ขุนพล "ช้างศึก" ต้านความแข็งแกร่งของพลพรรค "จอมโหด" ยอดทีมจากแดนอเมริกาใต้ไม่ไหว โดนลูกตั้งเตะเล่นงานถึง 2 ประตู ก่อนจะพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-4 คว้ารองแชมป์ "ไชน่า คัพ 2019" ไปครอง
การแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์ รายการ "ไชน่า คัพ 2019" วันที่ 25 มีนาคม 2562 เป็นการลงสนามฟาดแข้งในรอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย อันดับ 115 ของโลก พบ ทีมชาติอุรุกวัย อันดับ 7 ของโลก
เกมที่แล้ว "ช้างศึก" ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเฉือนชนะเจ้าภาพจีน ไปแบบหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ขณะที่อุรุกวัย เอาชนะ อุซเบกิสถาน มาแบบสบายๆ 3-0
"โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย จัดทัพด้วยผู้เล่นชุดเดียวกันกับเกมที่แล้ว ใช้งาน ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นห้องเครื่องทำเกมอยู่ข้างหลังศูนย์หน้าตัวเป้า อย่าง อดิศักดิ์ ไกรษร โดยมี ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สารัช อยู่เย็น และฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เป็น 3 มิดฟิลด์
ส่วน "จอมโหด" อุรุกวัย ของเฮดโค้ชจอมเก๋าออสการ์ ตาบาเรซ ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามหลายราย นำโดย 2 คู่หูปราการหลังจากแอตเลติโก มาดริด อย่าง ดิเอโก้ โกดิน และโฆเซ่ กิมิเนซ และใช้ มาทิอัส เวชิโน่ จากอินเตอร์ มิลาน กับ เฟเดริโก้ บัลเวร์เด ดาวรุ่งจากเรอัล มาดริด คุมเกมแดนกลาง ส่วนเกมรุกใช้ คริสเตียน สตัวนี จากกิโรน่า เป็นหน้าเป้า โดยมี กัสตัน เปเรยโร่ จากพีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น เป็นเพลย์เมคเกอร์
เริ่มเกมได้ไม่นานทีม "จอมโหด" ออกนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ในนาทีที่ 6 จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย นิโคลาส โลเดยโร่ เปิดบอลมาที่เสาแรกให้ มาทิอัส เวชิโน่ โขกเข้าไปง่ายๆ
หลังจากเสียประตู ทีมชาติไทย ครองบอลได้เยอะขึ้น เป็นฝ่ายขึงเกมบุกใส่อุรุกวัยอย่างต่อเนื่อง แต่แทบไม่มีโอกาสเจาะเข้าทำประตู
น.39 กลายเป็น อุรุกวัย มาหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ คริสเตียน สตัวนี หลุดเข้ามาริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเลี้ยงหลบ ทริสตอง โด และตบเข้ากลางมาหน้าประตูให้ กัสตัน เปเรยโร่ แตะบอลเข้าประตูไปแบบง่ายๆ จบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้
เริ่มครึ่งเวลาหลังเป็นอุรุกวัย ที่ครองเกมได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด น.58 ก็มาได้ประตูขยับห่างเป็น 3-0 จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวา จอร์เจียน เด อาร์ราสคาเอต้า เปิดมาที่เสาแรกให้ คริสเตียน สตัวนี ขึ้นเทคตัวสูงกว่าแนวรับทีมชาติไทย โหม่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย
หลังเสียประตูที่สาม "ช้างศึก" พยายามจะครองบอลให้เยอะขึ้น แต่มีข้อผิดพลาดค่อนข้างเยอะ จ่ายบอลเสียเองบ่อยครั้ง ขณะที่ อุรุกวัย อาศัยการต่อบอลที่แม่นยำกลับมาขึงเกมบุกใส่ทีมชาติไทย แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่เฉียบคมพอ
ช่วงท้ายเกม น.88 อุรุกวัย ได้ประตูหนีห่างไปอีกเป็น 4-0 จากลูกยิงของแม็กซิมิเลียโน่ โกเมซ กองหน้าตัวสำรองจากเซลต้า บีโก้ ที่ยิงบอลไปแฉลบสุพรรณ ทองสงค์ หนีมือฉัตรชัย บุตรพรม ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง เข้าประตูไป
หมดเวลา 90 นาที ทีมชาติไทย พ่าย ทีมชาติอุรุกวัย 0-4 ปิดฉากศึก "ไชน่า คัพ 2019" ด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ส่วนผลการแข่งขันในคู่ชิงอันดับ 3 เจ้าภาพจีน พ่ายคาบ้านให้กับ อุซเบกิสถาน 0-1
รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK), ทริสตอง โด, นัสตพล มาลาพันธ์, อดิศร พรหมรัตน์, สุพรรณ ทองสงค์, ธีราทร บุญมาทัน, สารัช อยู่เย็น, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, อดิศักดิ์ ไกรษร
ทีมชาติอุรุกวัย : เฟร์นันโด มุสเลร่า (GK), จิโอวานนี กอนซาเลซ, ดิเอโก้ โกดิน, โฆเซ่ กิมิเนซ, มาร์ติน กาเซเรส, มาทิอัส เวชิโน่, เฟร์เดริโก้ บัลเวร์เด, นิโคลัส โลเดยโร่, กัสตัน เปเรยโร่, นาฮิตาน นานเดซ, คริสเตียน สตัวนี
.gif "g2g")
