โซดาซ่า ดูบอล
Menu
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย

อัปเดต 10 ที่เที่ยวยะลา ธรรมชาติสวย เสน่ห์ล้น ณ ปลายด้ามขวานไทย



  ป่าฮาลาบาลา เป็นบริเวณของป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ และแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสายด้วยกัน รวมไปถึงสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองที่สำคัญมากมายหลายชนิด ที่โดดเด่นสุดๆ ก็คงจะเป็น นกเงือก เพราะมีมากกว่า 10 ชนิดด้วยกัน และที่นี่ยังถือว่าเป็นผืนป่าดิบชื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของคาบสมุทรมลายูค่ะ จนได้รับฉายาว่าเป็น อเมซอนแห่งเอเชีย และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคใต้เลย

 สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อยู่ที่บนระดับความสูงกว่า 2,038 ฟุต ใช้งบในการก่อสร้างมากกว่า 91 ล้านบาทเลยทีเดียวค่ะ เพื่อสร้างที่นี่ขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเลหมอก ได้แบบรอบทิศ 360 องศาเลย แต่ความพิเศษสุดๆ ของที่นี่ ก็คือ พื้นระเบียงทางเดินจะเป็นกระจกใส ยาว 61 เมตร ถือว่าเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนอีกด้วยค่ะ 

     กุนุงซิลิปัต หรือ ฆูนุงสีรีปัต เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงามมากๆ อีกจุด ที่อยู่ใน ตำบลอัยเยอร์เวง สามารถเห็นวิวได้ถึง 360 องศาอีกด้วย และยังชมวิวนี้กันได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน โดยช่วงที่จะสวยที่สุดจะอยู่ประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเมษายนค่ะ นอกจากคนไทยอย่างเราๆ แล้ว ที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวยอดฮิตของเพื่อนบ้าน อย่าง อินโดนีเซีย และ มาเลยเซีย อีกด้วยนะคะ

อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อีกหนึ่งจุดเช็คอินของ ยะลา เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขา แห่งแรกของประเทศไทยเลยค่ะ โดยบริเวณนี้จะเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็คอินกันอย่างมาก เพราะบางช่วงตอนกลางคืน จะมีการประดับไฟอย่างสวยงามเอาไว้ค่ะ อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากที่เที่ยวอื่นๆ อีกด้วย 

  อีกจุดชมวิวสวยๆ ของ ยะลา อย่าง เขื่อนบางลาง เพราะเต็มไปด้วยธรรมชาติสวยๆ ล้อมรอบเอาไว้ อีกทั้งยังมีกิจกรรมริมเขื่อนให้ทำคือ การล่องแพ ชมวิวธรรมชาติ สัมผัสธรรมชาติป่าฮาลาแบบใกล้ชิด นอกจากจะสวยแบบนี้แล้ว ก็ยังมีประโยชน์มากอีกด้วย ทั้ง เก็บน้ำเอาไว้ใช้ในพื้นที่เพาะปลูก รวมถึงผลิตไฟฟ้าใช้ และยังบรรเทาน้ำท่วมอีกด้วย ประโยชน์มากแบบนี้ จะพลาดไม่ไปเยือนได้ยังไงเนอะ

วัดพุทธาธิวาส เป็น วัดสวย ของ ยะลา ที่ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ โดยจะมี พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ สูงกว่า 39.90 เมตร รอบๆ ก็จะมีเจดีย์บริวารล้อมอยู่ สีทองอร่ามเด่นสง่าสวยงามอย่างมากเลยทีเดียว รวมถึงยังมี พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน พระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในไทย และ รูปเหมือนหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ให้เราได้ไปสักการะขอพรกันอีกด้วยค่ะ

   อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์คดเคี้ยวที่อยู่เข้าไปในภูเขายาวกว่า 1 กิโลเมตร มีความกว้าง 50-60 ฟุตเลย และมีทางเข้าออกหลายทางด้วยกันค่ะ เมื่อก่อนนั้นที่นี่เคยเป็นฐานของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (เขต 2) ที่ใช้เป็นฐานหลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียงนั่นเอง โดยด้านนอกของอุโมงค์จะมีการจัดนิทรรศการจำลองภาพประวัติศาสตร์ วิถีการดำเนินชีวิตภายในป่าต่างๆ เอาไว้นั่นเองค่ะ

บ่อน้ำร้อนเบตง เป็น บ่อน้ำร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่มีอุณหภูมิประมาณ 80 องศา มีน้ำเดือดที่สามารถต้มไข่ไก่ได้จนสุกภายใน 7 นาที รวมถึงธรรมชาติสวยๆ รายล้อมมากมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อยใจของชาวเบตงเลยค่ะ เพราะนอกจากน้ำร้อนนี้จะช่วยบรรเทารักษาโรคภัยต่างๆ แล้ว ก็ยังมีบ่อให้เราเลือกแช่มากมายเช่นกันค่ะ งานนี้จะผู้ใหญ่หรือเด็ก ก็สนุกได้สุขภาพดีๆ กันทั้งนั้นเลยค่า

  ตู้ไปรษณีย์ ของ จังหวัดยะลา แห่งนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่ตู้ไปรษณีย์ธรรมดาๆ แน่นอนค่ เพราะเป็นตู้ไปรษณีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทยเลยทีเดียว โดยจะตั้งอยู่ที่สี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2467 ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สองแล้ว โดยจุดประสงค์ก็เพื่อใช้เป็นที่รายงานข่าวสารบ้านเมืองให้กับชาวเมืองเบตงนั่นเองค่ะ เพราะจะมีวิทยุกระจายเสียงอยู่ส่วนบนของตู้ ปัจจุบันก็ได้สร้างตู้ไปรษณีย์ใหม่ ให้ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งมีความสูงกว่า 9 เมตรทีเดียว เป็นอีกจุดเช็คอินที่ต้องห้ามพลาดจริงๆ

ศาลหลักเมือง หรือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตั้งอยู่กลางใจเมือง ยะลา เลยค่ะ ภายในบริเวณศาลก็จะมีสวนสวย ไว้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจขางชาวเมือง ทั้ง สวนหย่อมและสระน้ำ ซึ่งก่อนจะมาเป็นจังหวัดยะลาอยู่ที่นี่นั้น ก็ได้ถูกย้ายมากว่าสี่ครั้ง ก่อนจะมาปักหลักลงที่นี่ และสร้างศาลหลักเมืองนี้ขึ้นมาค่ะ โดยภายนอกของศาลจะมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยลวดลายแบบไทย สีขาวสวยงาม รวมถึงจังหวัดยะลาเอง ก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นจังหวัดที่มีการวางผังเมืองแบบใยแมงมุมสวยที่สุดของเมืองไทยอีกด้วย

โพสต์โดย : ขั้นเทพ ขั้นเทพ เมื่อ 4 ส.ค. 2567 18:44:24 น. อ่าน 53 ตอบ 0

facebook