ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ อดีตกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยว่าปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พัฒนาฝีเท้าจนก้าวขึ้นมาเป็นยอดนักเตะได้ ส่วนหนึ่งมาจากการที่ วอลเตอร์ สมิธ ผู้ช่วยโค้ชในตอนนั้นได้ปรับแผนการซ้อมแบบใหม่ จากรายงานของ thesun.co.uk เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563
สมัยที่ โรนัลโด้ ย้ายมาร่วมทัพ แมนยู ในวัยเพียง 18 ปี เมื่อปี 2003 ซึ่งตอนนั้นเขามักจะถูกวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นที่ชอบติดเลี้ยงบอล และโชว์ลูกเล่นมากเกินไป เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จึงมองว่าเขามีฝีเท้าที่ดีอยู่แล้ว แต่จำเป็นต้องปรับปรุงเรื่องความเร็วในการจ่ายบอล และประสิทธิภาพในการตัดสินใจ
ซึ่งทาง วอลเตอร์ สมิธ ผู้ช่วยของ เฟอร์กี้ ในเวลานั้นเกิดไอเดียที่จะช่วยให้ โรนัลโด้ จ่ายบอลได้เร็วขึ้นจึงปรับแผนการซ้อมแบบใหม่ด้วยการไม่ให้มีการฟาวล์ในการซ้อม ซึ่งงานนี้ทำเอา "ซีอาร์7" โมโหสุด ๆ เพราะเขาต้องเจ็บตัวหนัก แต่สุดท้ายมันก็ทำให้เขากลายเป็นยอดนักเตะจนทุกวันนี้
โดยอดีตเพื่อนร่วมทีม ปีศาจแดง ของ โรนัลโด้ อย่าง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ได้ย้อนความหลังว่า "โรนัลโด้ มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเหมือนกันในห้องแต่งตัว มีหลายครั้งที่เขาเลี้ยงบอลมากเกินไป และการตัดสินใจของเขายังไม่ค่อยดีนัก เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนบางครั้งเขาถึงขนาดบ่นว่าอยากจะกลับบ้าน"
"แต่ในที่สุดเขาก็สามารถจัดการกับมันได้ เขาเป็นคนที่มีบุคลิกเป็นนักสู้ เขาใช้เวลาพัฒนาตัวเองภายในไม่กี่ปีด้วยการซ้อม เข้ายิม และเขาก็กลายมาเป็นปีศาจที่สมบูรณ์แบบในระดับมืออาชีพ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าสภาพแวดล้อมที่ แมนยู ช่วยเขาได้มาก"
"เมื่อ วอลเตอร์ มาถึง และเขาได้ตัดสินใจให้มีการฝึกซ้อมแบบไม่มีการฟาวล์ ผมรู้ว่านี่มันสำหรับ โรนัลโด้ แน่นอน ซึ่งนักเตะทุกคนก็เห็นด้วย และรอนนี่ก็โดนไล่เตะตลอด ก่อนหน้านี้จะปะทะกันเบาแค่ไหนคุณก็จะได้ฟาวล์ เขาจึงชอบทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นตัวตลกด้วยการหลอกให้ทำฟาวล์แล้วก็ขำใส่"
"ดังนั้น วอลเตอร์ จึงตัดสินใจว่าจะไม่มีการฟาวล์ในการซ้อม ผ่านไป 2 สัปดาห์ โรนัลโด้ ออกอาการโมโหสุด ๆ และเขาชอบบ่นว่า 'สกอตติชคนนั้นมันเป็นใคร ? นี่มันอะไรกันเนี่ย ?' โดยปกติแล้วนักเตะทุกคนที่ ยูไนเต็ด เข้าเสียบสกัดกันเต็มที่ และนี่เมื่อคุณรู้ว่ามันจะไม่ฟาวล์แล้วก็ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก"
"แต่หลังจากนั้น มันน่าทึ่งมากที่ รอนนี่ เริ่มจ่ายบอลเร็วขึ้น และวิ่งเร็วขึ้นอีกด้วย เพราะเขารู้ว่าจะไม่ได้ฟาวล์แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรครองบอลนานเกินไป จากนั้นเขาก็เริ่มทำประตูได้มากขึ้น และเข้าไปในตำแหน่งที่สามารถยิงประตูได้บ่อยครั้งขึ้น ฟังดูมันอาจเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ผมรู้สึกว่าครึ่งหลังของฤดูกาลภายใต้การซ้อมกับ วอลเตอร์ สมิธ ทำให้ โรนัลโด้ ก้าวไปอีกขั้น"
"จากเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ทำให้ โรนัลโด้ โกรธแค้นอย่างหนัก แต่เขาก็ยอมรับมันได้ และก็เริ่มจับบอลแค่ 1-2 จังหวะ จากนั้นก็รีบผ่านบอล แล้วจึงวิ่งไปหาพื้นที่โดยไม่มีลูกบอล ในที่สุดเขาก็เริ่มทำประตูได้มากขึ้น"
"ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขาเข้าใจว่า 'โอ้ ทักษะของฉันยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้รูปแบบการซ้อมทำให้ฉันต้องจ่ายบอลเร็วขึ้น และวิ่งให้เร็วขึ้นด้วย ซึ่งได้เปรียบจากสภาพร่างกายของฉัน มันทำให้ฉันมีประสิทธิภาพมากขึ้น' นี่เป็นการจัดการที่ยอดเยี่ยมมาก"