเป็นสิ่งสำคัญ
คุณควรแบ่งเวลาดูแมวเปอร์เซีย เพราะหากไม่เล่นกับเขาเลย แมวจะรู้สึกน้อยใจ ดังนั้นเวลา แมวอ้อนหรือคลอเคลีย ก็ควรหันไปเล่นกับแมวบ้าง เป็นการบำรุงใจซึ่งกันและกัน
ดูแลด้วย “รู้”
โรคประจำสายพันธ์ของแมวเปอร์เซีย คือ โรคถุงน้ำในเนื้อไต โรคทางเดินปัสสาวะและนิ่ว โรคจอประสาทเสื่อม และโรคหัวใจ
-โรคถุงน้ำในเนื้อไต และ โรคทางเดินปัสสาวะและนิ่ว สังเกตจากพฤติกรรมการปัสสาวะผิดปกติ ปัสสาวะบ่อย หรือเข้ากระบะทรายนาน อาจมีอาการเบื่ออาหาร ซึม น้ำหนักลด กินน้ำเยอะจนผิดสังเกตได้
- โรคจอประสาทตาเสื่อม สังเกตการณ์เดิน การยืนและการสัมผัส ที่ผิดปกติ
- โรคหัวใจ สังเกต การหายใจ อาการหอบเหนื่อย
หากมีความผิดปกติควรรีบพามาปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที
การแปรงฟันเป็นสุขอนามัยในช่องปากการ ที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากเกิดการติดเชื้อในช่องปาก อาจนำมาซึ่งโรค สารพัด และทำให้แมวของคุณอายุสั้นลงได้อีกหลายปี
เมื่อแมวของคุณไม่สามารถทำความสะอาดหูด้วยตัวเองได้ เจ้าของอย่างคุณจึงจำเป็นต้องเป็นคนคอยจัดการดูแลให้มันอยู่เสมอ ด้วยการใช้กระดาษทิชชู่ หรือผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดให้มัน ทั้งนี้ หูของแมวนั้นเป็นส่วนที่อ่อนไหวมาก คุณจึงควรพยายามทำความสะอาดให้เบามือที่สุด และใช้เวลาให้น้อยที่สุดด้วย
เพราะความอ้วนเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพน้องแมวได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจ และเลือกชนิดและปริมาณอาหารที่เหมาะสมให้น้องแมว
เนื่องจาก แมวเปอร์เซียเป็นแมวขนยาว จึงมีการผลัดขนร่วงตามธรรมชาติจำนวนมาก เจ้าของอาจจำเป็นต้องเข้าใจ และหมั่นแปรงขนน้องแมว และ ดูแลเก็บกวาดบ่อยๆ อย่าได้หงุดหงิดรำคาญ
.gif "g2g")
