MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
10 อาหารที่ทำให้ท้องเสีย
10 อาหารที่ทำให้ท้องเสีย
เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากท้องเสียกันเท่าไร เพราะเป็นแล้วก็ปวดมวนท้อง หรือวิ่งเข้าห้องน้ำกันจนเพลีย ทว่าแม้เราจะเลือกกินอาหารที่สด สะอาด ดูแล้วน่าจะปลอดภัย ก็อาจหนีไม่พ้นอาการท้องเสียไปได้ โดยเฉพาะถ้ากินอาหาร 10 ชนิดต่อไปนี้ ที่กระตุ้นอาการท้องเสียได้ในบางคน หรือหากท้องเสียอยู่แล้วมากินเข้าไปก็จะยิ่งถ่ายบ่อยขึ้นด้วย
1. อาหารไขมันสูง
ของทอดทั้งหลายหรืออาหารมัน ๆ เช่น ฟาสต์ฟู้ด ขาหมู ข้าวมันไก่ อาหารที่ใส่กะทิ วิปปิ้งครีม ครีมชีส หรือเบเกอรี่ เป็นอาหารที่อร่อยก็จริง แต่หากกินเข้าไปมาก ๆ ไขมันร้ายที่แฝงอยู่ในอาหารพวกนี้ก็อาจกระตุ้นอาการท้องเสียได้ เนื่องจากเป็นอาหารที่ร่างกายย่อยยาก และเมื่อเจ้าไขมันไม่ถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ ร่างกายก็จะพยายามขับออกมาไว ๆ ทำให้เราท้องเสียหลังกินเข้าไปไม่นาน
2. อาหารรสจัด
สายแซ่บที่ชอบกินอาหารรสเผ็ดจัดอาจต้องทรมานกับอาการท้องเสียด้วย เพราะพริกมีสารแคปไซซินที่มีฤทธิ์ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และยังมีงานวิจัยที่พบว่า นอกจากอาการท้องเสีย สารชนิดนี้ยังส่งผลให้เกิดอาการปวดแสบท้อง คลื่นไส้และอาเจียนได้ในบางคน โดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นชินกับอาหารรสเผ็ด แถมถ้าท้องเสียเพราะอาหารรสจัด เวลาถ่ายก็จะรู้สึกแสบร้อนที่รูทวารหนักจากความเผ็ดร้อนของแคปไซซิน และหากเราดื่มน้ำแก้เผ็ดเข้าไปมาก ๆ อุจจาระก็จะค่อนข้างเหลว ทำให้การขับถ่ายยิ่งคล่องตัวไปด้วย
3. อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
อาหารหรือเครื่องดื่มน้ำตาลสูงก็เป็นตัวการทำให้ท้องเสียได้เช่นกัน รวมไปถึงรสหวานจากน้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้ เช่น แอปเปิล หรือองุ่น ด้วยนะคะ เพราะน้ำตาลชนิดนี้มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ และลำไส้ไม่สามารถย่อยได้ เมื่อรับประทานเข้าไปมาก ๆ จึงอาจทำให้มีอาการท้องเสีย อีกทั้งการมีน้ำตาลเกินขนาดที่ร่างกายควรได้รับก็จะทำให้ร่างกายพยายามขับส่วนที่ไม่ได้ใช้ออกไป และน้ำตาลยังจะเข้าไปกระตุ้นให้สารน้ำเข้าสู่ลำไส้ ทำให้ลำไส้มีปริมาณน้ำมากขึ้น การขับถ่ายจึงคล่องตัวขึ้น ดังนั้นบางคนที่ดื่มน้ำหวานเป็นสิ่งแรกในตอนเช้า จึงอาจมีอาการถ่ายท้องอย่างเฉียบพลันนั่นเอง
4. สารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล
น้ำตาลเทียมหรือสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล เช่น แอสปาร์แตม, แซกคาริน, ซูคราโลส, แมนนิทอล, ซอร์บิทอล หรือไซลิทอล เป็นสารที่ร่างกายดูดซึมไม่ค่อยดี บางคนเมื่อกินเข้าไปจึงอาจตกค้างในลำไส้ ทำให้แบคทีเรียในลำไส้เพิ่มจำนวนขึ้นมาเพื่อพยายามย่อยอาหารชนิดนี้ ซึ่งกระบวนการย่อยดังกล่าวก็จะทำให้มีอาการท้องเสียได้
