MENU
เว็บบอร์ด
ผลบอล
วิเคราะห์บอล
ไฮไลท์ฟุตบอล
ตารางคะแนน
ดูบอลสด
Menu
หน้าแรก
ดูบอลสด
ตารางบอลวันนี้
ตารางบอลพรุ่งนี้
ผลบอลย้อนหลัง
ทายผลบอล
ข่าววันนี้
ข่าวเด่นวันนี้
ข่าวพรีเมียร์ลีค
ข่าวลาลีกา
ข่าวบุนเดสลีกา
ข่าวกัลโซ่ ซีเรียอา
ข่าวลีกเอิง
ข่าวไทยพรีเมียร์ลีก
ข่าวยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ข่าวยูโรป้า
ข่าวฟุตบอลโลก
ลิ้งดูบอล
คลิปไฮไลท์
ไฮไลท์ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
ไฮไลท์พรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ลาลีกา
ไฮไลท์บุนเดสลีกา
ไฮไลท์กัลโซ่ ซีเรียอา
ไฮไลท์ลีกเอิงฝรั่งเศษ
ไฮไลท์ไทยพรีเมียร์ลีก
ไฮไลท์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
ไฮไลท์ยูโรป้า
ผลบอล
ดูทีวีออนไลน์
วิเคราะห์บอล
ตารางคะแนน
พรีเมียร์ลีค
แชมเปี้ยนชิพอังกฤษ
ลาลีกา
บุนเดสลีกา
กัลโซ่ซีเรียอา
ลีกเอิงฝรั่งเศส
ไทยพรีเมียร์ลีก
ไทยดิวิชั่น1
Holland Eredivisie
บุนเดสลีก้า2 เยอรมัน
ลาลีกา2 สเปน
ซูเปอร์ลีกา โปรตุเกส
เว็บบอร์ด
ติดต่อโฆษณา
กรุณากดปุ่ม แชร์ ให้เพื่อนๆได้มาดูด้วย
10 ที่เที่ยวอุบลราชธานี รวมสถานที่อันซีนเมืองไทย ที่ชีวิตนี้ควรต้องไปให้เห็นกับตา!
10 ที่เที่ยวอุบลราชธานี รวมสถานที่อันซีนเมืองไทย ที่ชีวิตนี้ควรต้องไปให้เห็นกับตา!
1.ทุ่งศรีเมือง (Tung Sri Muang)
ทุ่งศรีเมือง เดิมมีชื่อว่า “นาทุ่งศรีเมือง” เป็นที่ประดิษฐานศาลหลักเมือง หนึ่งในที่เที่ยวอุบลราชธานียอดนิยม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุบลราชธานี ณ ถนนอุปราช บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัด (หลังเก่า) มีลักษณะเป็นทุ่งกว้าง แต่เดิมเป็นที่ทำนาของเจ้าเมือง ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 ได้โปรดฯ ให้งดการทำนาที่ทุ่งศรีเมือง และนำมาใช้สอยเป็นพื้นที่สาธารณะเช่นเดียวกับสนามหลวงกรุงเทพฯ แทน โดยทุ่งนี้เป็นทั้งที่ประกอบพิธีศพเจ้าเมือง จัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษา และประเพณีอื่น ๆ
ปัจจุบัน ทุ่งศรีเมืองได้กลายเป็นที่พักผ่อนของชาวเมืองอุบล และเป็นที่จัดเทศกาลงานบุญต่าง ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีต้นเทียนพรรษาเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ เมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2542 และยังมีอนุสาวรีย์พระปทุมวรราชสุริยวงษ์ (เจ้าคำผง) ผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี โดยจะมีพิธีบวงสรวงและสดุดีวีรกรรมของท่าน ทุกวันที่ 10 พฤศจิกายน ของทุกปี ณ ทุ่งศรีเมืองแห่งนี้อีกด้วย
2. วัดทุ่งศรีเมือง (Tung Sri Muang Temple)
วัดทุ่งศรีเมือง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองอีกหนึ่งที่เที่ยวอุบลราชธานี ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ “ทุ่งศรีเมือง” สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จุดเด่นของวัดแห่งนี้ คือ “หอไตรกลางน้ำ” ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นหอไตรที่สวยงามที่สุดและสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน จัดเป็นหนึ่งในของดีประจำจังหวัดอุบลราชธานีเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีหอระฆัง และภาพจิตรกรรมฝาผนัง รวมถึงศิลปวัตถุมีค่าอีกหลายอย่าง เช่น พระพุทธบาทจำลอง และองค์พระเจ้าใหญ่เงินฮาง หอไตรกลางน้ำเป็นหอพระไตรปิฏกที่สร้างด้วยไม้ ตั้งอยู่กลางสระน้ำ มีลักษณะผสมผสานกันระหว่างศิลปะของไทย ลาว และพม่า ภายในมีตู้เก็บพระธรรมลงรักปิดทอง และหอไตรกลางน้ำยังได้รับรางวัล “อนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น” จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวเมืองอุบลที่ห้ามพลาด
3. วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ (Wat Tai Phra Chao Yai Ong Tue)
วัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ หรือวัดใต้เทิง ตั้งอยู่ที่ถนนพรหมราช เป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีอันมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ และเป็นวัดที่ถูกเคารพนับถือจากทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ภายในพระอุโบสถมณฑปเพชร 7 แสงพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นที่ประดิษฐาน “พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ” พระพุทธรูปเนื้อทองสำริด ปางมารวิชัย โดยมีความสำคัญเป็น 1 ใน 5 องค์จากจำนวนพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อทั้งหมดที่มีอยู่ในประเทศไทย
นอกจากพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อแล้ว ยังมีโบราณวัตถุ ได้แก่ พระพุทธรูปปางยืนห้ามสมุทร 4 องค์ และพระพุทธรูปเจตมุนเพลิงองค์ตื้อ (สีดำสนิท) หลักศิลาจารึกหินทราย 2 หลัก วิหารเฉลิมพระเกียรติ 200 ปี และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลรัตนสิริธัญสถิตและเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ โดยทุกวันที่ 1-5 มีนาคมของทุกปี จะมีงานเทศกาลอัญเชิญพระพุทธรูปเจตมุนเพลิงองค์ตื้อ เพื่อให้ประชาชนได้นมัสการสรงน้ำตลอด 5 วัน 5 คืน
4. วัดพระธาตุหนองบัว (Wat Phrathat Nong Bua)
วัดพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือที่ชาวอุบลเรียกกันว่า “วัดพระธาตุหนองบัว” ตั้งอยู่ที่ถนนธรรมวิถี เป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2500 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา โดยพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์นี้ ได้จำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า โดยบริเวณฐานเจดีย์ มีประตูทางเข้าสู่ใจกลางเจดีย์ทั้ง 4 ด้าน ภายในองค์พระธาตุบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งถูกบรรจุไว้ในสถูปลงรักปิดทองศิลปะอินเดียแบบปาละ สลักลายเรื่องพระเจ้า 500 ชาติ
ด้านหลังของพระธาตุฯ มีอุโบสถศาลา ซึ่งสร้างเลียนแบบรูปทรงมาจากปรินิพพานวิหาร เมืองกุสินาราย รัฐอุตร ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นที่เสด็จดับขันธปรินิพพานของพระพุทธเจ้า อีกหนึ่งไฮไลท์ในพระธาตุฯ แห่งนี้ คือรูปปั้นฉัพยาปุตตะ หรือพญานาคสีรุ้ง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงาม และความหลากหลายของสีวรกาย
5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี (Ubon Ratchathani National Museum)
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติประจำจังหวัดแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของจังหวัดอุบลราชธานี ตลอดจนโบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม หัตถกรรม พุทธศาสนา และการปกครอง เดิมพิพิธภัณฑ์ถูกใช้เป็นศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี โดยสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2461 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว
ลักษณะของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นอาคารชั้นเดียว ก่ออิฐถือปูนยกพื้นสูง หลังคาทรงปั้นหยา มุงกระเบื้องว่าว แผนผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศเหนือ ถือเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม และเป็นอนุสรณ์สถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี อีกทั้งยังได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปกรรมดีเด่นในปี พ.ศ. 2532 จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมถ์ นับเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีอันทรงคุณค่าที่ควรมาให้ได้
6.วัดสิรินธรวราราม (Wat Sirindhornwararam)
วัดเรืองแสง หรือวัดสิรินธรวราราม แห่งตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร โดดเด่นด้วยอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า ด้านหลังของอุโบสถเป็นจิตรกรรมเรืองแสงสีเขียวของต้นกัลปพฤกษ์อันแสนสวยงามตื่นตาตื่นใจในยามค่ำคืน ด้วยการใช้สารเรืองแสงหรือสารฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งมีคุณสมบัติรับแสงพระอาทิตย์ในตอนกลางวัน และปล่อยพลังงานออกมาในตอนกลางคืน
โดยเป็นฝีมือการออกแบบของช่าง “คุณากร ปริญญาปุณโณ” ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต ในภาพยนตร์เรื่อง “อวตาร” และช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการชมและถ่ายภาพคือ ตั้งแต่เวลา 18.00-20.00 น. นอกจากนี้ บริเวณด้านหลังพระอุโบสถยังเป็นจุดชมวิวริมลำน้ำโขง ทิวทัศน์ของฝั่งลาว ด่านช่องเม็ก และอ่างเก็บน้ำบริเวณเชิงเขา นับว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวอุบลราชธานีที่มีจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม
