เมื่อพูดถึงเอนิเมชั่นเรื่อง Up หรือชื่อไทยว่า ปู่ซ่าบ้าพลัง ดิฉันเชื่อแน่ว่าเรื่องนี้เป็นเอนิเมชั่นในดวงใจของใครหลาย ๆ คน รวมถึงดิฉันด้วย โดย Up พูดถึงมิสเตอร์เฟรดริกเซน ชายสูงวัยที่คนรักจากไป ที่พยายามเริ่มต้นใหม่ด้วยการออกผจญภัยตามความฝันในวัยเด็ก ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ Disney+ ได้ออกเอนิเมชั่นขนาดสั้น ประมาณ 8 นาที เรื่อง Dug Day : Carl’s Date โดยได้เล่าเรื่องของมิสเตอร์เฟรดริกเซน ที่เมื่อกลับมาถึงบ้าน มีชีวิตใหม่ ในบ้านหลังใหม่กับเจ้าดั๊ก หมาช่างพูดของเขา และที่สำคัญที่สุด คือ เขาตัดสินใจที่จะเริ่มความสัมพันธ์กับหญิงคนใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดต่อ “แอลลี่” คนรักผู้จากไป จนดั๊กเตือนสติว่า “คุณต้องใช้ชีวิตต่อไป” มิสเตอร์เฟรดริกเซนถึงได้ลองเริ่มต้นใหม่แบบกล้า ๆ กลัว ๆ
ซึ่งประเด็นเรื่องความรู้สึกผิดที่จะเริ่มต้นใหม่เมื่อคนรักจากไปนั้น ถือเป็นปมที่ภาพยนตร์และซีรี่ย์หลายเรื่องนำมาใช้ในการเดินเรื่อง เช่น บ้านเช่าบูชายัญ แฮปปี้เบิร์ธเดย์ Memento เป็นต้น และยังเป็นเรื่องยากในชีวิตจริงของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่สูญเสียคู่ชีวิตที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนาน หรือพ่อ แม่ ที่สูญเสียลูก จนนำไปสู่ภาวะภาวะซึมเศร้าจากการสูญเสีย ซึ่งศัพท์ทางจิตวิทยาเรียกว่า “ความเศร้าโศกเสียใจที่เกิดจากการสูญเสียและการตาย (Grief and Bereavement)” โดยอาการสำคัญ คือ รู้สึกผิดต่อคนรักผู้จากไป เกิดความคิดว่าควรเป็นตนที่ตายแทน คิดว่าตนไม่มีคุณค่าที่จะมีชีวิตต่อ มีการเคลื่อนไหวและความคิดช้าอย่างเห็นได้ชัด (marked psychomotor retardation) เสียความสามารถทางสังคม และหากยังคงมีความเศร้าต่อเนื่องยาวนานอาจทำให้มีอาการประสาทหลอน ยังเห็นคนรักอยู่ใกล้ ๆ
โดยตำราจิตวิทยา กล่าวว่า เมื่อคนรักจากไป เราเกิดภาวะ 5 ขั้น ดังนี้
ขั้นที่ 1 ภาวะต่อต้านความจริง (Shock and Denial)
เมื่อเราสูญเสียคนรักใหม่ ๆ ทุกคนย่อมทำใจไม่ได้ และปฏิเสธเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่อยากเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เกิดความรู้สึกสับสน ในภาวะนี้นี่เองที่เราจะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างมาก เช่น เซื่องซึม ก้าวร้าว เหม่อลอย อยู่ไม่สุข
ขั้นที่ 2 ระเบิดความโกรธ (Anger)
หลังจากผ่านสภาวะช็อก หรือต่อต้านความจริงมาแล้ว อารมณ์แรกสุดที่คนเราแสดงออกมาจากเมื่อเราสูญเสียคนที่เรารัก คือ โกรธ โดยคนที่เรามักจะไประเบิดความโกรธใส่มากที่สุด ก็คือ ตัวเราเองค่ะ ในภาวะเช่นนี้ คนเรามักโทษตัวเองว่า “ถ้าวันนั้นฉันไม่ทำแบบนั้น คนรักของฉันก็ยังคงมีชีวิตอยู่” หรือโทษว่าสาเหตุที่คนรักจากไปก็เพราะตัวเอง
ขั้นที่ 3 การต่อรอง (Bargaining)
เป็นขั้นที่จิตใจเราเริ่มยอมรับความจริงได้บ้างแล้วว่า มีความสูญเสียเกิดขึ้น แต่ก็ยังซื้อเวลาที่จะได้อยู่กับคนรัก เพื่อให้ความรู้สึกผิดในใจเบาบางลง เช่น ตั้งร่างของคนรักก่อนฌาปนกิจเป็นเวลานาน การแช่แข็งร่างด้วยความหวังว่าในอนาคตจะมีทางคืนชีพ เป็นต้น
ขั้นที่ 4 ภาวะเศร้าจากความเสียใจ (Depression)
เมื่อเรายื้อความรู้สึกสูญเสียมาจนสุดมือ และเห็นความจริงว่าไม่มีทางคืนชีพให้คนที่รักได้ ความเศร้า ความเสียใจจะถาโถมเข้ามาใส่ จนหลายคนเกินรับ แม้หลายคนจะแสดงออกภายนอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจก็ถูกกัดกร่อน และผุพังจากความเสียใจ
ขั้นที่ 5 ยอมรับความจริง (Acceptance)
กว่าที่เราจะเดินทางมาถึงขั้นนี้ จิตใจเราก็บอบช้ำ และร่างกายก็เหน็ดเหนื่อยกับการร้องไห้และเสียใจ จนเมื่อระยะเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง เราก็จะเริ่มทำใจยอมรับความจริง และปรับตัว เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตใหม่ให้ปกติสุขที่สุด
ความโศกเศร้าจากความสูญเสียเป็นความรู้สึกหนักหน้าที่ยากจะก้าวข้าม ยิ่งถ้าเราต้องการที่จะเริ่มต้นใหม่ เรายิ่งเกิดความรู้สึกผิดต่อคนรักที่จากไป ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยา ได้ให้ข้อแนะนำเกี่ยวกับการก้าวข้ามความรู้สึกผิดเพื่อเริ่มต้นใหม่เมื่อคนรักจากไป ไว้ 5 ข้อ ดังนี้ค่ะ
โพสต์โดย : เจ้าหนู เมื่อ 3 ม.ค. 2567 07:24:05 น. อ่าน 146 ตอบ 0