5. อาหารไฟเบอร์สูง
เรารู้กันดีว่าไฟเบอร์ช่วยในการขับถ่าย ดังนั้นหากรู้สึกว่าท้องไส้ไม่ค่อยจะดีก็อย่าเพิ่งกินอาหารไฟเบอร์สูงจะดีกว่า เพราะไฟเบอร์อาจไปจับตัวกับน้ำในลำไส้ และพากันเอาอาหารที่ตกค้างอยู่ในลำไส้เคลื่อนตัวออกมาสู่โลกกว้างได้ โดยเฉพาะผักตระกูลกะหล่ำและตระกูลผักกาด ที่มีน้ำตาลชนิดที่ลำไส้ไม่สามารถย่อยได้ อีกทั้งยังมีกำมะถัน ที่อาจทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด หากกินเข้าไปในปริมาณมากด้วย
6. ถั่ว
ถั่วจัดเป็นอาหารในกลุ่ม High FODMAPs ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตชนิดย่อยยากและน้ำตาลหลากหลายโมเลกุลในตัวเอง จึงอาจทำให้การทำงานของลำไส้แปรปรวนและก่อเกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย มีลม มีกรดแก๊สในกระเพาะได้ โดยเฉพาะหากกินถั่วปริมาณมาก ๆ
7. กลูเตน
กลูเตนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในอาหารประเภทข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ และธัญพืชต่าง ๆ ซึ่งร่างกายบางคนไม่สามารถย่อยโปรตีนชนิดนี้ได้ เมื่อกินกลูเตนเข้าไปจึงอาจมีอาการท้องเสียตามมา
8. ผลิตภัณฑ์จากนม
ทราบไหมคะว่าคนไทยส่วนหนึ่งไม่มีเอนไซม์ที่ใช้ย่อยโปรตีนแลคโตสในนมวัว ดังนั้นหากรับประทานนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไปก็จะเกิดอาการท้องเสีย ท้องอืด แน่นเฟ้อ และมีปัญหาระบบย่อยอาหารอื่น ๆ เพราะร่างกายเกิดปฏิกิริยาบางอย่างเพื่อที่จะพยายามย่อยแลคโตสให้ได้ จึงทำให้ระบบการย่อยอาหารแปรปรวนนั่นเอง เช่นนั้นแล้วหากรู้ตัวว่าแพ้นมวัว ก็พยายามเลี่ยงหรือลดอาหารเหล่านี้จะดีกว่า หรือหันไปดื่มนมแลคโตสฟรี และนมจากธัญพืชแทนก็ได้
9. กาแฟ และอาหารที่มีคาเฟอีน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ในกระเพาะอาหาร เมื่อดื่มเข้าไปจึงทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ง่าย โดยเฉพาะหากคืนไหนดื่มเบียร์หรือไวน์ เช้าขึ้นมาจะรู้สึกมึนนิด ๆ แฮงก์หน่อย ๆ แถมด้วยอาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวได้ง่ายกว่าปกติ เพราะเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะกระตุ้นให้สารน้ำเข้าสู่ลำไส้มากขึ้นนั่นเอง
10. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นอาหารที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ในกระเพาะอาหาร เมื่อดื่มเข้าไปจึงทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ง่าย โดยเฉพาะหากคืนไหนดื่มเบียร์หรือไวน์ เช้าขึ้นมาจะรู้สึกมึนนิด ๆ แฮงก์หน่อย ๆ แถมด้วยอาการท้องเสียหรือถ่ายเหลวได้ง่ายกว่าปกติ เพราะเมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะกระตุ้นให้สารน้ำเข้าสู่ลำไส้มากขึ้นนั่นเอง
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : minnie
เมื่อ 2 ก.พ. 2567 15:20:51 น. อ่าน 154 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์