โซดาซ่า ดูบอล
Menu

เดนมาร์ก ไล่ถล่ม รัสเซีย 4-1 คว้ารองแชมป์กลุ่ม ทะลุ 16 ทีม

โพสต์เมื่อ 22 มิ.ย. 2564 08:25:38 น. เข้าชม 501 ครั้ง แจ้งลบ

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2020” วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2564 เป็นเกมการแข่งขันนัดที่สามในกลุ่ม B "โคนม" เดนมาร์ก ลงเล่นที่พาร์คเคน สเตเดียม กรุงโคเปนเฮเก้น พบกับ "หมีขาว" รัสเซีย

เดนมาร์ก ของกุนซือ แคนเปอร์ ยูลแมนด์ ปราชัยมา 2 เกมรวด ให้กับ ฟินแลนด์ และเบลเยียม โดยเกมนี้พวกเขาต้องเอาชนะคู่แข่งให้ได้สถานเดียว และต้องพยายามยิงประตูให้ได้เยอะๆ ถึงจะมีลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หรือเป็นหนึ่งใน 4 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด

ขณะที่ รัสเซีย ของกุนซือมาดเข้ม อย่าง สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ เกมที่แล้วเอาชนะ ฟินแลนด์ 1-0 ทำให้พวกเขามี 3 คะแนน ขอเพียงผลเสมอก็จะมีโอกาสสูงในการผ่านเข้าสู่รอบต่น็อคเอาต์ต่อไป

ทีม "โคนม" โหมเกมบุกอย่างหนักตั้งแต่เริ่มเพื่อหวังทำประตูให้ได้ และในนาทีที่ 38 เดนมาร์ก ก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ มิกเกล ดามส์การ์ด ปั่นโค้งๆ หน้ากรอบเขตโทษเข้าประตูไปอย่างสุดสวย จบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลัง เดนมาร์ก มาได้ประตูนีห่าง 2-0 ในนาทีที่ 59 จากจังหวะที่ โรมัน ซอบนิน พยายามคืนหลังให้ผู้รักษาประตูแต่จ่ายไม่ตรง โดน ยุสซุฟ โพลเซ่น ฉกไปยิงง่ายๆ

นาทีที่ 69 รัสเซีย มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ โซโบเลฟ โดน ยานนิค เวสเตอร์การ์ดทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็นอาร์เตม ซูบ้า ซัดเข้าไป ช่วยให้ทีม "หมีขาว" ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2

นาทีที่ 79 เดนมาร์ก มาประตูหนีห่าง 3-1 จากจังหวะที่พวกเขาโหมบุกอย่างหนัก กองหลังของทีมหมีขาวสกัดกันไม่ขาดบอลมาเข้าทาง อันเดรส คริสเตียนเซ่น ซัดไกล 30 หลา บอลพุ่งแรงหนีมือผู้รักษาประตูรัสเซียเข้าไปอย่างสวยงาม

นาทีที่ 82 เดนมาร์ก มาได้ประตูนำห่างออกไปอีกเป็น 4-1 จากจังหวะที่ รัสเซีย พยายามโหมบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่โดนสวนกลับ ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์แบร์ก ลากบอลมาจากฝั่งตัวเองก่อนจ่ายให้ โยอาคิม เมห์เล่ ล็อกเข้าขวาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนยิงที่เสาแรกเข้าไป

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที เดนมาร์ก ไล่ถล่ม รัสเซีย ไปแบบขาดลอย 4-1 เก็บสามคะแนนล้ำค่าในศึกยูโร 2020

จากชัยชนะดังกล่าวทำให้ เดนมาร์ก จบอันดับ 2 ของกลุ่ม B เนื่องจากผลอีกคู่ เบลเยียม เอาชนะ ฟินแลนด์ 2-0 แม้คะแนนของทั้ง เดนมาร์ก, ฟินแลนด์ และรัสเซีย จะมี 3 แต้มเท่ากัน แต่ทีมจากแดนโคนมคว้าอันดับ 2 เนื่องจากคะแนนมินิลีกดีที่สุด ส่วนฟินแลนด์จบอันดับ 3 ต้องไปลุ้นเข้ารอบเป็นหนึ่งใน 4 ทีมอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ซึ่งต้องรอลุ้นผลการแข่งขันจากกลุ่มอื่นๆ ขณะที่รัสเซีย ตกรอบ

ทั้งนี้ เดนมาร์ก จะเข้าไปพบกับอันดับ 2 ของกลุ่ม A อย่าง เวลส์ โดยจะแข่งขันในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ที่๋โยฮัน ครัฟฟ์ อารีน่า กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
Loading the player...

แสดงความคิดเห็น

facebook