เริ่มต้นคันแรกด้วยแบรนด์จากเกาะอังกฤษ ที่ได้ประกาศยืนยันแล้วว่า จะมีการเปิดตัวรถสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งรุ่นใหม่ ที่กำลังจะเป็นผลิตภัณฑ์เดียวของไลน์อัพบริษัท ที่มาพร้อมกับรูปแบบนี้ ภายใต้ชื่อ Triumph Daytona 660 หลังจากผ่านประสบกราณ์การเป็นซัพพลายเออร์เครื่องยนต์ให้การแข่งขันในระดับ Moto2 ก็ถึงคราวที่บริษัทจะพัฒนาโมเดลสู่การจำหน่ายจริงเสียที แม้ว่าจะน่าเสียดายที่ตัวรถจะยังคงใช้เครื่องยนต์ 3 ลูกสูบ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่เล็กที่สุดของค่ายเป็นตัวนำร่อง แต่ถ้าโมเดลนี้ได้กระแสตอบรับตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ การมาถึงของ Daytona 765 ที่ใช้เครื่องยนต์รูปแบบเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขัน น่าจะมาถึงในอนาคต
ยังคงอยู่กับค่ายจากแดนผู้ดี ประเทศอังกฤษ แต่ครั้งนี้ จะเป็นอีกไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ร่วมมือกับผู้ผลิตจากอินเดีย ในการพัฒนา ซึ่งสองโมเดลแรกอย่าง Speed 400 และ Scrambler 400 X ก็ประสบความสำเร็จทั้งในอินเดีย อังกฤษ และตลาดสากล รวมถึงประเทศไทย ด้วยมูลค่าตัวรถที่เข้าถึงได้ง่าย ความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้โมเดลในลำดับต่อไปของบริษัทเองถูกจับตามองเป็นพิเศษ และแน่นอนว่ากระแสข่าวที่ค่อนข้างมาแรงที่สุด ณ ตอนนี้ คือการจับเอาแนวทางที่ตัวเองถนัดที่สุด ในการนำเสนอรถมอเตอร์ไซค์ Cafe Racer ขนาดเล็กที่ได้รับกลิ่นอายของ Thruxton มาใช้เป็นองค์ประกอบ ก็ช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์อย่างมาก
ข้ามมายังผู้พัฒนาชาวอิตาเลี่ยน กับค่าย MV Agusta ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ที่หลายงานศิลปะประดับไว้บนยานพาหนะได้อย่างลงตัว และการมาถึงของรถต้นแบบ MV Agusta 921 S ก็สร้างความตื่นเต้นให้เราเป็นอย่างมาก และยิ่งตื่นเต้นหนักเข้าไปอีก เมื่อซีอีโอคนเก่งของบริษัทอย่าง Timur Sardarov ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าตัวรถจะมีการผลิตจำนวนมากในช่วงกลางปี 2024 นี้ มอเตอร์ไซค์คันนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก MV Agusta 750S ในยุค 1970 และมีจุดเด่นด้วยติดตั้งขุมกำลังแบบ 4 ลูกสูบเรียง 921 ซีซี 115 แรงม้า (bhp) ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ปัจจุบันของบริษัท และนี้แหละคือสิ่งที่ทำให้เราตื่นเต้นเป็นที่สุด
หลังจากการเปิดตัว 990 Duke เจเนอเรชั่นใหม่ ที่มาพร้อมกับขุมกำลังสองลูกสูบเรียง LC8c รุ่นใหม่ ดูเหมือนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีโมเดลคู่ขนานอย่าง 990 Adventure ที่ใช้งานพื้นฐานเครื่องยนต์รูปแบบเดียวกัน ระบบช่วยเหลือที่ใกล้เคียงกัน แต่จะแตกต่างกันในรูปแบบของการใช้งาน ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการใช้งานเชิงออฟโรด ซึ่งหลายๆ คนอาจจะคิดว่ามันก็ไปทับทางกับ 790 Adventure ที่เป็นรุ่นยอดนิยมอยู่ในตอนนี้น่ะสิ แต่เราคิดว่า มันต้องแตกต่าง และน่าจะมีไฮไลท์เด็ดๆ แอบซ้อนอยู่อย่างแน่นอน
แน่นอนว่า เมื่อ 990 Duke จะแตกไลน์ออกไปเป็น 790 Adventure การที่เราจะไม่เอ่ยถึง RC 990 ก็คงจะเป็นเรื่องแปลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนนี้ KTM มีบทบาทสำคัญในการแข่งขันระดับโลกอย่าง MotoGP แต่ในทางกลับกัน บริษัทกลับมีโมเดลสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่ง ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดแค่ 399 ซีซี ในแพลตฟอร์มปัจจุบัน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นอย่างมาก ดังนั้นการมาถึงของเครื่องยนต์ 947 ซีซี ใหม่นี้ น่าจะเป็นตัวจุดประกายให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งของบริษัทได้ ไม่มากก็น้อย
