MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
กลิ่นตัวแรงเกิดจากอะไร
กลิ่นตัวแรง
ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนจะต้องมีการพบปะกับผู้คนหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ในสถานที่ชุมชน บนรถเมล์ ฯลฯ สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจจะวิตกคือเรื่อง “กลิ่นตัว” เพราะเกรงว่าตัวเองจะส่งกลิ่นไปรบกวนผู้อื่น มีปัญหาว่าหากใช้เครื่องสำอางระงับกลิ่นที่ขายกันทั่วไป จะเป็นอันตรายหรือเปล่า ต่อไปนี้คือ คำตอบจากคำถามเหล่านั้นค่ะ
กลิ่นตัวเกิดจากอะไร
กลิ่นตัวเกิดจากเหงื่อของคนเราออกมาผสมกับเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่บนผิวหนัง ทำให้เกิดการบูดเน่าของเหงื่อ จึงมีกลิ่นเกิดขึ้น ได้มีนักวิทยาศาสตร์เคยทดลองเอาเหงื่อมาสกัดเอาเชื้อจุลินทรีย์ออก แล้วตั้งทิ้งไว้ในที่ปลอดเชื้อประมาณ 24 ชั่วโมง พบว่าเหงื่อนั้นไม่มีกลิ่นเหม็นหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรจากเดิมเลย ในทางตรงกันข้าม เมื่อนำเหงื่อมาสกัดเอาเชื้อจุลินทรีย์ออกแล้วตั้งทิ้งไว้ในที่โล่งแจ้งประมาณ 24 ชั่วโมง ปรากฏว่า เหงื่อนั้นเกิดกลิ่นเหม็นขึ้น จึงทำให้สรุปได้ว่า เชื้อจุลินทรีย์เป็นตัวที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นขึ้น
ปัจจัยที่ทำให้มีกลิ่นตัว
ในบางคนก็มีกลิ่นตัวแรง แต่บางคนก็ไม่มี ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ดังนี้
1. เชื้อชาติ
เช่น ชาวยุโรป ชาวอินเดีย พวกนี้จะมีกลิ่นตัวแรงกว่าชาวเอเชีย หรือคนผิวดำจะมีกลิ่นตัวแรงกว่าคนผิวขาว เป็นต้น
2. การรักษาอนามัยส่วนบุคคล
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศด้วย คนที่อยู่ในเขตหนาวโอกาสที่เขาจะอาบน้ำชำระร่างกายก็จะน้อยกว่าคนในเขตร้อน เขาจึงมีกลิ่นตัวมากกว่า หรือคนที่อ้วนมากๆ มีโอกาสที่เหงื่อจะออกง่ายและออกมาก ทำให้คนอ้วนมักจะมีกลิ่นตัวมากกว่าคนผอม นักกีฬาที่ไม่ชอบอาบน้ำ เหงื่อจะออกมาหมักหมมกับเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้มีกลิ่นตัวแรง
3. อาหารที่เรากิน
ถ้าเป็นอาหารประเภทเครื่องเทศ หัวหอม กระเทียม พวกนี้มีสารระเหยผสมอยู่ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง อาหารประเภทไขมัน นม เนย มีกรดไขมันสูง เมื่อกินเข้าไปสารระเหยในอาหารเหล่านี้มักจะปะปนออกมากับเหงื่อ ทำให้เกิดกลิ่นได้
4. ภาวะของร่างกายและจิตใจ
โรคบางชนิดเป็นบ่อเกิดของสารชนิดหนึ่ง ที่จะทำให้มีกลิ่นปะปนออกมากับเหงื่อ อารมณ์เครียดเกินไปก็จะเป็นผลให้ต่อมเหงื่อขับเหงื่อออกมาเพิ่มขึ้น อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อได้ง่าย
กลิ่นกายกับกลิ่นตัว
ต่อมเหงื่อของคนเรามี 2 ชนิด คือ ต่อมเหงื่อทั่วไปตามร่างกาย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 ล้านต่อม ซึ่งทำให้เกิดเหงื่อขึ้นเป็นผลให้มีกลิ่นตัวตามมาดังได้กล่าวไปแล้ว ต่อมเหงื่อที่อยู่บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า จะผลิตเหงื่อออกมาได้ง่ายเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น เวลาที่เราตื่นเต้นหรือตกใจ ส่วนต่อมเหงื่อที่อยู่ตามลำตัวจะถูกกระตุ้นออกมาได้ง่ายเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง เช่น ในเวลาที่อากาศร้อน ต่อมอีกชนิดหนึ่ง คือ “ต่อมกลิ่น” ทำหน้าที่ขจัดของเหลว สีขาวขุ่น และมีกลิ่นออกมา เรียกว่า “กลิ่นกาย”