7. พัทยาน้อย (Pattaya Noi)
หาดพัทยาน้อย หรือ ทะเลอีสานใต้ ตั้งอยู่ริมถนนสถิตนิมานการ บ้านใหม่ภูทอง อำเภอสิรินธร ห่างจากตัวเมืองอุบลประมาณ 60 กิโลเมตร ในฤดูแล้งระดับน้ำเหนือเขื่อนสิรินธรจะต่ำลงมาก จนเห็นเป็นหาดทรายขาวทอดตัวยาว และสามารถลงเล่นน้ำได้ พื้นที่แห่งนี้จึงได้รับการพัฒนาให้เป็นจุดท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ และเล่นน้ำยอดฮิตของชาวอุบลราชธานี รวมไปจนถึงชาวอีสานใต้ในหลายๆ พื้นที่ใกล้เคียงกัน
ที่เที่ยวอุบลราชธานีแห่งนี้ เพียบพร้อมไปด้วยบริการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวมากมาย ทั้งร้านอาหาร รีสอร์ท ร้านกาแฟ ในลักษณะที่เป็นเรือนแพกลางน้ำ แถมยังมีเครื่องเล่นทางน้ำ อย่างเช่น บานาน่าโบ๊ต เจ็ตสกี และห่วงยางให้บริการอีกด้วย
8. อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ (Kaeng Tana National Park)
อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ เดิมชื่อ “อุทยานแห่งชาติดงหินกอง” เกาะแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ย ๆ โดยมียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่านไปตามร่องหิน อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง ซึ่งเป็นจุดเด่นของแก่งตะนะแห่งนี้
“แก่งตะนะ” ที่เที่ยวอุบลราชธานีแห่งนี้ เป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด ตัวแก่งเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่กั้นขวางลำน้ำมูล สายน้ำที่ไหลผ่านแก่งตะนะนั้น แยกเป็นน้ำตกน้อยใหญ่สวยงามน่าชม และมีจุดเล่นน้ำเหนือแก่ง ที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวอยู่เสมอ
กิจกรรมห้ามพลาดของที่นี่คือ เดินป่า ค้างคืน ดูพระอาทิตย์ขึ้นบนผาด่าง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นพร้อม ๆ กับผาชะนะได อีกทั้งยังสามารถมองเห็นหมู่บ้านชาวลาว และสะพานปากแซ เมืองปากแซ แขวงจำปาสัก ของประเทศลาวอีกด้วย
9. สามพันโบก (Sam Phan Bok)
สามพันโบก ได้รับสมญานามว่า “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” ตั้งอยู่ที่บ้านโป่งเป้า ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร เป็นแก่งหินทรายขนาดใหญ่ที่ถูกกระแสน้ำธรรมชาติกัดเซาะมานานหลายพันปี จนกลายเป็นแอ่งหลุมรูปร่างแปลกตา กระจายกินพื้นที่เลียบริมแม่น้ำโขง ทั้งฝั่งไทยและลาว ในช่วงหน้าแล้งจะปรากฏให้เห็นเป็นภาพศิลปะสารพัดรูปร่าง เป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร รวมเป็นพื้นที่กว่า 30 ตารางกิโลเมตร
จุดถ่ายรูปยอดฮิตคือ ผาหินรูปสะพานโค้ง, หินหัวสุนัข, สระมรกต, โบกรูปดาว, โบกรูปหัวใจ และโบกรูปมิกกี้เม้าส์ ใกล้ ๆ กันยังมีจุดน่าเที่ยวอย่างเช่น หลักศิลาเลข, ถ้ำนางเข็นฝ้าย, แก่งสองคอน, ถ้ำนางต่ำหูก, หาดหินสี, หาดแห่, ภูเขาหิน ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนสามพันโบกคือ ช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงมิถุนายนของทุกปี สามพันโบกเรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวอุบลราชธานีที่มีชื่อเสียงที่สุดเลยทีเดียว
10. หาดหงส์ (Hong Beach)
อีกหนึ่งที่เที่ยวอุบลราชธานีที่อำเภอโพธิ์ไทร ไม่ไกลจากสามพันโบก “หาดหงส์” เป็นเนินทรายแม่น้ำโขงที่เกิดจากการพัดพาของน้ำ และนำตะกอนทรายมาทับถมกัน จนกลายเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ การเดินทางมาที่นี่ต้องมาทางเรือเท่านั้น โดยนั่งมาจากสามพันโบกหรือหาดสลึงก็ได้เช่นกัน
แนะนำให้มาในฤดูแล้ง จะได้เห็นเนินทรายกว้างใหญ่ สมฉายาซาฮาร่าเมืองไทย และช่วงที่เหมาะกับการถ่ายรูปคือ 4 โมงเย็น จนถึงช่วงพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า จะได้ภาพสวยงามที่สุด อย่าลืมเลือกใส่รองเท้าที่เดินทรายได้สบาย ๆ รวมทั้งพกน้ำดื่มกันมาด้วย หากต้องการอยู่ถ่ายรูปจนพระอาทิตย์ตกดิน เพื่อความปลอดภัย ควรพกไฟฉายไปด้วย
ตอบคำถาม
ตั้งคำถามใหม่
โพสต์โดย : ขั้นเทพ
เมื่อ 9 ส.ค. 2567 19:28:11 น. อ่าน 59 ตอบ 0
Member
Login
ลืมรหัสผ่าน
|
สมัครสมาชิกใหม่
ดูฟุตบอลออนไลน์