MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
10 ที่เที่ยวกาญจนบุรี ท่ามกลางธรรมชาติ ห้ามพลาดไปชมเด็ดขาด
10 ที่เที่ยวกาญจนบุรี ท่ามกลางธรรมชาติ ห้ามพลาดไปชมเด็ดขาด
10 ที่เที่ยวกาญจนบุรี ท่ามกลางธรรมชาติ ห้ามพลาดไปชมเด็ดขาด
ที่เที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี
ที่ที่ยวกาญจนบุรี เข้าจังหวัดกาญจนบุรีมาชื่นชมธรรมชาติ มาเพลินตาไปกับป่าเขียว ภูเขา และลำธารที่สวยงามกันกับที่เที่ยวกาญจนบุรี และที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย ชอบความสงบที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ไร้สิ่งรบกวนที่จะมาขัดเวลาความสุขของเราให้ลดน้อยลงไปได้ อยู่ใกล้กับกรุงเทพของเราเพียงนี้ ใครๆ ที่อยากพักผ่อนก็สามารถเดินทางมาได้ง่าย ใช้เวลาเพียงไม่นาน
จังหวัดกาญจนบุรี นั้นมีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่า มีทั้งป่าดงดิบและป่าโปร่ง ที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 129 กิโลเมตร และมีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงหลายจังหวัด ได้แก่
ด้านทิศเหนือ อยู่ติดกับ จังหวัดตาก และ จังหวัดอุทัยธานี
ด้านทิศใต้ อยู่ติดกับ จังหวัดราชบุรี
ด้านทิศตะวันออก อยู่ติดกับ จังหวัดสุพรรณบุรี และ จังหวัดนครปฐม
ด้านทิศตะวันตก ชายแดนติดต่อกับ สาธารณรัฐสหภาพพม่า
ซึ่งมีระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตรอีกด้วย ว่ากันว่า จังหวัดกาญจนบุรี คือ ดินแดนแห่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่า พรรณไม้ และน้ำตก ตลอดจนยังมีวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามมากมายของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกันด้วยความเอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจ และมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี ทั้งไทย พม่า มอญ และปากะญอ ( กะเหรี่ยง )
ยิ่งไปกว่านั้น ที่ กาญจนบุรี ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ก่อให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรีสำคัญที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้มีอนุสรณ์สถานจำนวนมากปรากฏไว้เป็นหลักฐาน อาทิ สะพานข้ามแม่น้ำแคว สุสานทหารสัมพันธมิตร หรือจะเป็นพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด เป็นต้น
ด้วยความที่ กาญจนบุรี เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวหลายคนนึกถึงความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ชื่อดังที่มีมากมาย รวมถึงน้ำตกสวยๆ ที่มีน้ำใสไหลเย็นให้เที่ยวกาญจนบุรีกันเกือบตลอดทั้งปี อีกทั้งมีความสวยงามของขุนเขาและผืนป่าเมืองกาญจน์พรั่งด้วยเสน่ห์เย้ายวนใจเป็นอย่างยิ่ง สุนก! ท่องเที่ยว เลยขอจัด 10 สถานที่ต้องไม่พลาดเมื่อไปเที่ยวกาญจนบุรีมาฝากกัน
1. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : น้ำตกเอราวัณ
น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงใน จังหวัดกาญจนบุรี และถือเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากๆ อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย
2. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : สะพานมอญ
สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยสร้างข้ามลำน้ำซองกาเลีย มีชื่อเรียกอีกอย่างนึงว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ ที่เที่ยวกาญจนบุรีแนะนำเป็นอันดับต้นๆ เพราะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย
3. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : ปราสาทเมืองสิงห์
ปราสาทเมืองสิงห์ ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นศาสนสถานโบราณ สถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี และสร้างด้วยศิลปะขอมแบบบายนแห่งเดียวในภาคตะวันตกของประเทศไทย
4. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : โบสถ์แสตนเลส
ชมโบสถ์แสตนเลส อำเภอศรีสวัสดิ์ แหล่งท่องเที่ยวกาญจนบุรี UNSEEN แห่งใหม่ ที่ถูกสร้างสรรค์จากแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา และก่อเกิดเป็นพระอุโบสถแสตนเลสหนึ่งเดียวในโลก
5. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : สะพานข้ามแม่น้ำแคว
เดินเที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแคว อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของโลก ถือเป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์ทั้งเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งสะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี
6. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : สุสานดอนรัก หรือ สุสานสหประชาชาติ
ถ่ายรูปสุสานดอนรัก ที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "ป่าช้าอังกฤษ" เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ เป็นอนุสรณ์สถานฝังศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ 6,982 หลุม
7. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : เมืองบาดาล วัดวังก์วิเวการาม
เมืองบาดาล ตั้งอยู่ที่ อำเภอสังขละบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองไปอีกเกือบ 200 กิโลเมตร ซึ่งจะสัมผัสได้ถึงความเจริญรุ่งเรืองและความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ถูกสร้างขึ้นและต้องถูกทิ้งล้างให้จมน้ำมากว่ายี่สิบปีแล้ว
8. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ที่เที่ยวกาญจนบุรีเกิดจากลำห้วยแม่ขมิ้นในเทือกเขากะลา ไหลลดหลั่นไปตามเทือกเขาหินปูน มีทั้งหมดเจ็ดชั้นได้แก่ ชั้นว่านดง ม่านขมิ้น วังหน้าผา ฉัตรแก้ว ไหลจนหลง ดงผีเสื้อ และร่มเกล้า ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวสามารถชมพันธุ์ไม้ในป่าดิบแล้งได้ด้วย
9. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : เขาช้างเผือก
ถ่ายภาพเขาช้างเผือก แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ การขึ้นมามาพิชิตยอดเขาช้างเผือก เป็นอีกหนึ่งทริปในฝันของนักท่องเที่ยว นักถ่ายภาพ นักผจญภัย ที่ต้องหาโอกาสมาสัมผัสกันให้สักครั้ง
10. ที่เที่ยวกาญจนบุรี : น้ำตกไทรโยคใหญ่
น้ำตกไทรโยคใหญ่ แม้ตัวน้ำตกตั้งไม่ห่างจากที่ทำ การอุทยานฯ แต่มีต้นน้ำไหลมาจากเทือกเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยาน ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย นักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามสะพานบริเวณที่ทำการอุทยานฯไปชมได้
เที่ยวกาญจนบุรีตามเทศกาล
นอกจากที่เที่ยวกาญจนบุรีจะมีความน่าสนใจในแง่ของความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว ในช่วงเดือนเมษายน ไปจนถึงเดือนธันวาคมก็ยังมีเทศกาลและประเพณีต่างๆ ที่น่าสนใจรอให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนอย่างหลากหลาย ...
1. รำเหย่ย : เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวกาญจนบุรีที่มักมีขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทย โดยเล่นกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลราวๆ 500 ปีก่อน วิธีการเล่น คือ ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะยืนล้อมวงกัน มีร้องนำ ร้องแก้ และร้องลูกคู่ อีกทั้งยังมีการร้องรับพร้อมปรบมือเป็นจังหวะ ซึ่งในขณะที่มีการร้องแก้นั้นฝ่ายชายและฝ่ายหญิงจะผลัดกันออกมารำทีละคู่ ผลัดเปลี่ยนกันไป อุปกรณ์มีกลองยาวหนึ่งวง ส่วนการแต่งกายชายนุ่งโจงกระเบน ใส่เสื้อคอกลม มีผ้าขาวม้าพาดไหล่ หญิงแต่งชุดไทยนุ่งสไบเฉียง ปัจจุบันนิยมเล่นกันเฉพาะในอำเภอพนมทวนเท่านั้น
2. งานเทศกาลชาวเรือนแพ : เป็นเทศกาลที่มักจะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน บริเวณถนนสองแคว ริมน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี โดยมีกิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน มหกรรมลูกทุ่ง นิทรรศกาลทางวิชาการ รวมถึงการแข่งขันกีฬาทางน้ำประเภทต่างๆ อาทิ เรือยาว เรือเร็ว เจ็ตสกี เป็นต้น
3. งานวันอาบน้ำแร่แช่น้ำตก : เป็นงานที่มักจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเช่นเดียวกันกับ งานเทศกาลชาวเรือแพ บริเวณน้ำพุร้อนหินดาด อำเภอทองผาภูมิ ภายในงานจะมีการออกร้านผลิตผลและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงนิทรรศการการท่องเที่ยวทองผาภูมิ อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังจะได้อาบน้ำแร่ที่น้ำพุร้อนหินดาดและได้ชมความงดงามของน้ำตกหินดาดอีกด้วย
4. งานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว : เป็นงานที่มักจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงช่วงต้นเดือนธันวาคม บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อเป็นการรำลึกถึงความสำคัญของการสร้างทางรถไฟสายมรณะและสะพานแม่น้ำแควในช่วงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายในงานจะมีนิทรรศการทางประวัติศาสตร์และเนื้อหาทางโบราณคดี มีการแสดงพื้นบ้าน การออกร้านจำหน่ายสินค้าต่างๆ รวมถึงกิจกรรมความบันเทิงที่ครบทั้งแสง สี เสียง
3 เมนูขึ้นชื่อเมื่อมาเมืองกาญจนบุรี ต้องไปชิม !