ปกติทุกคนจะมีกลิ่นกายเป็นกลิ่นประจำตัวของแต่ละบุคคลซึ่งจะไม่เหมือนกัน ในทำนองเดียวกับที่แต่ละคนมีเสียง หรือลายมือที่แตกต่างกันออกไป กลิ่นนี้เป็นกลิ่นอ่อนๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นกลิ่นที่จะดึงดูดต่อเพศตรงกันข้าม ความรุนแรงของกลิ่นก็แล้วแต่บุคคล ตำแหน่ง สภาวะ และกรรมพันธุ์ของแต่ละคน
การขจัดกลิ่นตัว
ถ้าเราทราบว่าเราเป็นคนที่มีกลิ่นตัวแรง ก็จะต้องรักษาอนามัยส่วนตัว คือ หมั่นอาบน้ำเมื่อออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ ระวังเรื่องอาหารที่กิน คนที่อ้วนเหงื่อออกมากก็จะต้องหมั่นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นอกจากนั้นก็ใช้พวกเครื่องสำอางที่จะลดปริมาณเหงื่อให้ลดน้อยลง
เครื่องสำอางระงับกลิ่นตัว
เครื่องสำอางพวกนี้จะมีส่วนประกอบของสารที่ระงับเหงื่อและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ อันเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดกลิ่น เครื่องสำอางพวกนี้จะมีประสิทธิภาพในการลดเหงื่อได้ประมาณร้อยละ 20 คณะกรรมการอาหารและยาจึงอนุญาตให้จำหน่ายได้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระงับกลิ่นตัวมีจำหน่ายในท้องตลาด มีทั้งแบบที่เป็นครีม โลชั่น ลูกกลิ้ง ชนิดแท่ง ผง สเปรย์ รวมทั้งชนิดที่เป็นน้ำยาใสๆ อีกด้วย
การออกฤทธิ์ของเครื่องสำอางเหล่านี้ ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายคลึงกันโดยมีองค์ประกอบ คือ ตัวยาที่เป็นเกลือของอะลูมิเนียม ทำหน้าที่ในการระงับเหงื่อ โดยการไปอุดที่ต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อออกสู่ผิวหนังไม่ได้ ต่อมเหงื่อก็จะหยุดผลิตเหงื่อเอง และเนื่องจากสารดังกล่าวมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อจับกับแอมโมเนียหรือสารระเหยที่ทำให้เกิดกลิ่นตัว ทำให้สารนั้นระเหยไม่ได้เป็นผลให้กลิ่นไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ตัวสารที่เป็นเกลืออะลูมิเนียมยังมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์บางชนิด จึงนับได้ว่าผลิตภัณฑ์ประเภทระงับเหงื่อระงับกลิ่นกายที่มีขายในท้องตลาดมีประสิทธิภาพพอสมควร
อันตรายของเครื่องสำอางระงับกลิ่นตัว
ร่างกายของคนเราขับเหงื่อออกมาเป็นปกติของธรรมชาติ ถ้าเราไปใช้ยาระงับมิให้ร่างกายขับเหงื่อออกมา นับว่าเป็นวิธีการต่อต้านระบบธรรมชาติของเรา จะทำให้ระบบควบคุมอุณหภูมิการทำงานในร่างกายของคนเราเสียไป แต่จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์พบว่า การใช้ยาระงับเหงื่อเฉพาะที่ โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ที่แม้ว่าเราจำเป็นต้องใช้ทุกวันตลอดไป ก็ยังไม่พบว่าจะเกิดอันตรายใดๆ
น้ำหอมระงับกลิ่นตัว
การใช้น้ำหอมระงับกลิ่นตัวหรือที่เรารู้จักกันทั่วไปในรูปของดีโอดอร์แรนด์ (deodorant) ซึ่งอาจเป็นในรูปของน้ำหอมที่ตั้งไว้ในรถยนต์หรือในห้องน้ำให้กลิ่นที่สดชื่นระเหยออกมาเอง รวมถึงการผสมน้ำหอมชนิดนี้มาทาใต้รักแร้เพื่อระงับกลิ่นด้วย
น้ำหอมนี้อาจจะมีกลิ่นที่สดชื่นกลบกลิ่นตัวเราได้ แต่เมื่อนำหอมระเหยออกไปแล้ว กลิ่นตัว กลิ่นคราบเหงื่อไคลก็ยังอยู่ บางครั้งเมื่อน้ำหอมผสมกับกลิ่นเหงื่อก็อาจจะเกิดกลิ่นฉุนขึ้นมาอีกกลิ่นหนึ่งได้ น้ำหอมชนิดนี้จึงไม่ควรนำมาใช้ระงับกลิ่นตัว
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : minnie
เมื่อ 7 ม.ค. 2567 14:39:11 น. อ่าน 146 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์