มาที่ฝั่งผู้ผลิตจากญี่ปุ่นกันบ้าง กับซุปเปอร์เนกเกต Honda CB1000 Hornet ที่เปิดตัวไปแล้วในงาน EICMA 2023 โดยจะเป็นโมเดลที่เข้ามาแทนที่ CB1000R Neo Sport Cafe โดยมีการปรับปรุงใหม่ทั้งในเรื่องของงานออกแบบ โครงสร้าง และระบบอิเล็กทรอนิกส์ ที่ถูกปรับใหม่ทั้งหมด และโมเดลนี้จะกลับมาช่วยสานตำนานของซีรี่ส์ Hornet ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เคียงข้างกับ CB750 Hornet ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา
อีกหนึ่งโมเดลที่เปิดตัวในงาน EICMA 2023 กับเจ้า Suzuki GSX-8R รุ่นสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งร่วมซีรี่ส์กับ GSX-8S และ V-Strom 800DE ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นแนวทางที่ทางบริษัทได้หยิบยกมาอย่างถูกที่ถูกเวลา แม้ว่าอาจจะชนกับเพื่อนร่วมชาติอย่าง Honda แต่การมาถึงของ GSX-8R จะสร้างความแตกต่างได้อย่างไม่ต้องสงสัย และมันจะกลายเป็นคู่ปรับตัวฉกาจของ Yamaha R7, Aprilia RS660, Honda CBR650R หรืออาจจะข่มขวัญโมเดลที่กำลังจะมาถึงอย่าง Triumph Daytona 660 อีกด้วย
เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ก็ยังไม่วางจำหน่ายสักที่ สำหรับ Ducati Hypermotard 698 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สูบเดียวเครื่องแรกของ Ducati ในรอบประมาณสองทศวรรษ และการกลับมาในครั้งนี้มาพร้อมกับรูปแบบของรถซุปเปอร์โมโต ที่เน้นแรงบิดสูงในรอบต่ำ และยังมาพร้อมกับพละกำลังที่น่าเหลือเชื่อ 82.5 แรงม้า (bhp) ซึ่งมีประสิทธิภาพเท่ากับ 1198 ตัวเก่าที่ถูกผ่าครึ่งอย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นได้ชัดว่ามันน่าสนใจมากๆ จนกลายเป็นอีกหนึ่งโมเดลจากผู้ผลิตอิตาเลี่ยนที่เราจับตามอง
แม้ว่าจะวางจำหน่าย Scram 411 มาแล้วราวปีกว่าๆ แต่เจ้ารถออฟโรด ที่ใช้พื้นฐานจาก Himalayan รุ่นเก่า ก็น่าจะได้ไปต่อ ด้วยการปรับปรุงของ Himalayan 450 ด้วยการมาถึงของตัวรถรุ่นใหม่นี้ ขุมกำลังใหม่ที่มีพละกำลังมากขึ้น น้ำหนักที่เบากว่าเดิม ระบบช่วงล่างที่ยืดหยุ่น ทำให้การควบคุมตัวรถทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงใหม่ในครั้งนี้น่าจะถูกส่งต่อไปยัง Scram 450 อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ตัวรถจะถูกปรับแต่งใหม่ให้เหมาะสมกับการขับขี่ในรูปแบบที่แตกต่างกัน และเป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภค ไม่มากก็น้อย
การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของ MT-09 ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ เมื่อไม่นานมานี้ การจะบอกว่าถึงคราวของ YZF-R9 นั้นดูจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่ และจากความสำเร็จของ YZF-R7 ที่ใช้พื้นฐานมาจาก MT-07 ก็น่าจะเป็นข้อสรุปได้ว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์สปอร์ตฟูลแฟร์ริ่งอย่าง R-Series เองยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และการขยายฐานไปยังกลุ่มเครื่องยนต์ที่แตกต่างออกไป มันจะเป็นอีกส่วนที่เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งาน และจะเป็นมาตรฐานใหม่ และการพัฒนาไปอีกระดับของอุตสาหกรรมยานยนต์ของญี่ปุ่น
โพสต์โดย : TK88 เมื่อ 30 ม.ค. 2567 21:19:47 น. อ่าน 147 ตอบ 0