จังหวัดกาญจนบุรีนั้นไม่ได้มีความน่าสนใจแค่เรื่องของประวัติศาสตร์อันยาวนานและความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ถ้ามาที่นี่แล้วยังไม่ได้ลองลิ้มชิมรสอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดกาญจนบุรีพ่วงไปด้วยก็เหมือนมายังไม่ถึง วันนี้ เราก็เลยมี 3 เมนูอาหารพื้นบ้านมาให้ได้ไปสัมผัสกัน เนื่องด้วยกาญจบุรีมีสภาพภูมิทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ แต่ละเมนูก็เลยจะเป็นพืชผักซะส่วนใหญ่ จะมีอะไรบ้าง ลองตามมาดูกัน ! …
แกงป่าตำรับเมืองกาญจน์
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมนูเด็ดจากเมืองกาญจน์เมนูนี้ดีต่อสุขภาพแน่ๆ เพราะวัตถุดิบที่นำมาใช้ปรุงล้วนได้มาจากธรรมชาติแทบจะทั้งหมด จึงการันตีได้ถึงความสด สะอาด ปลอดภัย เพียงปรุงรส เพิ่มความจัดจ้านเข้าไปอีกหน่อยก็ได้อาหารรสเด็ดอีกหนึ่งเมนูที่แนะนำให้ไปชิมกันเมื่อมีโอกาสไปเที่ยวกาญจบุรี
บอกเลยว่าคนที่ชอบลุยต้องไม่พลาดกับการมาเที่ยวกาญจนบุรีดูสักครั้ง คุณจะไม่แปลกใจว่าทำไมทุกครั้งที่เตรียมตัวเที่ยวแล้วกดเข้าไปดูที่พักในจังหวัดกาญจน์ถึงได้มีการจองห้องพักกันเต็มจนแน่นขนาดนั้น เตรียมตัวมาเยือนไว้ได้เลยล่วงหน้า ถือว่าเป็นการใช้เวลาที่มีแต่ความสุขอย่างคุ้มค่าที่สุด อีกทั้งยังได้ความประทับใจจากอัธยาศัยของผู้คนที่นี่ รวมถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์น่ารู้กลับไปฝากคนที่บ้านให้ได้เดินทางมาสมผัสด้วยตัวเอง
เมนูที่ทำจากเห็ดโคน
มาถึงเมนูพื้นบ้านเมนูที่สองที่อยากจะแนะนำกัน เป็นเมนูอาหารเมืองกาญจน์ที่ใช้วัตถุดิบและการปรุงที่มาจากธรรมชาติคล้ายๆ กับเมนูแรก เพียงแต่ในเมนูนี้จะเน้นให้ “เห็ดโคน” เป็นพระเอกชูโรง เขาว่ากันว่าใครที่แวะไปเที่ยวจังหวัดกาญจบุรีต้องไม่พลาดโดยเด็ดขาด ยิ่งเห็นเห็ดโคนขาโตๆ เนื้อแน่นๆ รสชาติหวานๆ ยิ่งต้องลอง โดยเฉพาะแกงป่าเห็ดโคน แค่ซดน้ำเข้าไปคำแรกก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสที่ซู่ซ่าชวนให้ติดใจ จนต้องสั่งชามที่สองเชียวล่ะ
เมนูที่ทำจากปลา
จังหวัดกาญจนบุรีไม่ได้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพรรณไม้ หรือพืชผักต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ที่นี่ยังมีสัตว์น้ำอีกหลากหลายที่เกิดขึ้นไว้สำหรับเป็นอาหาร อย่างปลาสายพันธุ์ต่างๆ อาทิ ปลาคัง ปลากด ปลายี่สก ปลาแรด ที่ล้วนแล้วแต่สามารถจับได้จากแม่น้ำแควกันแบบสดๆ พร้อมนำมาปรุงอาหารกันให้เห็นเดี๋ยวนั้นในเมนูที่หลากหลาย ไม่ว่าจะชอบต้มยำทำแกงแบบไหน ก็ลองสั่งมาลิ้มชิมรสในแบบอาหารเมืองกาญจน์กันได้ไม่มีเบื่อ
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : ขั้นเทพ
เมื่อ 7 ส.ค. 2567 18:57:18 น. อ่าน 55 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์